รมต.สำนักนายกฯ สั่ง สคบ. เร่งสอบทัวร์ “อ้วน ผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์” หลังยกเลิกทัวร์ไม่คืนเงิน เสียหายกว่า 50 ล้านบาท พร้อมชงกรมการท่องเที่ยวร่วมเยียวยา บังคับใช้กฎหมาย
วันที่ (23 พ.ย.) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการผู้บริโภค หรือ สคบ. ดำเนินการตรวจสอบกรณีที่มีกลุ่มผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากจองทัวร์นำเที่ยวอ้วน ผอม ดำเนินการโดยบริษัท อ้วน ผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ จำกัด ซึ่งต่อมาถูกยกเลิกทัวร์ท่องเที่ยว แต่บริษัทยังไม่คืนเงินให้แก่ผู้บริโภคและมีผู้เสียหายจำนวนหลายร้อยราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
ทาง สคบ.ได้เร่งดำเนินการติดตามและตรวจสอบทันที หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภค จำนวน 3 ราย รวมค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 296,527 บาท โดย สคบ. ได้ประสานไปยังกรมการท่องเที่ยวพิจารณาดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในฐานะนายทะเบียนผู้ออกใบอนุญาตและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. นำพนักงานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการของ บริษัท อ้วน ผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 57 อาคารปาร์ค เวนเซอร์ อีโคเพล็กซ์ ชั้น 18 ห้อง 1813 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งพบเฉพาะเพียงผู้ให้เช่าเท่านั้น บริษัทไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติงานแต่อย่างใด ผู้ให้เช่าแจ้งว่า กรรมการบริษัทได้มาเช่าตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งตลอดระยะเวลาเช่าซื้อผู้ให้เช่าไม่เคยพบกับกรรมการบริษัทเลย อีกทั้งยังพบว่ามีการผิดนัดชำระการเช่าพื้นที่บ่อยครั้ง และปัจจุบันยังค้างค่าเช่า
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า สคบ.มีมาตรการในการเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย โดยได้ส่งเรื่องให้กรมการท่องเที่ยวดำเนินการเรียกบริษัทชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงการเยียวยาความเสียหายจากเงินประกันที่บริษัทได้วางเงินประกันไว้กับกรมการท่องเที่ยว ซึ่งหากเงินจำนวนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาความเสียหายให้กับผู้บริโภคครบทุกราย กรมการท่องเที่ยวจะส่งเรื่องกลับมายัง สคบ. เพื่อฟ้องดำเนินคดีแทนผู้บริโภครายที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาความเสียต่อไป และ สคบ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมการท่องเที่ยวรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดแผนการตรวจสอบบริษัทนำเที่ยว เพื่อป้องกันผู้ประกอบธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค และปกป้องผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความเป็นธรรมต่อไป