xs
xsm
sm
md
lg

"โทนี่"นอนนอกคุก "มือเดียวปิดฟ้า" ยังไงๆ ก็มีปัญหา แฉคนช่วย "ทำดีได้ดี"! ** ปชป.เลิกจำศีล วันนี้เป็นฝ่ายค้าน วันหน้าอะไรก็ไม่แน่ !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**"โทนี่"นอนนอกคุก "มือเดียวปิดฟ้า" ยังไงๆ ก็มีปัญหา แฉคนช่วย "ทำดีได้ดี"!

ตอนนี้ ปมนักโทษโคตรVVIP "โทนี่" ทักษิณ ชินวัตร คนนินทาหมาดูถูก ขยายวงออกไปเรื่อยๆ จนถูกหยิบเอาไปเป็นกระทู้ถามสดในสภา

งานนี้ “ชลธิชา แจ้งเร็ว” ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ถาม เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่ “พ.ต อ.ทวี สอดส่อง” รัฐมนตรีว่าการยุติธรรมเป็นคนตอบแทน ซึ่งก็ตรงตัวแล้ว

เพราะว่าเรื่องนี้ต้อง “ทวี สอดส่อง” รับผิดชอบเต็มๆ

แน่นอนว่า คำถามของก้าวไกลมุ่งไปที่อภิสิทธิ์ของ “ทักษิณ” ย่อมต้องยกเอาเรื่องของ "คนเท่าเทียม" มาเปรียบ

ยกเทียบกันระหว่าง "เอกชัย หงส์กังวาน" ที่ตรวจพบว่าเป็นฝีที่ตับ แต่กลับถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ระหว่างที่การรักษาไม่แล้วเสร็จ และแพทย์ระบุว่า เหตุของโรคมาจากความไม่ถูกสุขลักษณะภายในเรือนจำ

แต่สำหรับกับ “ทักษิณ” กลับได้รับการดูแลอย่างพิเศษนอนที่โรงพยาบาลตำรวจเกินกว่า 120 วันแล้ว

เจอคำถามนี้เข้าไป “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ก็บอกว่า ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่รัฐบาล“เศรษฐา”แถลงนโยบาย วันที่ 11 กันยายน 2566 กระบวนการของทักษิณ รัฐบาลนี้จึงไม่ได้รับรู้ และการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เกิดขึ้นก่อนรัฐบาลปัจจุบัน และเมื่อตัวเองเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ปฏิบัติตาม

ทักษิณ ชินวัตร
พูดจาภาษาชาวบ้านก็ "โยนขี้" ว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองนั่นเองหรือ

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลลุงตู่ ถ้าอยู่กับปัจจุบัน คำถามที่เขาสงสัย ทำไม “ทักษิณ” จึงมีอภิสิทธิ์เหนือใคร และ ระเบียบใหม่นอนนอกคุก ใช่เพื่อประโยชน์ให้ทักษิณหรือไม่ต่างหาก

“วัชระ เพชรทอง” อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ซึ่งเพิ่งแฉ นักโทษชายทักษิณ ไม่ได้กรอกประวัติแม้สักบรรทัดเดียว ล่าสุด เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาฯว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า การประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ฉบับล่าสุด เป็นนโยบายของผู้บริหารของกรม ซึ่งนั่นก็คือ "สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่เร่งให้ออกภายในปีนี้ให้ได้

หลังจากที่ สหการณ์ ลงนามในระเบียบดังกล่าว ต่อมาอีก 13 วัน ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมฯ ตรงกับพุทธภาษิตที่ว่า "ทำดีได้ดี"

คำว่า ทำดีได้ดีคงไม่ต้องแปลความอะไร นอกจากนี้ "เดอะแจ๊ค" ยังได้เรียกร้องให้คณะกมธ. ไป รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์ทราบว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯและนักโทษชาย พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 จริงหรือไม่ ? ก่อนวันคริสต์มาส โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อป้องกันการจัดฉาก

