xs
xsm
sm
md
lg

“ชวน”พ่ายศึกเลือกหัวหน้าพรรค ปชป.วันนี้จากแกนหลักสู่พรรคอะไหล่ ** เดี๋ยวก็รู้..คำทำนายแม่ยก "ติ๊งต่าง" กาญจนี แช่งชัก "แมลงสาบ" จะแตกรังแบบน่าตกใจ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



** “ชวน”พ่ายศึกเลือกหัวหน้าพรรค ปชป.วันนี้จากแกนหลักสู่พรรคอะไหล่

การเลือกหัวหน้าพรรคคนที่ 9 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าพลิกไป พลิกมา จากเดิมที่เปิดตัวกันมา คือ “นราพัฒน์ แก้วทอง” จะชิงกับ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค และมีการประเมินว่า “มาดามเดียร์”น่าจะได้ตำแหน่งนี้ไปครอง เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ มีแบ็กดี มีผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคให้การสนับสนุน

โดยเฉพาะได้มีการไปพูดคุย เจรจา ขอรับการสนับสนุนจาก “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รักษาการหัวหน้าพรรค และรักษาการเลขาธิการพรรค ที่คุมเสียงสส.ส่วนใหญ่ มาแล้วหลายรอบ ก็มีสัญญาณดี จึงกล้าออกตัวแรง

แต่แล้ว “มาดามเดียร์” ก็ถูกเท!!

เมื่อ “เดชอิศม์ ขาวทอง” รักษาการรองหัวหน้าพรรค ภาคใต้ กับ “ชัยชนะ เดชเดโช” รักษาการ รองเลขาธิการพรรค ได้เรียกประชุมสส.ในกลุ่มของตนเอง 21 คน และมีมติว่า จะไปเชิญ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” มาเป็นหัวหน้าพรรค และ “เฉลิมชัย” ก็ตัดสินใจกลับมาตามคำเรียกร้องเสียด้วย

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ “เฉลิมชัย” ประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว หลังผลการเลือกตั้งล่าสุดออกมาได้ สส.ไม่ถึง 52 เสียง
ส่วน “มาดามเดียร์” ที่ปกติก็ขาดคุณสมบัติการเป็นหัวหน้าพรรค เพราะมาเป็นสมาชิกพรรคยังไม่ถึง 5 ปี แต่มีข้อยกเว้นว่า ถ้ามีสมาชิก 3 ใน 4 ของที่ประชุมให้การรับรองก็สามารถลงแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้ เมื่อเกมออกมารูปนี้ก็มี “ใบสั่ง” ออกมา แล้วที่ประชุมพรรคก็ลงมติไม่ถึง 3 ใน 4 “มาดามเดียร์” เลยถูกคัดออก

ในที่ประชุม “ชวน หลีกภัย” ในฐานะสมาชิกพรรค จึงเสนอชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรค ขึ้นชิงตำแหน่ง แต่ในที่สุดหลังจาก “อภิสิทธิ์” ปิดห้องคุยกับ “เฉลิมชัย” สองต่อสองเป็นเวลาประมาณ 10 นาที เมื่อออกมา “อภิสิทธิ์” ก็ขอถอนตัว และประกาศลาออกจากสมาชิพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

เป็นสัญญาณว่า คุยกันไม่รู้เรื่อง เจรจาไม่ลงตัว!!

แล้ว “เฉลิมชัย”ก็ เข้าวินโดยปราศจากคู่แข่ง และตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่สำเร็จ โดยมี “เดชอิศม์ ขาวทอง” ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค

ความพยายามของ “ชวน หลีกภัย” ในการสกัดกลุ่มของ “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” ที่ก่อนหน้านี้แสดงออกชัดเจนว่า ต้องการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งแผนสกัดกั้นในครั้งนั้นคือ ไม่เข้าห้องประชุม จนทำให้“องค์ประชุมล่ม” ไปสองครั้ง

แต่ครั้งนี้ ทางกลุ่มผู้กุมเสียงสส.ในพรรค มีการแก้เกมโดยระดมสมาชิก มาเตรียมเป็นองค์ประชุมสำรองไว้ ไม่ให้องค์ประชุมล่ม และสุดท้าย “เฉลิมชัย” ก็ได้ขึ้นนั่งหัวหน้าพรรค

อย่างไรก็ตาม แม้จะพ่ายแพ้ในเกม “เลือกหัวหน้าพรรคตามใบสั่ง” นี้ “ชวน หลีกภัย” ก็ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค ... “ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ยังไงผมก็ต้องอยู่ เพราะเป็นหนี้บุญคุณพรรค ...บุญคุณอันนี้ใช้ไม่หมด ผมต้องตอบแทนบุญคุณในช่วงปลายชีวิตการเมือง”

พร้อมกันนี้ “ชวน หลีกภัย” ยังฝากไปยังกรรมการบริหารพรรคบางคนที่ยังรักและห่วงพรรคอยู่ ให้ช่วยกันดูแล อย่าให้ประชาธิปัตย์ ถูกนำไปเป็นพรรคอะไหล่ อย่าให้ใครเอาพรรคไปหากิน!!

