“อี้ แทนคุณ” ซัดไม่ควรมีพรรค “ก้าวไกล” อยู่ต่อ หากยังนิ่งเฉยปมคุกคามทางเพศ เชื่อ ปกป้องพวกเดียวกัน ส่อไม่สนใจประชาชน รับไม่ได้คำตอบก้าวไกลมองแฟนเพจเป็น io โต้ไม่ใช่วิถีการเมืองใหม่ แต่เป็นการเมืองคร่ำครึ ปลุกประชาชนอย่านิ่งเฉย ถามถ้าเป็นลูกสาวจะทำอย่างไร ย้ำ ความเจ็บปวดไม่ได้หาย ยกที ปชป. ผู้บริหารออกมาแสดงความรับผิด เตรียมยื่นเรื่องคณะกรรมการจริยธรรมสภา จัดการสัปดาห์หน้า บอกเป็นโอกาสดี เหลืองแดงรวมพลังสู้ส้ม
วันที่ 31 ต.ค. 2566 ที่อาคารไทยซัมมิท นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่มาร่วมงานลีดาลุยไฟ ว่า วันนี้มาในฐานะประชาชนคนหนึ่งไม่ได้มาในฐานะพรรคการเมือง เพราะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมานานแล้ว และตัวเองก็สนใจเรื่องสิทธิมนุษยชนมาตลอด พบว่า ตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมาก็มีปัญหาเหล่านี้เยอะมาก ทั้งผู้บริหารก็มีปัญหา นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการละเมิดทางเพศ มี ส.ส. ทำร้ายแฟนตัวเอง มีคดีเมาแล้วขับ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเรื่องทางเพศ ชนิดที่ว่าไม่ซ้ำกัน เชื่อว่ายังมีอีกมาก เพราะดูจากท่าทีการแก้ปัญหาของพรรคก้าวไกลทำให้เหยื่ออาจจะไม่กล้าพูด เนื่องจากไปคุกคามซ้ำเติม เช่น ไปกล่าวว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่อง io ไม่เป็นความจริง เป็นเรื่องสมยอม ตนมองว่า ผู้หญิงถ้าไม่ถึงที่สุด เขาไม่ออกมาพูด ส่วนใหญ่ก็มีมูลความจริง มีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่ามีการกระทำ
“ซ้ำร้ายกว่านั้นเมื่อมาดูการแก้ปัญหาของพรรคก้าวไกล ก็คิดว่า เป็นการปกป้องพวกเดียวกันมากกว่า เป็นเพียงแค่การดำเนินการภายในพรรคไม่มีการส่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีการส่งไปที่สภาในฐานะที่เป็น ส.ส. ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่า ส.ส. คือ ข้าราชการการเมือง เมื่อรู้เห็นการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับตนเอง สามารถจะระงับยับยั้งก็ดี สามารถกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ดี แต่กลับไม่ทำ ก็จะเข้าข่ายการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ ย้ำว่า ถ้าประชาชนตื่นรู้ ก็จะต้องเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจ ว่า อย่ามองแค่ภาพลักษณ์ที่สวยหรูที่ผ่านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือการทำการตลาดอย่างเดียว กระแสอย่างเดียว ที่สำคัญคือขอให้ดูไปที่ความรู้สึกของผู้หญิง
“ถามใจตัวเองว่าวันหนึ่งถ้าท่านมีลูกสาวแล้วลูกสาวท่านถูกกระทำโดยคนของพรรคก้าวไกลที่เป็น ส.ส. ท่านอาจรู้สึกเกรงกลัวว่าเขาเป็นใหญ่เป็นโต เป็นนักการเมือง มีอำนาจอิทธิพล จึงไม่กล้าที่จะปริปาก แต่ความเจ็บปวดนี้มันไม่ได้หายไป มันยังคงตอกย้ำซ้ำเติมลงไปในจิตใจของผู้หญิงเหล่านั้นอย่างไม่มีวันหาย ถ้าสังคมไม่รีบแก้ไขจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ต้องฝากประชาชนไว้ด้วย เพราะประชาชนเป็นคนให้โอกาสเขามา การไม่คัดสรรบุคคลที่มาลงสมัครรับเลือกตั้งให้สนใจเรื่องคุณธรรมจริยธรรม มันก็เท่ากับเป็นการทำลายสังคมไปอีกทางหนึ่ง” นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า ที่สังคมบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อยากให้คิดว่าไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลที่ใครจะทำก็ได้ แต่เป็นปัญหาสังคม ทุกคนในสังคมต้องลุกขึ้นมาชี้หน้าไปที่คนคุกคามทางเพศว่าเรารับไม่ได้
