xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” ชี้ กู้เงินมาแจก ทางลง (จากตำแหน่ง?) “เศรษฐา” “หมอวรงค์” ชำแหละ “คนรวย” ได้มากสุด ประเทศบอบช้ำ ลูกหลานใช้หนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน จากแฟ้ม
“สมชัย” ชี้ พ.ร.บ.เงินกู้ ทางลง (จากตำแหน่ง?) “เศรษฐา” แต่ไม่ใช่ทางออกแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น “หมอวรงค์” ชำแหละ “คนรวย” ได้ประโยชน์มากสุด ประเทศบอบช้ำ ลูกหลานใช้หนี้ “นิพิฏฐ์” เชื่อ เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 พ.ย. 66) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร ระบุว่า

“หรือ พ.ร.บ. เงินกู้ คือ ทางลงของเศรษฐา

การใช้แหล่งเงิน ดิจิทัล 10,000 บาท จากการออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ อาจไม่ใช่การหาทางออกแต่เป็นการหาทางลงให้คุณเศรษฐา

รัฐบาลไม่กล้าออกเป็น พ.ร.ก. ที่ทำได้โดยมติ ครม. ในสมัยปิดสภา ทั้งๆ ที่ปากพร่ำว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนฉุกเฉิน เพราะรู้ว่า ออก พ.ร.ก. คือ คุก และ การออกเป็น พ.ร.บ. มีข้อแก้ตัวได้ว่า ถ้าไม่สำเร็จ เป็นเพราะคนอื่นแทน

แต่ตอนที่ คุณเศรษฐา ยิ้มแย้มตอนบอกว่า จะออก เป็น พ.ร.บ.นั้น อาจไม่รู้ไม่เข้าใจกลไกการออก พ.ร.บ. ทั้งในด้านขั้นตอนทางกฎหมายและความเขี้ยวของฝ่ายการเมือง

ภาพ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร จากแฟ้ม
วันแรกที่ พ.ร.บ.เข้าสภา อำนาจต่อรองของเพื่อไทยจะเป็นศูนย์ การยกมือแต่ละมือของพรรคร่วมรัฐบาล คือ การคงอยู่หรือล้มหายของนายกรัฐมนตรี ชื่อ เศรษฐา เพราะหาก พ.ร.บ. ไม่ผ่านสภา นายกฯ มี 2 ทางเลือก คือ ยุบสภา หรือ ลาออก

หากดันจนผ่านสภาผู้แทนได้ ยังมีด่านของวุฒิสภา หากวุฒิสภายับยั้ง ก็ต้องรออีก 180 วัน จึงจะเสนอกลับมาใหม่ได้

ยังไม่คิดถึงกรณีถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าการออก พ.ร.บ.เงินกู้ ขัดรัฐธรรมนูญ ขัดวินัยการเงินการคลังของรัฐ

ดูเส้นทาง พ.ร.บ.เงินกู้ ที่มีเส้นทางวิบากเช่นนี้ จึงบอกก่อนได้เลยว่า เดือนพฤษภาคม 2567 นั้น คืออีกหนึ่งขายฝันของรัฐบาลเพื่อไทย

พอถึงพฤษภา อาจบอกว่า ใจเย็นๆ อีกครั้ง เพราะกระบวนการทั้งหมดทั้งสภาผู้แทน วุฒิสภา หรืออาจไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะไม่น้อยกว่า 8 เดือน

และโอกาสแจกได้จริง มีเพียง 50/50 หรือครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น

ไม่แน่นัก การรู้ว่า ออก พ.ร.บ. มันยากเย็นขนาดนี้ อาจเป็นการหาทางลงที่ไม่ใช่ทางออกของคนยิ้มซื่อๆ ที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน

อาจเป็นทางลงจากตำแหน่ง แต่ไม่ใช่ทางออกของการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท”

ภาพ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“#แจกเงินบาททิพย์10000บาท

หลังจากนายกฯเศรษฐาแถลง โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 50 ล้านคน วงเงิน 5 แสนล้านบาท ทุกอย่างก็เป็นไปตามคาดคือ

1. เคยบอกว่าไม่ต้องกู้เงิน จะใช้วิธีเกลี่ยงบประมาณ แต่สุดท้ายก็ต้องกู้ แบบนี้ กกต.จะว่าอย่างไร เพราะเขาโกหกทั้ง กกต.และโกหกประชาชน

2. การกู้ครั้งนี้ ใช้วิธีออก พ.ร.บ.เงินกู้ห้าแสนล้านบาท เขาไม่เร่งกู้ เนื่องจากไม่ได้แจกเงินสด แต่แจกเป็นเงินดิจิทัล กว่าจะเอาเงินดิจิทัล มาขึ้นเป็นเงินบาท ต้องรออย่างน้อยหกเดือน เขาจึงกู้ด้วย พ.ร.บ.ได้