คำว่า “พรรคอะไหล่”นี้ “ชวน หลีกภัย” เคยพูดมาครั้งหนึ่งแล้ว จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่ประชุมรัฐสภามีมติ 482 ต่อ 165 เสียงเห็นชอบให้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี สว. โหวตหนุนถึง 152 เสียง และยังมีสส.พรรคประชาธิปัตย์อีก 16 เสียง ที่ “แหกมติพรรค” มาร่วมโหวตสนับสนุน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยด้วย

ครั้งนั้น ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ มีมติงดออกเสียง แต่16 ส.ส.ในกลุ่มของ “เฉลิมชัย เดชอิศม์” ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ต้องการร่วมรัฐบาล จึงฝืนมติพรรคไปโหวตหนุน “เศรษฐา ทวีสิน”

“ชวน หลีกภัย” ในฐานะผู้อาวุโสของพรรคิจึงออกปากปราม ส.ส.กลุ่มนี้ว่า... “เราไม่ใช่เป็นพรรคอะไหล่ แต่เราเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนหวังพึ่ง แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมาได้คะแนนน้อยมาก แต่ก็ต้องตอบแทนบุญคุณประชาชน ไม่ทรยศประชาชน ”

วันนี้ “เฉลิมชัย” ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค “เดชอิศม์” เป็นเลขาธิการพรรค คำว่า “พรรคอะไหล่” ก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง เพราะคาดการณ์ว่า ในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมที่จะเข้าไปเสียบ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

แต่ “เฉลิมชัย” ก็ประกาศหลังได้รับการเลือกจากสมาชิกให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า...จะยึดมั่นในอุดมการณ์ และหลักการ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เป็นอะไหล่ให้กับพรรคไหน จะทุ่มเททุกอย่างให้ประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้านที่สมบูรณ์ และเข้มแข็งที่สุด...

กระนั้น กระแสในโซเชียลฯ ก็วิพากวิจารณ์ประเด็นนี้ โดยเห็นว่านั่นเป็นแค่คำประกาศของ “นักการเมือง” ที่พอเห็น “ผลประโยชน์” ก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลง และจะมีข้ออ้าง หาเหตุผลมารองรับได้เสมอ

ดูได้จากก่อนหน้านี้ ที่ “เฉลิมชัย” ประกาศเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ยังยอมกลับมา โดยอ้างว่าเพื่อมากอบกู้พรรค
ยอมตระบัดสัตย์ โดยเก็บคำขวัญของพรรค ที่ว่า “สจฺจํ เว อมตา วาจา (คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย)” ไว้ในลิ้นชักชั่วคราว!!

** เดี๋ยวก็รู้..คำทำนายแม่ยก "ติ๊งต่าง" กาญจนี แช่งชัก "แมลงสาบ" จะแตกรังแบบน่าตกใจ!!

ความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลัง"เฉลิมชัย ศรีอ่อน" ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ปังไม่ไหวกลายเป็นพังพินาศไม่แตกต่างอะไรกับ "แมลงสาบ" แตกรัง!

สมาชิกที่รับไม่ได้ ศรีไม่ทนบางส่วนได้ทยอยลาออกตาม "พี่มาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็รวมถึง "ติ๊งต่าง" นางกาญจนี วัลยะเสวี เจ้าของฉายา"ไฮโซสปอร์ตคลับ" แม่ยกพรรคที่ฟาดงวงฟาดงาก่อนจากแบบมีประเด็นให้ติดตาม

ไถฟีดโซเชียลฯ กลับไปดู ก็ต้องบอกว่า แม่ยกเมื่อไม่ได้ดั่งใจนั้นน่ากลัวเพียงใด ใส่ไม่ยั้ง โพสต์รัวๆ ผ่านโซเชียลฯส่วนตัวชนิดเดือดปุดๆ

"ไม่เคยว่า พรรคของตัวเองก็จำต้องทำ ปชป.ยุคนี้จะถูกประชาชนลงโทษอย่างสาสม คิดแล้วอยากร้องไห้ ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับพรรค ปชป.

