xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเผย Fitch คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ BBB+ คาด ศก.โตต่อเนื่องเป็นร้อยละ 3.8 ในปี 2567

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย Fitch คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย ที่ BBB+ มุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ณ ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) คาด เศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่อเนื่องจากร้อยละ 2.8 ในปีนี้ เป็นร้อยละ 3.8 ในปี 2567

วันนี้ (13 พ.ย.) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัท Fitch Rating (Fitch) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ พร้อมคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ณ ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า Fitch คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างมั่นคง และภาคการส่งออกที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

โดย Fitch คาดว่า ไทยจะมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจากร้อยละ 2.8 ในปี 2566 เป็นร้อยละ 3.8 ในปี 2567 รวมทั้ง การใช้จ่ายทางการคลังขนาดใหญ่ (Large Fiscal Spending) จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของประเทศทำให้การดำเนินนโยบายชัดเจนขึ้น พร้อมกันนี้ Fitch คาดว่า รัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.0 ของ GDP ในปี 2566 เป็นร้อยละ 3.7 ของ GDP ในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าค่ากลางของกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับเดียวกัน และในส่วนของภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) มีความแข็งแกร่งและสามารถรองรับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเงินโลกและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดย Fitch คาดว่า ปี 2566 ดุลบัญชีเดินสะพัดจะกลับมาเกินดุลที่ร้อยละ 1.0 ของ GDP จากที่ขาดดุลร้อยละ 3.2 ในปี 2565 อีกทั้ง ปี 2566 คาดว่า ระดับทุนสำรองระหว่างประเทศต่อมูลค่าการนำเข้าจะยังคงอยู่ในระดับสูงมากที่ 7.1 เดือน ซึ่งสูงกว่า BBB Median ที่ 5 เดือน ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ Fitch จะติดตามเพื่อวิเคราะห์อันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของประเทศไทย คือ ความสามารถในการบริหารจัดการสัดส่วนหนี้ภาครัฐบาลต่อ GDP (General Government Debt to GDP) ให้อยู่ในระดับมีเสถียรภาพและสร้างการเติบโตในระยะปานกลาง ตลอดจนประสิทธิผลของนโยบายทางเศรษฐกิจ

“ขอให้มั่นใจว่า ในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะสร้างการพลิกฟื้นต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งการจัดอันดับของ Fitch ทำให้เห็นว่า ในช่วงเวลาการรับหน้าที่ที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการฟื้นตัว มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ มาตรการพักหนี้เกษตรกร ประกอบกับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) ชั่วคราวแก่นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ได้ส่งเสริมให้เกิดการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่า นายกรัฐมนตรียังได้วางมาตรการกำหนดเป็นนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ความมั่นใจกับประชาชนในการดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้ เป็นการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น” นายชัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น