“ภูมิธรรม” แจงปมขอตำแหน่งผู้กำกับ ยันไม่ได้เป็นไปตามที่วิพากษ์วิจารณ์ ย้ำเจตนาจะนำตำรวจและนายอำเภอมาช่วยกันคุมหนี้นอกระบบ ก่อนประกาศวาระ 28 พ.ย.นี้ พร้อมแจงในสภาหากฝ่ายค้านหยิบเป็นประเด็นอภิปราย ยันไม่ต้องเตือนนายกฯ เรื่องการพูด สมหวัง-ไม่สมหวังหมายถึงเจอ ผกก.แล้วสบายใจหรือไม่
วันนี้(24 พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีหลุดปากมี สส.เพื่อไทย มาขอตำแหน่งผู้กำกับว่า ประเด็นสาระสำคัญ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ข่าววิพากษ์วิจารณ์กัน โดยใจความสำคัญอยู่ที่ว่า เราจะนำตำรวจและนายอำเภอ ซึ่งเราเคยมีประสบการณ์สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย มารวมกัน ก็จะทำให้รู้ว่านายอำเภอนั้นมีผู้ที่ดูแลและคุมหนี้นอกระบบอย่างไร เนื่องจากผู้กำกับสถานีตำรวจแต่ละพื้นที่และนายอำเภอต้องเป็นกำลังหลักในการจัดการปัญหาดังกล่าว
ยืนยันว่าไม่มี สส.พรรคเพื่อไทย มาฝากตำแหน่งผู้กำกับกับนายกรัฐมนตรี เพราะโดยอำนาจหน้าที่ไม่สามารถทำได้ กฎหมายระบุชัดเจน โดยประเด็นอยู่ตรงที่ว่า จะไม่สามารถทำงานได้ หากคณะทำงานไม่เข้าขากัน ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรให้นายอำเภอและผู้กำกับ สามารถทำงานได้ และเป็นแกนนำสำคัญในการดำเนินงาน โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ก็จะมีการประกาศชัดเจน ในวันแถลงข่าวเรื่องหนี้นอกระบบ ซึ่งจะตั้งวอร์รูม ติดตามผลงานในทุกเขตพื้นที่ ทุกอำเภอ ว่าสามารถทำงานให้ประสบความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้แก้หนี้นอกระบบได้
ส่วนที่พรรคฝ่ายค้าน และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โยงเป็นเรื่องการเมือง และมีการไปร้องเรียนองค์กรอิสระ จะส่งผลกระทบกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เป็นไร ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่เจตนารมณ์และความตั้งใจจริง เมื่อไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายค้านต้องหาประเด็นมาผูก และก็ให้มาเป็นประเด็นในการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเราก็รับฟังไว้ โดยในสิ่งที่เขาพูดก็เป็นไปตามกฎหมาย หากพูดตามบทกฎหมายก็เป็นเช่นนั้น แต่ก็ต้องดูข้อเท็จจริงด้วย
ส่วนหากฝ่ายค้านหยิบยกมาเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะสามารถชี้แจงได้หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่มีปัญหา ก่อนย้อนถามว่ามั่นใจหรือว่าประเด็นดังกล่าวมีข้อเท็จจริงที่ สามารถทำตามนี้ได้ พร้อมระบุว่าอยากให้ฝ่ายค้านทำงานบนพื้นฐานที่เข้าใจกัน และแก้ไขปัญหาตามที่กฎหมายทั้งหมดมี อย่าให้เสียเวลาประชาชนในการแก้ไขปัญหา กลับมาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อเอาชนะ สร้างคะแนนแบบนี้ อย่างนี้ไม่เป็นประโยชน์ ฉะนั้นตนอยากฝากให้พิจารณาและไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดี
ส่วนจะต้องเตือนเรื่องการพูดนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ไม่ต้องเตือน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น และเราฟังกันแล้วก็เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีอยากให้กระชับ และช่วยติดตามดู ว่าการไปทำงานในพื้นที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร รวมถึงผู้กำกับและนายอำเภอ จะช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบได้มากน้อยเพียงใด พร้อมย้ำว่า แม้จะได้ผู้กำกับที่พอใจหรือไม่พอใจ หรือสมหวังหรือไม่สมหวัง ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาฝาก แต่หมายความว่าเมื่อเรามาอยู่แล้วเจอผู้กำกับและผู้ว่า ที่สบายใจหรือไม่ แต่บางคนเจอผู้กำกับ และผู้ว่าที่ทำงานได้ดีเขาก็สบายใจ บางคนเจอผู้ว่าหรือผู้กำกับที่ทำงานไม่สอดคล้องกัน ก็อาจจะไม่สมหวังซึ่งประเด็นสาระสำคัญอยู่ตรงนี้