นี่ก็ต้องตามติดกันว่า ไปจริงแล้วจะเจออะไร

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น มีความเคลื่อนไหวฝั่งของ “ทักษิณ” เปลี่ยนจากรับเป็นรุกบ้างแล้ว โดย "วิญญัติ ชาติมนตรี" ทนายความประจำตัวทักษิณ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "อย่าล้ำเส้น"

ท่วงทำนองนี้ ย่อมต้องการส่งสารถึงผู้ใดที่เรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ป่วยของนายใหญ่ โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยการอ้างข่าวลือ ให้ร้ายนายว่า ไม่ได้ป่วยจริง ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือเป็นอภิสิทธิ์ชน ทั้งกล่าวหาพาดพิงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการกล่าวใส่ความ ยุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น จะเข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

ในฐานะทนายความ จึงเป็นธรรมดาที่ต้องปกป้องสิทธิใดๆ ตามครรลองและตามกฎหมาย

เรียกว่า "นายข้าใครอย่าแตะ" แตะได้ถ้า "บ่ย้าน" ถูกฟ้อง ถูกดำเนินคดี แต่นาทีนี้ ถามว่ามีใครกลัว !

คนในสังคมมีสิทธิ์สงสัยไม่ใช่หรือ? ยุทธการเอามือปิดฟ้า ใครทำอะไรเพื่อประโยชน์ให้กับทักษิณ ทุกคนต่างสงสัยใคร่รู้ แต่ไม่เคยมีใครจะเปิดเผยให้สาธารณะรับทราบ ต่าง "โยนขี้" โยนกลองกันไปมา...พลอยทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่ศักดิ์สิทธิ์

ใช่หรือไม่? ต้องถามทวี สอดส่อง!

วัชระ เพชรทอง - ชลธิชา แจ้งเร็ว
** ปชป.เลิกจำศีล วันนี้เป็นฝ่ายค้าน วันหน้าอะไรก็ไม่แน่ !!

หลังเปิดปฏิบัติการ “ยึดพรรคสีฟ้า”แบบเบ็ดเสร็จ วันวาน (21ธ.ค.) หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ก็เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการซักซ้อมว่าหลังจากนี้จะมีการขับเคลื่อนพรรคกันอย่างไร ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในเดือนเมษายน 2567

“เสี่ยต่อ” บอกว่า ในช่วง 3 -6 เดือนนี้ จะต้องทำให้คนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เช่น ข้อบังคับพรรคที่บอกว่าล้าสมัย ไม่เปิดโอกาสให้คนนอกมีส่วนร่วม ก็จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับพรรค โดยให้ “น.ต.สุธรรม ระหงส์” รองหัวหน้าพรรค ไปดูแลดำเนินการเพื่อนำเสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ ก็จะให้ “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ภาคกทม. ดูแลจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร โซเชียลฯ เทคโนโลยีนวัตกรรม เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกับสื่อมวลชน และสมาชิก คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่

ในส่วนของภูมิภาค ก็ได้มอบหมายให้รองหัวหน้าแต่ละภาคไปดำเนินการ จัดทำแผน ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนพรรคในแต่ละภาค

วันนี้ เราต้องแสดงให้เห็นว่า พรรคมีเอกภาพแล้ว และพร้อมขับเคลื่อนทันที เราจะทำงานในหลักการของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง

เฉลิมชัย ศรีอ่อน
“เสี่ยต่อ” ยอมรับว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนไม่ได้ เพราะพรรคไม่มีเอกภาพ ฉะนั้น ตลอดระยะเวลาหลังการเลือกตั้งทำให้คนมองว่า ประชาธิปัตย์จะไปทิศทางไหน ใครจะมาเป็นหัว ในการนำพาพรรคไป ทำให้พรรคนิ่งอยู่กับที่เหมือนกบจำศีล วันนี้ออกพรรษาแล้ว กบก็เลิกจำศีลแล้ว หลังจากนี้เป็นต้นไป คือการขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง เป็นการขับเคลื่อนโดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมากขึ้น

