xs
xsm
sm
md
lg

“ช่อดอกไม้เงิน” แฮปปี้เบิร์ธเดย์ “อั้ม พัชราภา” เบื้องหลังสายเปย์ "บอสหน่อย” ปนันชิตา รวยมาจากไหน? ** “เสี่ยต่อ” จะกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ เมื่อส.ส.ลูกทีม ดันขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคปชป.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“ช่อดอกไม้เงิน” แฮปปี้เบิร์ธเดย์ “อั้ม พัชราภา” เบื้องหลังสายเปย์ "บอสหน่อย” ปนันชิตา รวยมาจากไหน?

เล่นเอาอิจฉาตาร้อนผ่าวกันขึ้นมาทันที เมื่อ“อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ ซุปตาร์ ดาราสาวโพสต์ไอจี ที่มีผู้ติดตามกว่า 16 ล้านคน ให้ได้ตาลุกวาว กับ “ช่อดอกไม้” ช่อเบ้อเริ่มเทิ่มที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าเพ่งตามองให้ดีจะเห็นเป็น “ช่อดอกไม้เงิน”

เห็นว่า ดอกไม้เงินช่อนี้ประดิดประดอยมาจากธนบัตรที่ใช้ชำระหนี่ได้ตามกฎหมายใบละพัน กว่า 300 ดอก คิดเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของนำมามอบให้ดาราสาวก็ไม่ใช่ใคร อื่นไกล จากคนที่อยู่ร่วมเฟรมภาพซ้าย-ขวา คือ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร กับ “บอสหน่อย” ปนันชิตา ที่หอบมาเซอร์ไพรส์ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ย่างเข้าสู่วัย 45ปี ของ “อั้ม”น้องรัก

ใครได้ดอกไม้ช่อนี้ย่อมต้องยินดีปรีดา ดาราสาวถึงกับเขียนแคปชั่นว่า “ขอบคุณมากๆๆๆ นะคะ ช่อดอกไม้เงินแบบนี้ อั้มชอบมากเลยค่ะ ยินดีรับทุกปี @pananchita_akkrarasapthada @pananchita__thailand ขอให้สินค้าขายดีมากๆนะคะ”

สำหรับเจ้าของช่อดอกไม้เงิน แน่นอนว่า “เอ” ศุภชัย รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวงการบันเทิง เป็นผู้จัดการของนักแสดงที่มีชื่อเสียงแถวหน้าหลายคน นอกจาก “พัชราภา ไชยเชื้อ” ก็ยังมี “ณเดชน์ คูกิมิยะ”, “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นต้น

“หน่อย”ปนันชิตา อัครทรัพย์ธาดา– “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ  และ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร
ส่วน “บอสหน่อย” ก็ต้องบอกว่า แม้ช่วงหลังจะมีคนรู้จักมากขึ้น แต่ก็ถามไถ่กันมาว่า เธอเป็นใคร ? รวยมาจากไหน ทำธุรกิจอะไรถึง “เปย์” กระหน่ำซัมเมอร์เซลแบบนี้

ต้องบอกว่า “ปนันท์ชิตา อัครทรัพย์ธาดา” หรือ “บอสหน่อย” ที่ตัวแทนแบรนด์ปนันชิตา เรียกกัน เป็นคนก่อตั้งแบรนด์ Pananchita ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ ว่ากันว่ามียอดขายหลายร้อยล้านต่อปี

ในโปรไฟล์แนะนำตัวจากเว็บไซต์แบรนด์ปนันชิตา เธอเองบอกว่าเป็น แม่ลูก 3 ที่ต่อสู้ชีวิตมากว่า 10 อาชีพ จากแม่ค้าหมูฝอย สู่เจ้าของแบรนด์อาหารเสริม

วงการธุรกิจออนไลน์ตอนนี้ ว่ากันว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “ปนันชิดา” ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เปิดแบรนด์ปนันชิตา ในปี2560 จนถึงปัจจุบัน เห็นว่า เติบโตมาแบบก้าวกระโดดด้วยการทำตลาดจากปนันชิดาเอง ที่เรียกว่า น้อยแบรนด์นักที่จะทำได้ เพราะ ชักนำดาราชั้นนำมาร่วมธุรกิจได้มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าเท่านั้น แต่คือพาร์ทเนอร์ธุรกิจ จับมือเป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เอศุภชัย ธัญญ่า ธัญญาเรศ เอกกี้ และ อ้น ศรีพรรณ

งานนี้จัดช่อดอกไม้เซอร์ไพรส์แบบนี้ให้ “อั้ม” ทุกปีตามขอ ขนหน้าแข้งร่วง ก็ให้มันรู้ไป

** “เสี่ยต่อ” จะกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ เมื่อส.ส.ลูกทีม ดันขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคปชป.

