จ่อขยับอำนาจ “ผู้ว่าซีอีโอ” ได้ใช้งบประมาณเชิงพื้นที่ 3 มิติ เฉพาะปีงบฯ 2567 จังหวัดเสนอมาแล้ว 205,670 ล้านบาท จาก 51,328 โครงการ ส่วนกระทรวง/กรมในจังหวัด เสนอ 1,197 โครงการ วงเงิน 39,704 ล้านบาท คาดเพิ่มอำนาจ เลื่อนเงินเดือน-ดำเนินการทางวินัย-ให้บำเหน็จ บิ๊กข้าราชการใน 76 จังหวัด
วันนี้ (13 ธ.ค.) มีรายงานจากกระทรงมหาดไทย เปิดเผยว่า ความคืบหน้าต่อนโยบายรัฐบาล พรรคเพื่อไทย เพื่อฟื้นผู้ว่าซีอีโอ ด้วยการกระจายอำนาจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานเชิงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด
ภายหลัง ครม.สัญจร หนองบัวลำภู เห็นชอบตามที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับการดำเนินงานและจัดทำคำของบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาคุณภาพ ในการจัดทำเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด 20 ปี แผนพัฒนาจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด แนวทางในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ เป็นต้น
ทั้งเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการกำกับการพัฒนาตามแผนพัฒนาจังหวัด ด้วยการบูรณาการงบประมาณจากทุกแหล่งงบประมาณที่มีการดำเนินงานในพื้นที่
การยึดแผนพัฒนาจังหวัดเป็นหลักในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณของทุกหน่วยงาน เชิงพื้นที่ (Area - Based) มีการบูรณาการกันอย่างแท้จริง
ปฏิบัติตามมาตรา 53 ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565
“ที่กำหนดให้ ปลัดกระทรวง หรือ อธิบดี มอบอำนาจในการประเมินผลการปฏิบัติราชการ เช่น การเลื่อนเงินเดือน การให้บำเหน็จความชอบ และการดำเนินการทางวินัยข้าราชการส่วนภูมิภาคในจังหวัด ตำแหน่งประเภทอำนวยการ และประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด”
รวมถึงปรับปรุงการกำหนดตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัด (KPIs) ให้สามารถวัดผลการพัฒนาได้จริงและสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร เพื่อให้การติดตามและประเมินผลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุด สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า เฉพาะการยึดแผนพัฒนาจังหวัดเป็นหลักในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณของทุกหน่วยงาน ที่มีงบประมาณประจำปีจัดสรรให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวม 28,000 ล้านบาท
“แต่งบประมาณที่จังหวัดได้รับการจัดสรร เพื่อขับเคลื่อนการพัมนาจังหวัดมีจำนวนจำกัด เฉลี่ยจังหวัดละ 160 - 470 ล้านบาท ขณะที่่งบฯ กระทรวง และ กรม มีโครงการและงบจำนวนมากที่จัดสรรลงพื้นที่จังหวัด แต่ยังไม่เชื่อมโยงหรือสอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด”
จึงมีการจัดสรรงบประมาณของทุกหน่วยงาน เชิงพื้นที่ (Area-Based) จะต้องมีการบูรณาการเชิงพื้นที่ 3 มิติ (Agenda-Function-Area) กันอย่างแท้จริง
ขณะที่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2567 มหาดไทย ได้รวบรวมประมวลโครงการ พบว่า
ปีงบฯ 2566 เป็นโครงการของจังหวัด ที่เสนอมา 48,822 โครงการ วงเงิน 575,425 ล้านบาท โครงการของกระทรวง/กรมในจังหวัด เสนอ 2,525 โครงการ วงเงิน 45,968 ล้านบาท โดยได้รับการจัดสรรงบนั้น วงเงินรวม 14,376 ล้านบาท จาก 1,226 โครงการ
ส่วนปีงบฯ 2567 พบว่า จังหวัดเสนอมา 205,670 ล้านบาทจาก 51,328 โครงการ โครงการของกระทรวง/กรมในจังหวัด เสนอ 1,197 โครงการ วงเงิน 39,704 ล้านบาท โดยได้รับการจัดสรรงบนี้ วงเงินรวม 15,977 ล้านบาท จาก 663 โครงการ.