นายกฯ กำชับ อธิบดีDSI สางปมหมูเถื่อนเด็ดขาด พร้อมแบ่งเป็น 3 กลุ่ม เผยนายทุนหนีไปต่างประเทศ มีปชช.แจ้งเบาะแส ย้ำดำเนินการถึงที่สุด ไม่มีละเว้น
วันนี้ (12พ.ย.) เมื่อเวลา 14.20น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พ.ต.ต.สุริยา สิงกมล อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ นายเศรษฐาทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง กรณีแก้ไขปัญหาหมูเถื่อน ว่า ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องที่กรมศุลกากรส่งมา จำนวน 161 ตู้ โดยแบ่งกลุ่มผู้กระทำผิดเป็น 3 กลุ่ม 1.บริษัทนำเข้า ได้ดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาจับกลุ่มไปแล้วจำนวนหา 6 ราย 2.กลุ่มนายทุน ที่เป็นคนสั่งให้นำหมูเข้าไทย ซึ่งออกหมายจับ2บริษัท ขณะนี้ผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างประเทศ และได้ประสานเรื่องขอเข้ามอบตัวภายในวันที่ 13 พ.ย.และ3. กลุ่มผู้ดูแลเรื่องห้องเย็น ที่กระจายนำหมูเถื่อนไปแช่
ในส่วนของการดำเนินคดี นายกฯกำชับให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทางดีเอสไอได้รับข้อสั่งการ และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ภายในสัปดาห์นี้และสัปดาห์ถัดไป ส่วนเรื่องการทำงานแบบบูรณาการ ขณะนี้ ทางดีเอสไอได้รับข้อมูลข่าวสารจากประชาชนทั่วไปว่าอาจจะมีการซุกซ่อนของเถื่อนตามตู้เย็นต่างๆ จึงได้ประสานงานกับทางตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกับ กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร เพื่อดำเนินการปูพรมตรวจค้น ตามที่ได้รับเบาะแส ขอเรียนว่าของกลางที่ดีเอสไอได้รับมา จำนวน 161 ตู้ แต่เมื่อเราได้สืบค้นต่อไปพบว่า ตั้งแต่ปี 2563-2566 กลุ่มขบวนการนำเข้าได้มีการลักลอบนำเข้าเศษชิ้นส่วนซากสัตว์ มาก่อนหน้านั้นแล้วจำนวน 2,836 ตู้ ซึ่งเรากำลังสอบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวบ้าง และเรื่องนี้ดีเอสไอจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า ในด้านการดำเนินเราได้มีการเร่งรัดตามที่เรียนแล้วว่าภายในสัปดาห์นี้ ผู้ต้องหาในกลุ่มที่ 2 จะมีการเข้ามอบตัว โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับ ให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่มีละเว้น อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นนายทุนเจ้าใหญ่ ที่มีคำสั่งซื้อให้บริษัทชิปปิ้งนำเข้าหมูเถื่อนสู่ประเทศไทย ถือว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีบทบาท เพราะมีการรับคำสั่งซื้อมาจากผู้สั่งที่เป็นรายย่อยทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตัวกลางที่ทำให้เนื้อเถื่อนหมูกระจายไปทั่วทุกภูมิภาค