มองอีกด้านทฤษฎีพายุหมุน! “สมชัย” ยก “ทฤษฎีพายุไม่หมุน” เงินใหม่มาใช้เท่าเดิม เงินเดิมเก็บ ถาม “มันไม่หมุนจริงมั้ย?” ชี้ อย่างนี้แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ไม่มีผล “หมอประเวศ” แนะ “แจกงานดีกว่าแจกเงิน” สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(20 ต.ค.66) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร ระบุว่า
“ทฤษฎี พายุไม่หมุน
ทฤษฎีตัวทวีคูณ multiplier ทางเศรษฐกิจ คือ เมื่อเราใช้เงินหนึ่งบาท คนได้ก็เอาไปใช้ต่อ ต่อไปเรื่อย ๆ 6-7 รอบ เงินบาทถึงหมดฤทธิ์
560,000 ล้าน ที่ใส่เข้าไปใหม่ ก็จะกลายเป็น 3 ล้านล้านบาทในกระแสหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ
การกำหนดเงื่อนไข ห้ามออม ให้ใช้ใน 6 เดือน จึงอยู่บนแนวคิดว่า เงินจะหมุนไป จนกลายเป็นพายุหมุน
แต่คิดแบบนี้ได้ไหม
1. ผมใช้เงินซื้อของในซุปเปอร์เฉลี่ยเดือนละ 2,500 บาท พอได้เงินดิจิทัล 10,000 บาทมา ผมก็เอาเงินดิจิทัล จ่ายร้านซุปเปอร์แทน เดือนละ 2,500 บาท เงินผมก็เก็บไว้ไม่ใช้ แบบนี้ ตัวทวีคูณ ไม่เพิ่มจากเดิม
2. แม่ของเพื่อนผม อยู่อีสาน ใช้เงินซื้อข้าวสาร น้ำปลา อาหารแห้ง เดือนละ 2,000 บาท ลูกอยู่กรุงเทพ ช่วงวันหยุดเดินทางกลับ พาแม่เข้าแมคโคร โลตัส ซื้อข้าวสาร น้ำปลา อาหารแห้ง หมดเงินไปหมื่น ได้ของมาเป็นคันรถ ใช้ทานได้ 5 เดือน ตลอด 5 เดือนข้างหน้า ไม่ต้องใช้เงินเดือนละ 2,000 ซื้ออะไรอีก แบบนี้ ตัวทวีคูณก็ไม่เพิ่ม
คุณรัฐบาล บอกเงินที่ให้ ให้ใช้ห้ามออม ถ้าผมใช้เงินคุณ แล้วเก็บเงินผมไว้ ผิดกฎหมายมั้ย
พายุหมุน จะเกิดขึ้นรุนแรง ต่อเมื่อคนที่จ่ายยังจ่ายเงินเดิม แล้วพอมีเงินใหม่ ก็ใช้เงินใหม่ควบคู่ แต่หากเงินใหม่มา ใช้เท่าเดิม เงินเดิมเก็บ มันไม่หมุนครับ
นักเศรษฐศาสตร์พายุหมุนตอบหน่อย จริงไหม”
ขณะเดียวกัน ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความ เรื่อง แจกงานดีกว่าแจกเงิน สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่คือจุดคานงัดประเทศไทย มีเนื้อหาดังนี้
“นักเศรษฐศาสตร์ค้านกันตรึม ในนโยบายแจกเงินคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๕ แสนกว่าล้านบาท กลัวคนไทยจะเป็นหนี้หัวโต แต่แก้ปัญหาประเทศไม่ได้จริง
ที่แก้ปัญหาได้จริงคือสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่
เมื่อทุกคนมีงานทำ มีรายได้ หลุดหนี้ มีเงินออม ก็หายจน อยู่ดีมีสุข มีอำนาจซื้อมาก เศรษฐกิจมหภาคก็จะเติบโตและมั่นคง เพราะอยู่บนฐานที่แข็งแรงของเราเองไม่ใช่พึ่งตลาดโลกเป็นหลักซึ่งพลิกผันและวิกฤตง่าย รัฐบาลก็จะเก็บภาษีได้มาก โภคทรัพย์จากเต็มท้องพระคลัง
การสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ก็ไม่ยากถ้าเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยระดมกำลังของทุกฝ่ายระดมเทคนิคและวิธีการทั้งหมดที่จะสร้างงาน ระดมการจัดการทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้นำทิศทางนโยบาย ให้ทุกองคาพยพของประเทศมีความมุ่งมั่นร่วมกัน คนไทยไม่เคยมีความมุ่งมั่นร่วมกันไปคนละทิศคนละทาง ประเทศจึงติดอยู่ในวิกฤตการณ์เรื้อรัง เมื่อใดคนไทยมีความมุ่งมั่นร่วมกัน จะเกิดพลังประดุจแสงเลเซอร์ทะลุทะลวงอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จ
นายกรัฐมนตรีจึงไม่ควรบริหารจิปาถะ ซึ่งจะหมดแรงและไม่สำเร็จ แต่ต้องมีวิสัยทัศน์ว่าอะไรเป็นจุดคานงัดประเทศไทย และเป็นผู้นำที่สื่อสารให้คนไทยทั้งประเทศมีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จุดคานงัดนั้น
จุดคานงัดประเทศไทย คือ การสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่
หายจนถ้วนหน้า ลดความเหลื่อมล้ำ ทุกคนมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น รวมทั้งรัฐบาลด้วย ไม่มีความเสี่ยงต่อการเป็นหนี้หัวโตและความล้มเหลวเหมือนการแจกเงิน
แจกงานดีกว่าแจกเงิน”