เฉลิมชัย ศรีอ่อน
ศึกชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ เข้มข้นดุเดือดเกินคาด

ที่เปิดตัวมาแล้ว ก็มี “นราพัฒน์ แก้วทอง” รักษาการรองหัวหน้าพรรค ภาคเหนือ อดีต สส.ปาร์ตี้ลิสต์ บุตรชายคนโตของ “ไพฑูรย์ แก้วทอง” บ้านใหญ่เมืองพิจิตร ซึ่งส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรค ที่อยู่ในกลุ่มของ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค เปิดตัวเตรียมสู้กับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรค เมื่อคราวโน้น แล้วเกิดองค์ประชุมล่มไปสองครั้ง ยังคงยืนยันว่าจะสู้ต่อ

อีกคนที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา คือ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ภรรยาของ “ฉาย บุนนาค” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

วทันยา บุนนาค
เมื่อเปิดตัวมาแล้ว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของทั้งสองคนนี้ ก็ประกาศเอาจริง สู้จริงกันทั้งคู่ ... “ไพฑูรย์ แก้วทอง” ที่เก็บตัวเงียบมานาน ก็ออกมาเคลื่นไหว ขอเสียงสนับสนุนให้ลูกชาย ขณะที่ “มาดามเดียร์” ก็เตรียมประกาศนโยบาย แนวทางกอบกู้พรรค ก่อนถึงวันประชุมใหญ่

เทียบฟอร์มแล้ว สังคมทั่วไปจะรู้จัก “มาดามเดียร์” มากว่า “นราพัฒน์” เรียกว่าถ้ามายืนคู่กัน มาดามเดียร์ จะมี “ออร่า” เหนือกว่าเห็นๆ

ก็ขนาด สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพิ่งทำโพลสำรวจคะแนนนิยมไปเมื่อวันที่ 1-4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า “มาดามเดียร์” ชนะขาดลอย ได้คะแนนร้อยละ 71.56 ส่วน “นราพัฒน์” ได้แค่ ร้อยละ 28.44

ถ้าปล่อยให้คู่นี้ชิงกันในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ มีโอกาสสูงมากที่ “มาดามเดียร์” จะเข้าวิน ... นั่นหมายถึง “กลุ่มทุนใหม่” จะเข้ามาแผ่อิทธิพล “ยึดพรรค”

เช่นนี้บรรดาส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรค 21 คน จึงอยู่เฉยไม่ได้แล้ว ต้องจัดประชุมนอกรอบเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) โดยไม่มี “ชวน หลีกภัย- บัญญัติ บรรทัดฐาน - จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และสรรเพชญ บุญญามณี” เข้าร่วม เนื่องจากเป็นคนละกลุ่ม และไม่ได้รับเชิญ

นราพัฒน์ แก้วทอง
ประชุมเสร็จ “ประมวล พงศ์ถาวราเดช” ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ข่าวว่า สส.ส่วนใหญ่ เป็นห่วงสถานการณ์พรรค ว่าจะเกิดวิกฤตเหมือนกับการประชุมใหญ่วิสามัญสองครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ จึงนัดมาหารือกัน สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า พวกเรามีมติเป็นเอกฉันท์ จะไปเชิญ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน มาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะเป็นคนใจถึงพึ่งได้ คำไหนคำนั้น ดูแลสส.ดี ไม่มีผิดคำพูด ประสานได้ทุกฝ่าย

ถ้า “เฉลิมชัย” รับปาก โอกาสที่จะได้เป็นหัวหน้าพรรคก็มีสูง เพราะกติกาการโหวตเลือกหัวหน้าพรรค จะให้น้ำหนัก สส. 70% ส่วนสมาชิกอื่นๆ แค่ 30% และถ้าได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคงหนีไม่พ้น “เดชอิศม์ ขาวทอง” สส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้

แต่ถ้า “เฉลิมชัย” ไม่รับ ส.ส.กลุ่มนี้บอกว่า... พวกเราก็จะเอามติของที่ประชุมไปบังคับ ไปขอร้องให้เสียสละ ให้เข้ามาช่วยแก้วิกฤต ช่วยกอบกู้พรรค

เดชอิศม์ ขาวทอง
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย มีความมั่นใจว่าจะนำทัพ กวาดส.ส.ได้เกิน 50 ที่นั่ง ถึงกับประกาศหลายครั้ง หลายวาระว่า ถ้าได้ ส.ส.ต่ำกว่า 50 ที่นั่ง ไม่เพียงจะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเท่านั้น แต่จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิตด้วย

เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 25 เสียง “เฉลิมชัย” จึงประกาศลาออกจากเลขาธิการพรรค แล้วเก็บตัวเงียบ แต่ยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่

ถ้า “เสี่ยต่อ” กลืนน้ำลายตัวเอง หวนกลับมาชิงหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ก็จะกลายเป็น “โมฆะบุรุษ” ไปทันที และในโซเชียลฯ ก็จะมีคลิปช่วงที่ “เสี่ยต่อ” เดิมพันเรื่องเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ออกมาขยี้กันรัวๆ

บัดนี้เห็นชัดว่าประชาธิปัตย์ไม่เป็นเอกภาพ ยังมีเล่นการเมือง มีการต่อรองกันตลอดเวลาจนนาทีสุดท้าย

ต้องวัดใจว่า “เสี่ยต่อ” จะตัดสินใจอย่างไรกับเกมนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น