“มาดามเดียร์” พลาดชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ที่ประชุมยกมือรับรองไม่ถึง 3 ใน 4 เหลือ “เฉลิมชัย” ชื่อเดียว หลัง “อภิสิทธิ์” ประกาศลาออกจากพรรค “เสี่ยต่อ”เผยตัดสินใจวันนี้มันเจ็บทำลายสิ่งที่สร้างมาทั้งชีวิต ยันจะทำให้พรรคมีเอกภาพที่สุด ไม่มีวันทำลายหลักการและอุดมการณ์พรรค
วันนี้(9 ธ.ค.)สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กทม. ภายหลังจากที่นายชวน หลีกภัย เสนอชื่อนายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และผ่านการรับรองจากองค์ประชุมแล้ว แต่นายอภสิทธิ์ได้ไปเคลียร์ใจกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค และผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกคนแล้ว นายอภิสิทธิ์ได้ประกาศต่อที่ประชุมขอถอนตัวและลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
จากนั้นได้เข้าสู่กระบวนการเสนอชื่ออีกครั้ง โดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรค ภาคใต้ เสนอชื่อนายเฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่นายขยัน วิพรหมชัย อดีต สส.ลำพูนของพรรค เสนอชื่อ น.ส.วทันยา บุนนาค มีเสียงรับรองเพียงพอ แต่เนื่องจากคุณสมบัติเป็นสมาชิกไม่ถึง 5 ปี และไม่เคยเป็น สส.ของพรรค ขัดกับข้อบังคับพรรค ข้อ31(6) และข้อ 32(1 ) จึงต้องใช้เสียง 3 ใน 4 ของจำนวนผู้มาประชุม หรือ 195 เสียง เพื่อยกเว้นข้อบังคับดังกล่าว
โดยนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ ลุกขึ้นกล่าวว่า มติ 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับนั้นไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอะไร ถ้าเราจะเปิดโอกาสให้เราได้แข่งขัน จึงอยากสนับสนุนให้องค์ประชุมสนับสนุนให้ น.ส.วทันยา ลงคะแนนและได้แข่งขัน เมื่อแข่งขันแล้วผลออกมาอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น
ผลการยกมือโหวตได้คะแนน 139 เสียง ซึ่งไม่ถึง 3 ใน 4 ขององค์ประชุมคือ 196 เสียง จึงทำให้ น.ส.วทันยา หมดสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ด้านนายเฉลิมชัย ลุกขึ้นกล่าวความในใจ ภายหลังเข้าเคลียร์ใจส่วนตัวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคว่า การตัดสินใจของตนในวันนี้มันเจ็บ มันทำลายสิ่งที่ตนสร้างมาทั้งชีวิต ตนเข้าใจ ขอยืนยันว่าตนกรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้าไม่เป็นสีอื่นเลย ตลอดเวลาที่ตนอยู่ในพรรคก็เคร่งครัดยึดหลักการและอุดมการณ์ของพรรคไม่เคยเปลี่ยนแปลง ซึ่งตนได้เรียนเรื่องนี้กับนายอภิสิทธิ์ด้วย ตนขอเรียนสั้นๆ ว่าตนมีความจำเป็น และอยากเห็นพรรคเดินไปข้างหน้า ตนจะทำให้พรรคมีเอกภาพ ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคที่มีอยู่แล้ว
“ที่สำคัญที่ผมได้คุยกับนายอภิสิทธิ์เมื่อซักครู่ที่ผ่านมา ผมได้ยืนยันกับนายอภิสิทธิ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เป็น แต่เราไม่เคยเป็นตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มา 22 ปี หลายสิ่งที่ผ่านมาอาจทำให้พรรคสะดุด ผมก็จะพยายามทำทุกอย่าง ผมมาทำงานในภารกิจหนึ่ง ผมจะพยายามทำให้พรรคมีเอกภาพ ทำให้ดีที่สุด และไม่มีวันทำลายหลักการและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์”
นายเฉลิมชัย กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายหลังนายอภิสิทธิ์ประกาศลาออกสมาชิกพรรคกลางที่ประชุม ทำให้อดีต สส.และสมาชิกพรรคหลายคนถึงกับตกตะลึง น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล อดีต สส.กระบี่ นางกันตวรรณ ตันเถียร อดีต สส.พังงา ถึงกับน้ำตาซึม