โฆษกรัฐบาล เผย ความคืบหน้าการหารือไทย-ซาอุดีฯ ด้านปศุสัตว์ บริษัท MINERVA พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตโคเนื้อ เชิญฝ่ายไทยดูงานที่บราซิลในเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมจับมือบริษัท SALIC ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญมาในไทยวางแผนแนวทางความร่วมมือและการลงทุนของบริษัท ในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทำงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือกับบริษัท Saudi Agricultural and Livestock Investment Company (SALIC) ของซาอุดีอาระเบีย โดยฝ่ายไทยและฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้พบกันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 เป็นการพบกันระหว่าง นายกสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย (นางสาวนวลละออง ศรีชุมพล) โดยเข้าพบหารือกับตัวแทนผู้บริหารบริษัท SALIC นาย Norberto Giangrande ประธานบริษัท และ นาย Fernando Queiroz - CEO บริษัท MINERVA ณ บริษัท SALIC เนื่องจากฝ่ายซาอุดีฯ สนใจในศักยภาพการส่งออกโคเนื้อมีชีวิตของไทยไปยังตลาดอาเซียนและจีน ที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าในการหารือครั้งนี้ โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงที่จะเริ่มความร่วมมือในด้านเทคนิค MINERVA ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านโคเนื้อที่มีการลงทุนในหลายประเทศทั้งในอเมริกาใต้ และออสเตรเลีย เชื่อมั่นว่า การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงและการจัดการแบบบราซิล ซึ่งเป็นผู้นำด้านโคเนื้อของโลกจะช่วยให้ไทยสามารถผลิตโคเนื้อในราคาที่แข่งขันกับประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดอาเซียนได้ ทั้งนี้ MINERVA ได้เชิญตัวแทนจากกรมปศุสัตว์ และสมาคมผู้ส่งออกฯ ของไทย ไปศึกษาดูงานด้านปศุสัตว์ที่บราซิลในเดือนธันวาคม 2566 หลังจากนั้น ทาง MINERVA และ SALIC จะจัดทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเดินทางเข้ามาในไทย เพื่อวางแผนเรื่องแนวทางความร่วมมือและการลงทุนของ MINERVA และ SALIC ในช่วงเดือนมกราคม 2567 ต่อไป
“การหารือกันอย่างต่อเนื่องของฝ่ายไทยและซาอุดีฯ นี้ เป็นการหารือจากโอกาสที่เปิดขึ้นจากการเดินทางร่วมการประชุมสุดยอด ASEAN - GCC Summit ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อระหว่างวันที่ 20-21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพ มาตรฐาน และการจัดการอย่างเป็นระบบของสินค้าปศุสัตว์ไทย ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทีมประเทศไทยขานรับ เร่งดำเนินการตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีมอบไว้อย่างทันท่วงที ซึ่งทำให้เห็นความก้าวหน้าของการหารืออย่างชัดเจน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า โอกาสที่เกิดขึ้นนี้จะส่งต่อเป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมต่อชาวไทย” นายชัย กล่าว