3. ในระหว่างการใช้เงินดิจิทัลนี้ แม้จะกำหนดค่าเงิน 1บาทดิจิทัล มีมูลค่า 1 บาทจริง แต่ไม่มีเงินบาทจริงรองรับ ในช่วงหกเดือนที่ใช้ เงินดิจิทัลจึงกลายเป็นเงินบาททิพย์หรือเงินกงเต๊ก

4. ต้องตอกย้ำว่า แม้จะกำหนดให้ทุกร้านค้า สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ แต่ร้านค้าชาวบ้าน ตลาดนัด แผงลอย เขาต้องมีเงินบาทจริงใช้ด้วย ไม่สามารถรอหกเดือนไปขึ้นเงินได้ เพราะเขาสายป่านสั้น ผลประโยชน์ก็จะตกกับร้านนายทุนใหญ่ (ที่สำคัญคือร้านย่อยไม่อยู่ในระบบภาษี แสดงว่า เข้าร่วมได้แต่ขึ้นเงินไม่ได้)

5. ยิ่งมากำหนดว่า ใช้ซื้ออาหารเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น ห้ามจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเรียน ค่าเทอม ค่าแก๊ส ค่าเชื้อเพลิง สินค้าออนไลน์ แอลกอฮอล์ ใช้หนี้ ขึ้นเงินสด สุดท้ายจะเกิดขบวนการรับแลกเงินสด โดยใช้เงินทั้งสีขาวและสีเทา

บทสรุปโครงการนี้คนรวยที่เป็นเจ้าของกิจการอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค บริโภค ได้ประโยชน์สูงสุด รองลงมาเครือข่าย คนใกล้ชิดนักการเมืองที่จะรับแลกเงินจากชาวบ้าน ส่วนประชาชนได้บ้าง ร้านค้ารายย่อยได้น้อยมาก แต่ประเทศบอบช้ำ สุดท้ายลูกหลานต้องมาใช้หนี้

ไหนๆ จะกู้แล้ว ทำไมไม่รอให้ได้เงินมา และแจกเป็นเงินสดไปเลย มีอะไรแอบแฝงเรื่องเงินดิจิทัล (โทเคน) หรือไม่ หรือในแสนล้านบาทที่แยกต่างหาก มีค่าทำซูเปอร์แอปแอบแฝงในนี้ด้วย แต่ไม่บอกประชาชน”

ภาพ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากแฟ้ม
ที่นาสนใจไม่แพ้กัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า

“*กู้มาแจก ถึงครูอังคณาแน่

- สรุปว่า รัฐบาลจะกู้เงิน 500,000 ล้านบาท แล้วแจกประชาชนเป็นเหรียญดิจิทัล วอลเล็ต ค่อนข้างซับซ้อนนะครับ กู้เงินบาท แต่แจกเป็นเงินดิจิทัล จะมีคำถามตามมาเยอะแยะ

1. กู้เป็นเงินบาท แล้วทำไมไม่แจกเป็นเงินบาทล่ะครับ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

2. รบ.เคยแถลงว่า จะตัดงบไม่จำเป็นออก ไม่จำเป็นต้องกู้ แล้วทำไมไม่ทำอย่างที่ว่าล่ะครับ อย่างเรือดำน้ำที่เคยด่าเขาก็ไม่ได้ยกเลิก เพียงเลื่อนออกไปก่อน เพราะมีแต่เรือยังหาเครื่องยนต์ไม่ได้ แต่ตอนนี้ จะเอา เรือฟริเกตก่อน สรุปจะเอาทั้งเรือดำน้ำและเรือฟริเกต แบบนี้ทหารชอบ บอกว่า คราวหน้าขอครูประชาบาล มาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอีกนะ

3. เลือกตั้งครั้งหน้า คงมีพรรคการเมืองเสนอนโยบายว่า แจก 15,000 บาท เป็นเงินสด ถ้าคราวนี้แจกได้ ทำไมคราวหน้าจะแจกไม่ได้ ดีเสียอีก ไม่ต้องซื้อเสียงด้วยเงินพรรคการเมือง ซื้อมันด้วยเงินรัฐนี่แหละ

4. ต้องย้อนไปดู กม.เลือกตั้งกันอีกรอบ ว่า การกู้มาแจกจะกลายเป็นการสัญญาว่าจะให้ ตาม กม.เลือกตั้งหรือเปล่า

5. แต่เชื่อเถอะ วันที่รัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เสนอให้ ครม.เห็นชอบ วันนั้น รัฐมนตรีที่เป็นนกรู้ จะลาการประชุมเยอะ

- ผมไม่ทำอะไรหรอก และยังยืนยันผมไม่รับด้วย ไม่ว่าแจกเป็นเงินบาท หรือ เงินดิจิทัล ไม่อยากยุ่งกับรัฐ รัฐก็อย่ามายุ่งกับผมก็แล้วกัน ผมเป็นเสรีนิยม ไม่ใช่นักประชาธิปไตย

#เรื่องนี้ไม่ง่าย คอยดูเถอะเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่”


กำลังโหลดความคิดเห็น