ขณะที่”เดชอิศม์ ขาวทอง” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ก็ออกมาแก้ข่าวที่ว่า หลังมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคจะมีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีออกไปไม่ถึงร้อย ขณะเดียวกัน ก็ขอพิสูจน์ตัวเองในฐานะเลขาฯพรรค จะทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลง จะต้องมีสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นเป็นหมื่น -สองหมื่น ภายในเวลา 3 เดือนนี้ให้ได้

ส่วนบทบาทและทิศทางการเมืองในอนาคตนั้น “เดชอิศม์” บอกว่า วันนี้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านแน่นอน ร้อยเปอร์เซนต์ ส่วนในอนาคตไม่แน่ เพราะไม่สามารถพูดแทน สส. และกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปี 2562 ก็มีการพูดแทนทั้ง สส. และ กก.บห.ว่าไม่ร่วมรัฐบาล สุดท้ายพอมีประชุมร่วม สส. และกก.บห. กลายเป็นว่ามีมติร่วมรัฐบาล ฉะนั้น วันนี้จะเร็วเกินไปที่จะไปพูดถึงเรื่องอนาคต

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ในยุค “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแน่ หากสถานการณ์เอื้ออำนวย

เพราะช่วงก่อนนการจัดตั้งรัฐบาล “เดชอิศม์” ก็ยอมรับว่าได้ไปพบปะ พูดคุยกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ฮ่องกง และในการโหวตรับ “เศรษฐา ทวีสิน”เป็นนายกรัฐมนตรี ส.ส.ในกลุ่มนี้ 16 คน ก็แหกมติพรรค ไปโหวตหนุน “เศรษฐา”ให้เห็นกันมาแล้ว

เดชอิศม์ ขาวทอง
มีการประเมินกันว่า หลังจาก “ทักษิณ ชินวัตร” ลงจากชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไม่ว่าจะได้รับการพักโทษ หรือได้รับประโยชน์จากระเบียบราชทัณฑ์เรื่องคุมขังนอกเรือนจำ เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะมีบทบาทกับพรรคเพื่อไทยมากขึ้น แม้จะไม่ได้ออกหน้าก็ตาม

การสร้างพรรคการเมือง สไตล์ทักษิณนั้น จะเน้นให้ได้ส.ส.เกิน 200 เสียง เพื่อเป็นพรรคอันดับ 1 รับประกันการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เหมือนในอดีตที่เขาก่อตั้งพรรคไทยรักไทยแล้วเดินเกมยุบรวมพรรคความหวังใหม่ ของ “พ่อใหญ่จิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มารวมกับพรรคไทยรักไทย

ยุคนี้ พรรคเพื่อไทยมี 141 เสียง ถ้าจะมีพรรคการเมืองที่ถูกควบรวมเข้ามา น่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีอดีตคนของพรรคเพื่อไทยอยู่ที่นี่กันหลายคน แม้ไม่ยุบพรรคแต่อาจมาบางส่วนก็ได้

แน่นอนว่าประชาธิปัตย์ ก็น่าจะเป็นหนึ่งในเป้าหมาย เพราะเป็นยุคที่ตกต่ำ ระส่ำระสายที่สุด มีส.ส.เพียง 25 เสียง ส.ส.ส่วนใหญ่มิได้มั่งคงในอุดมการณ์เหมือนยุคของผู้อาวุโส “ชวน หลีกภัย -บัญญัติ บรรทัดฐาน” ขณะที่ผู้อาวุโสอีกหลายคนก็ลาออกจากพรรคไปแล้ว

หากยุบประชาธิปัตย์มารวมกับเพื่อไทยได้ “ทักษิณ ชินวัตร” คงสะใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นคู่ต่อกรกันมากว่า 20 ปี และจะได้ใช้โอกาสนี้สยายปีกลงไปคุมพื้นที่ภาคใต้แบบเบ็ดเสร็จ

จึงน่าติดตามว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ประชาธิปัตย์ยุค “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” จะแค่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย หรือจะเจอกับข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้ ถึงขั้นยอมยุบพรรคเก่าแก่ที่มีอายุ 77 ปีนี้ไปรวมกับพรรคเพื่อไทย

ถ้าเป็นอย่างหลัง “ชวน หลีกภัย” คงน้ำตาตกใน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น