xs
xsm
sm
md
lg

เปิดงบพัฒนา 18 กลุ่ม-76 จังหวัด ปี 67 กว่า 2.3 หมื่นล้าน “อุดรธานี” ขอสูงสุด 431 ล้าน เพิ่ม 145 ล้าน คาดลงงานพืชสวนโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดงบพัฒนา "18 กลุ่มจังหวัด - 76 จังหวัด" ปี67 รวมกว่า 23,075 ล้าน หลัง กมธ.ศึกษาติดตามงบฯ สภาฯ ร้อง “มหาดไทย” แจ้งคำขอรายละเอียดงบทุกโครงการ พบขอตั้งงบมากกว่างบปี 66 ถึง 1,575 ล้าน เผย 17 กลุ่มจังหวัด ขอเพิ่มอื้อ! เว้น “อีสานล่าง 1” ตั้งงบลดกว่า 10.8 ล้าน ส่วนงบจังหวัด “อุดรธานี” ขอสูงสุด 431 ล้าน แถมขอเพิ่มสูงสุด 145 ล้าน คาด ลงงานพืชสวนโลก

วันนี้ (27 พ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

ในคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นประธาน กมธ. มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เป็นการขอข้อมูลคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ 18 กลุ่มจังหวัด และจังหวัดทุกจังหวัด

ทั้งเอกสารประกอบคำของบประมาณ เอกสารสำนักงบประมาณ ทุกผลผลิต/โครงการ และ กิจกรรมในคำของบประมาณปี 2567 ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล

เพื่อดำเนินการพิจารณาศึกษาและจัดทำรายงานเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง (พ.ร.บ.)พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ต่อไป

สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ 18 กลุ่มจังหวัด และ 76 จังหวัด ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นวงเงินคำขอจัดสรรเบื้องต้น (Pre-ceiling) ของหน่วยงานต่างๆ ที่เสนอเข้ามารวมกว่า 5.8 ล้านล้านบาท ให้เหลืออยู่ภายใต้กรอบวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท

“พบว่า ตามกรอบที่ 18 กลุ่มจังหวัด และ 76 จังหวัด เสนอขอรับการจัดสรร วงเงินรวม 23,075,964,200 บาท มากกว่างบประมาณรายจ่าย ปี 2566 ในส่วนนี้ถึง 1,575,322,800 บาท โดยปี 2566 ได้รับจัดสรร 21,500,641,400 บาท”

พบว่า กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ขอรับจัดสรร 378,880,700 บาท ลดลง 18,100 บาท กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล 403,385,900 บาท เพิ่มขึ้น 6,289,000 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ขอรับ 213,661,200 บาท เพิ่มขึ้น 12,787,600 บาท กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ขอรับ 253,341,900 บาท เพิ่มขึ้น 25,580,000 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝังอ่าวไทย 380,167,600 เพิ่มขึ้น 35,957,700 บาท กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝังอันดามัน 323,654,000 บาท เพิ่มขึ้น 1,908,100 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน 261,675,500 เพิ่มขึ้น 24,305,500 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 ขอรับ 437,624,300 บาท ลดลง 4,228,500 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ขอรับ 270,228,900 เพิ่มขึ้น 245,700 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ขอรับ 332,018,500 บาท เพิ่มขึ้น 28,754,600 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ขอรับ 264,215,600 เพิ่มขึ้น 8,124,300 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง 303,156,200 บาท ลดลง 3,791,600 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ขอรับ 303,637,200 บาท ลดลง 10,870,000 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ขอรับ 306,157,400 บาท เพิ่มขึ้น 4,767,000 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ขอรับ 190,676,200 บาท เพิ่มขึ้น 86,126,300 บาท กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ขอรับ 268,084,200 บา ท เพิ่มขึ้น 553,500 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ขอรับ 328,005,500 เพิ่มขึ้น 9,329,500 บาท กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ขอรับ 274,043,900 เพิ่มขึ้น 2,863,000 บาท

