หนองบัวลำภู - ประชุม ครม.สัญจรแจกแหลก เปิดโอกาสให้แต่ละจังหวัดเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณจังหวัดเพิ่มอีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว ด้านยาเสพติด แก้ปัญหาทางการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม รวมทั้งผลักดันให้ จ.หนองบัวลำภูเข้าร่วมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย
วันนี้ (4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ จ.หนองบัวลำภู สถานที่ประชุม ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 "หนองบัวลำภูโมเดล" 3 ก. แก้จน แก้ยาเสพติด และแก้สารเคมี โดยมีนักการเมือง ส่วนราชการ เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก ท่ามกลางความสนใจของประชาชน ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณรอบนอก ขณะที่ผู้ประกอบการสินค้าโอทอปในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพผู้ผลิต และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าฝ้าย ผ้าไหม ที่ได้จากภูมิปัญญาและเป็นชิ้นงานหัตถกรรมที่ขึ้นชื่อ หลายแบรนด์ ต่างนำผลิตภัณฑ์มาจัดบูทแสดง และจำหน่าย บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
ประชุม ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 เป็นครั้งแรกในภูมิภาคอีสานตอนบน หรือกลุ่มจังหวัด "สบายดี" ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน คือ เลย อุดรธานี หนองคาย และหนองบัวลำภู มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยทุกหน่วยงาน ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ อารักขาเข้มข้น บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 1 นี้ ฝ่ายดำเนินการประชุมได้ออกแบบให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง พร้อมคณะ สวมเสื้อ ครม.สัญจร สีชมพู "ลายขอ" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการตัดเย็บจากผ้าลายบัวลุ่มภู ของดีขึ้นชื่อของกลุ่มผู้ผลิต จ.หนองบัวลำภู เพื่อแสดงอัตลักษณ์ และประชาสัมพันธ์ของดีที่โดดเด่น ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
สำหรับวาระการประชุม ครม.สัญจรวันนี้มีวาระสำคัญคือ เปิดโอกาสให้แต่ละจังหวัดเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณจังหวัดเพิ่มอีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว ด้านยาเสพติด แก้ปัญหาทางการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม รวมทั้งผลักดันให้ จ.หนองบัวลำภูเข้าร่วมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย
โดยหลังการประชุม ครม.สัญจร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ในส่วนโครงการซอฟต์เพาเวอร์ที่กำลังขับเคลื่อนนั้น จะใช้งบประมาณดำเนินการจำนวน 5,164 ล้านบาท ให้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ และต้องเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากที่สุด
"ขณะที่ความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเลตนั้นจะมีการส่งเรื่องถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาภายในสิ้นเดือนนี้" นายเศรษฐากล่าวในที่สุด