โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลให้ความสำคัญปราบปรามการลักลอบเนื้อวัวเถื่อนอย่างจริงจัง นายกฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความระมัดระวังรอบคอบ เพิ่มความเชื่อมั่นต่อสินค้าปศุสัตว์ไทย
วันนี้ (16 พ.ย.) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีปัญหาที่พบนายทุนลักลอบนำเนื้อวัวเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร และการกักกันโรค ปีละไม่ต่ำกว่า 100,000 ตัน โดยบางส่วนของเนื้อวัวเถื่อนจะถูกนำมาขายให้ประชาชนภายในประเทศ และบางส่วนจะนำส่งออกไปยังต่างประเทศตามคำสั่งซื้อ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการแก้ไขปัญหานี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกัน ทั้งศุลกากรและปศุสัตว์จังหวัดซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่โดยตรงด้านการปราบปรามการลักลอบเนื้อวัวผิดกฎหมาย รวมทั้งให้เพิ่มความระมัดระวัง รอบคอบในการตรวจสอบความถูกต้องและความชัดเจนของเอกสารสำแดงการนำเข้าสินค้า และการกักกันโรคตามกฎหมาย รวมทั้งเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าปศุสัตว์ส่งออกของไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนนี้ สร้างผลกระทบอย่างมากต่อประเทศ โดยกระทบหลักต่อกลไกตลาดและความน่าเชื่อถือของสินค้าปศุสัตว์ที่ส่งออกของไทย พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกประเด็นการส่งขายเนื้อสัตว์ของไทยในการหารือกับผู้นำต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง เพื่อขยายตลาด เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย
“นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือเพื่อดำเนินการปราบปรามการลักลอบเนื้อเถื่อนอย่างรวดเร็ว เด็ดขาด และเข้มงวดตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งดำเนินการตรวจสอบพิธีการศุลกากรและการกักกันโรคให้ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นไปตามหลักสุขอนามัย ปกป้องไม่ให้เกษตรกรไทยได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อวัวที่ตกต่ำ ขจัดความเสี่ยงด้านสุขอนามัยแก่ผู้บริโภค รวมทั้งเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าส่งออกด้านการเกษตรปศุสัตว์ของไทย” นายชัย กล่าว