ขณะที่ ใน 76 จังหวัด จ.ชัยนาท ขอรับจัดสรร 214,908,900 บาท พระนครศรีอยุธยา 225,501,000 บาท ลพบุรี 202,830,000 บาท สระบุรี 187,838,900 บาท สิงห์บุรี 150,260,000 บาท อ่างทอง 172,221,300 บาท

นครปฐม 208,915,400 บาท นนทบุรี 218,367,100 บาท ปทุมธานี 232,079,800 บาท สมุทรปราการ309,680,500 บาท

กาญจนบุรี 248,615,600 บาท ราชบุรี 226,458,500 บาท สุพรรณบุรี 211,322,500 บาท

ประจวบคีรีขันธ์ 176,917,800 บาท เพชรบุรี 197,855,500 บาท สมุทรสงคราม147,392,300 บาท สมุทรสาคร 247,166,900 บาท

ชุมพร 197,949,200 บาท นครศรีธรรมราช 300,142,200 บาท พัทลุง 220,030,700 บาท สงขลา 296,173,200 บาท สุราษฎร์ธานี 247,509,100 บาท

กระบี่ 175,281,800 บาท ตรัง 199,166,300 บาท พังงา 161,284,700 บาท ภูเก็ต 174,195,900 บาท ระนอง 168,067,200 บาท สตูล 195,903,000 บาท

นราธิวาส 239,378,600 ลดลง 6,894,600 บาท ปัตตานี276,119,000 บาท ยะลา 234,787,600 บาท

ฉะเชิงเทรา 256,080,000 บาท ชลบุรี 372,738,500 บาท ระยอง 331,647,100 บาท

จันทบุรี 200,995,100 บาท ตราด179,830,900 บาท ลดลง 1,145,800 บาท นครนายก 161,877,400 บาท ลดลง 3,363,300 บาท ปราจีนบุรี 227,762,600 บาท สระแก้ว 222,910,100 บาท

บึงกาฬ 169,270,30 บาท เลย 205,513,300 บาท หนองคาย 184,530,000 บาท หนองบัวลำภู 231,272,900 บาท อุดรธานี431,610,400 บาท เพิ่มขึ้น 145,993,800 บาท

นครพนม 206,511,300 บาท มุกดาหาร 190,563,200 บาท สกลนคร 243,835,400 บาท

กาฬสินธุ์ 270,845,000 บาท ขอนแก่น 320,491,400 บาท มหาสารคาม 217,789,000 บาท ร้อยเอ็ด 253,979,700 บาท

ชัยภูมิ 229,420,900 บาท นครราชสีมา 380,655,300 บาท เพิ่มขึ้น 17,695,100 บาท บุรีรัมย์ 305,308,900 บาท เพิ่มขึ้น 16,029,100 บาท สุรินทร์ 249,997,400 บาท

ยโสธร 214,596,300 บาท ลดลง 19,504,700 บาท ศรีสะเกษ 275,513,200 บาท อำนาจเจริญ 170,315,200 บาท อุบลราชธานี 313,669,400 บาท

เชียงใหม่ 351,464,100 บาท แม่ฮ่องสอน 280,116,100 บาท เพิ่มขึ้น 25,846,200 บาท ลำปาง 194,307,400 บาท ลำพูน 183,030,000 บาท

เชียงราย 302,635,800 บาท เพิ่มขึ้น 25,794,800 บาท น่าน 224,746,700 บาท เพิ่มขึ้น 23,998,300 บาท พะเยา 214,322,000 บาท เพิ่มขึ้น 25,403,100 บาท แพร่ 190,328,000 บาท

ตาก 244,312,500 บาท พิษณุโลก 224,874,000 เพิ่มขึ้น 46,651,400 บาท เพชรบูรณ์ 216,659,000บาท สุโขทัย 201,067,300 บาท อุตรดิตถ์ 215,508,400 บาท เพิ่มขึ้น 34,416,700 บาท

กำแพงเพชร 223,030,800 เพิ่มขึ้น 24,501,600 บาท นครสวรรค์ 259,035,200 บาท เพิ่มขึ้น 21,427,200 บาท พิจิตร 182,316,500 บาท และ อุทัยธานี 191,745,000 บาท.


กำลังโหลดความคิดเห็น