รองหัวหน้า ปชป. ยินดีตรวจสอบไลน์หลุดล็อบบี้สกัด “มาดามเดียร์” นั่ง หน.พรรค ถาม คนลาออกรักพรรคจริงหรือไม่ หรือรักตัวเอง ย้ำ ส.ส. 23 จาก 25 คน รับได้ “เฉลิมชัย” นำทัพ ปชป. ย้อนถามใครพูดว่าจะร่วมรัฐบาล ตอนนี้เป็นฝ่ายค้าน อนาคตยังไม่รู้
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์พรรคภายหลังมีกระแสข่าวว่าจะมีสมาชิกหลายคนเตรียมลาออก ว่า พรรค ปชป.เป็นองค์กร ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง 4 ปี ต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากเรารักองค์กร ใครที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เราก็พร้อมที่จะทำงานให้ แต่หากใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออก แปลว่า ไม่ได้รักองค์กร เพราะหากเราต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา หากรัก ปชป. เราก็ต้องยืนอยู่กับพรรค ช่วยกันฟื้นฟูพรรค และ กก.บห.ชุดใหม่ไม่ดี ถึงเวลา 4 ปี ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตนเชื่อว่า ทุกคนมีวุฒิภาวะอยู่ ในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่อยู่แล้วและคิดว่า
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ต้องพูดคุยทุกคน เพราะทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ ไม่มีฝ่าย อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ วันนี้ลืมความหลัง และว่ากันในอนาคต ช่วยกันทำ ท่านหัวหน้าพรรคและพวกผมพร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน หลังจากนี้จะเดินหน้าไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ แล้วไปเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราต้องการ
เมื่อถามว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.ระยอง พรรค ปชป. ระบุว่า คนไม่มีสัจจะ จะไม่สามารถนำพรรคในสถานการณ์เช่นนี้ได้ นายชัยชนะ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของนายสาธิตที่มีสิทธิที่จะพูดว่ากล่าวได้ ซึ่งเราก็ยอมรับในคำพูดของทุกคน และตนคงไม่ไปโต้เถียงใคร วันนี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง เป็นเวลาที่เริ่มต้นการทำงานที่จะฟื้นฟูพรรค ส่วนใครจะติชมหรือตำหนิอย่างไรเราก็พร้อมรับฟัง เราฟังได้ อดทนได้ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือคำพูดคือ ผลการเลือกตั้งข้างหน้าว่า กก.บห. จะนำพาให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิมหรือไม่
เมื่อถามว่า หากสมาชิกพรรคหลายคนต่อต้าน จะทำให้พรรคแตกหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ”ใครต่อต้านครับ สมาชิกทั้ง 25 คนที่มีอยู่ตอนนี้ เสียง 23 คนรับได้ ส่วนตัวแทนสาขาพรรค เสียงส่วนใหญ่ก็เลือกมา แล้วคนที่ลาออกรับพรรคหรือรักตัวเอง หากรักพรรคต้องสามารถทำงานได้กับทุกคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค หากท่านเฉลิมชัยไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ผมก็พร้อมทำงานให้พรรคและไม่ลาออก แต่หากผมลาออกถือว่าผมรักตัวเอง“
เมื่อถามว่า พร้อมที่จะทำงานเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าพร้อมจะพลิกขั้วไปร่วมรัฐบาล เพราะในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาเคยมีการยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี นายชัยชนะ กล่าวว่า การโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรี ตนพูดชัดเจนว่า เป็นการหาทางออกให้ประเทศและเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้บอกว่าโหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน 16 คน ที่โหวตให้นายเศรษฐา และหลังจากวันโหวตนายกรัฐมนตรี ต้องดูว่าตน ทำงานตรวจสอบและออกไปอภิปรายนายเศรษฐาหรือไม่ ขณะนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอยู่
“ส่วนที่มีข่าวว่าจะไปร่วมรัฐบาลนั้น นั่นคือใครพูดครับ มีจุดประสงค์ดีกับพรรคหรือไม่ ที่มาพูดเช่นนี้ พรุ่งนี้ตื่นมาจะหายใจหรือไม่ยังไม่รู้เลย ว่าจะร่วมอย่าไปคาดหวังอนาคตว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะนั่นเป็นเรื่องของอนาคต แต่นาทีนี้ เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำให้ดีที่สุด” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีไลน์กลุ่มล็อบบี้ไม่ให้ยกมือยกเว้นข้อบังคับให้ น.ส.วทันยา บุนนาค ว่า ข้อเท็จจริง สส.ของพรรคส่วนใหญ่และตนก็ยกมือให้ยกเว้นข้อบังคับให้มีการแข่งขัน และยินดีที่จะเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ ส่วนโหวตเตอร์ที่เป็นตัวแทนสาขาพรรคก็แล้วแต่ว่าเขาจะโหวตไปในทิศทางใด ส่วนกรณีดังกล่าวนั้น ต้องไปดูว่าผู้ที่กระทำนั้นเป็นใครหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ร้องเรียนมา ยินดีที่จะตรวจสอบและพิจารณาให้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มองว่า เป็นการล็อบบี้กันก่อนโหวตหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า สามารถมองกันได้แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากัน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นมาอย่างไร