เมื่อถามว่า ส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับแอดมินเพจพรรคก้าวไกลโกหกอะไรหรือไม่ นายแทนคุณ กล่าวว่า ตนได้ให้กำลังใจ เพราะตนรับไม่ได้ ที่มีการระบุว่าเพจเป็น io กองทัพ หรือนักการเมืองฝั่งตรงข้าม ตนก็ติดตามพรรคก้าวไกล และมีคนมาให้ข้อมูลในลักษณะนี้อยู่เยอะพอสมควร ตนคิดว่าควรจะส่งต่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนพยายามระมัดระวัง ไม่เอาประเด็นเหล่านี้มาหาประโยชน์ทางการเมือง
“วันนี้มันถึงจุดที่สุกงอม พอตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมันมีกรณีที่คุกคามทางเพศ ไม่เว้นแต่ละสัปดาห์ ถ้าสังคมไทยยังยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ต่อไปได้ ถ้าวันนึงมันเกิดขึ้นกับตัวท่านหรือลูกสาวท่าน ผมคิดว่ามันสายเกินไป บางคนถึงขั้นฆ่าตัวตายเลยก็มี” นายแทนคุณ กล่าว
ส่วนหลังจากนี้ หากไม่มีความคืบหน้า นายแทนคุณ กล่าวว่า จะรวบรวมพยานหลักฐาน และยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เข้าสู่กรรมการจริยธรรม ถ้าเราปล่อยให้พรรคก้าวไกลทำกันเอง ก็จะได้แค่ตัดสินโทษขับออกแค่อดีตผู้สมัคร ส.ส.เท่านั้น ไม่ใช่ ส.ส.ปัจจุบัน ตนก็ตระหนักดีว่าเขาหวงอำนาจ ไม่อยากให้ต้องเสียสัดส่วนกรรมาธิการ
“เป็นอันชัดเจนว่า เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกนึกคิดของประชาชนแต่อย่างใด สนใจแค่อำนาจของตัวเอง และวิถีการเมืองแบบนี้ก็ไม่ใช่วิถีการเมืองแบบใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ย้อนยุคกลับไปคร่ำครึโบราณและเร็วร้ายยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำไป” นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องชัดเจนที่การที่ผู้บริหารนิ่งเฉยปล่อยให้ใครต่อใครที่มีภาพลักษณ์ดีออกมาแก้ตัวแทน คนที่มีสติปัญญาระดับหนึ่งก็จะรู้ได้ว่าเป็นการผลักภาระให้คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องมาแก้ปัญหา โดยที่ผู้บริหารที่มีอำนาจจริงๆ ไม่ทำ เป็นการที่พยายามปกปิดและปล่อยให้เรื่องเงียบไปเรื่อยๆ มองว่า เสียงที่จะไม่เงียบคือเสียงของผู้หญิงที่ถูกคุกคาม และหากเป็นแบบนี้ต่อไปตนคิดว่าพรรคนี้ก็ไม่ควรมีอยู่ต่อไป
เมื่อถามว่า มองอย่างไรบ้างกับการที่ตัวแทนของพรรคก้าวไกลไม่มารับหนังสือในวันนี้ นายแทนคุณ กล่าวว่า สะท้อนถึงความไม่ใส่ใจ ไม่สนใจของพรรคก้าวไกล ตนเข้าใจว่าเพจได้ประสานงานเป็นเดือนแล้ว เขาก็เพิกเฉย ซึ่งมองว่าเท่ากับเป็นการอยู่เบื้องหลังหรือสนับสนุน ตนคิดว่า เราต้องสร้างมาตรฐาน โดยเฉพาะคนที่เคยเคลื่อนไหว เมื่อครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีปัญหานี้ผู้บริหารสูงสุดหรือทุกคนไม่เคยนิ่งนอนใจและมาขอโทษรับผิดเท่าที่เราทำได้ รวมถึงแสดงถึงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ให้ออกจากตำแหน่งทุกอย่างแต่วันนี้ตนไม่เห็นก้าวไกลทำแบบนั้น ตนคิดว่าเป็นการกระทำที่น้อยเกินไป
ทั้งนี้ แฟนคลับพรรคก้าวไกล ก็มีเสียงสะท้อนมาด้วยว่าขอให้ลดความเป็นด้อมและเพิ่มความเป็นคนให้มากขึ้น สลายความรู้สึกที่เป็นแฟนด้อมอย่างเดียว ตนคิดว่า คนที่ถูกกระทำเขาก็เคยรักพรรค สุดท้ายกลายเป็นรักทรยศ
นายแทนคุณ กล่าวทิ้งท้ายว่า เป็นโอกาสที่ดีที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองเสื้อแดงรวมกัน เอาไว้ต่อสู้กับกลุ่มส้มได้