"ยกพรรคให้มันไป อาทิตย์หน้าสมาชิก ปชป.จะลาออกจากสมาชิก # เยอะแบบคนจะตกใจ"

ใครที่เพิ่งผ่านไป ผ่านมา ไม่ใช่เอฟซีพรรคเก่าแก่ลูกพระแม่ธรณีบีบมวยผม อาจจะถามว่า "ติ๊งต่าง" กาญจนี วัลยะเสวี มีอิทธิพลบารมีอะไรในปชป. ถึงได้ทำนายทายทักแช่งชักหักกระดูกพรรคที่เคยรักได้ลงคอ

ย้อนกลับไปดูวันวาน ก็จะเห็นได้ว่า "แม่ยก" ผู้นี้มีสายสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับผู้ใหญ่ในปชป. โดยเฉพาะผู้อำนาจเดิมที่ฝังรากหยั่งลึกภายในพรรค

ขนาดวันเกิดเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แขกเหรื่อของเธอล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรค “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช” , “เกียรติ สิทธีอมร”, “พนิต วิกิตเศรษฐ์” หรือแม้แต่ "มาดามเดียร์" น.ส.วทันยา บุนนาค ที่ถูกหักอก อดขึ้นท้าชิงหัวหน้าพรรคหนนี้ ก็ไปร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
ที่สำคัญสมาชิกพรรคอีกหลายคนที่อยู่ในขั้ว "ชวน-อภิสิทธิ์" ต่างให้เกียรติเรียกหา "คุณติ๊งต่าง" กันตามนายหัว
นั่นเพราะที่ผ่านมา "ติ๊งต่าง" เองก็ไม่เคยทำให้นายหัวชวน และ “พี่มาร์ค” อภิสิทธิ์ ผิดหวัง

บทบาทของ "ติ๊งต่าง" หลายๆครั้ง มักออฟไซต์ ทำตัวเป็นมากกว่า "แม่ยก" เหมือนจะเป็นเจ้าของพรรค และเจ้าของ "ชวน-อภิสิทธิ์" ชนิดของของข้าใครอย่าแตะ

แอกชั่น "หิวแสง" ก็แรงจัด อยู่ในประเภท "เล่นใหญ่" ใส่สารพัดหาก "ฝ่ายตรงข้าม" ทั้งในและนอกพรรคกล้าแตะ “ชวน-อภิสิทธิ์” เมื่อไหร่ เป็นได้เห็นฤทธิ์ "ติ๊งต่าง"

แม่ยกหรือองครักษ์พิทักษ์ “ชวน-มาร์ค” คนในปชป.หลายคนสงสัย

เบื้องหลังการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคปชป. บรรดาคนปชป. ก็ได้เห็นฤทธิ์เดชแม่ยกกันเป็นที่ประจักษ์ ทั้งก่อนเลือก และหลังเลือกตั้ง

นี่ก็ต้องไปถาม "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" หัวหน้า และพลพรรคกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ สส.ในมุ้งว่า "โทรโข่ง" แม่ยก “ติ๊งต่าง”เล่นเกินเลยไปแค่ไหน?

ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง.. ประชาธิปัตย์มาถึงวันที่ย้อนอดีตกลับไปไม่ได้ “ชวน”บารมีถดถอย “อภิสิทธิ์” แม้จะกรีดเลือดเป็น"สีฟ้า" แต่ก็อำลาพรรคไปเรียบร้อย ก็ย่อมไม่หลีกหนีไม่พ้นความเสื่อม

เช็กขุมกำลังกันในวันนี้ ขั้วเก่าที่เคยใหญ่ มากบารมี ถามว่ามีมากกว่า หรือน้อยกว่าขั้ว "เฉลิมชัย-เดชอิศม์ ขาวทอง" ?!
เพียงแต่ว่า สภาพ ปชป.ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลา "เอาดีใส่ตัว โยนชั่วให้ผู้อื่น" สถานการณ์ใครจะพูดอะไรก็ล้วนแต่รับฟังไม่ได้
ที่ “ติ๊งต่าง” ว่า " สัปดาห์ที่จะถึงนี้ สมาชิกปชป.จะแห่ลาออกจากสมาชิก #เยอะแบบคนจะตกใจ" พรรคจะถูกประชาชนลงโทษ จะเป็นจริงหรือไม่ เดี๋ยวรู้กัน


กำลังโหลดความคิดเห็น