สาวนักธุรกิจพันล้านภาคอีสาน แฉ โดนสามีที่เป็นทีมงานผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล สกลนคร ทำร้ายเลือดอาบหน้า แถมแอบถ่ายโอนทรัพย์สินไปให้คนอื่น เผย เคยโดนต่อยหูฉีกเย็บเกือบ 10 เข็มมาแล้ว คราวนี้สุดทนขอหย่าไม่อยากถูกทำร้ายเป็นครั้งที่ 3
วันนี้ (18 ต.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ “เป็นหนึ่ง” ของกลุ่มจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งมี น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ เป็นประธาน ได้โพสต์ข้อความ ว่า “คุณลักษณ์ ทีมงานเป็นหนึ่ง นักธุรกิจพันล้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกสามีทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ซ้ำยังถ่ายโอนทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสนับพันล้านออกไป ไปให้กับบุคคลที่ 3 ลั่น!! เตรียมเดินหน้าฟ้องหย่าเต็มที่
“ทางเป็นหนึ่งหลังได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากทางคุณลักษณ์ ว่า มีการทำร้ายร่างกายกันภายในครอบครัวของคนในองค์กร ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจใดๆ กับเรื่องนี้ เบื้องต้นเราได้ให้คำปรึกษาและแนวทางการฟ้องร้องแล้ว ส่วนทางคุณลักษณ์ก็ได้มีการดำเนินการฟ้องหย่าเพื่อแบ่งทรัพย์สินและเรียกร้องค่าเสียหายไปบางส่วนแล้ว
“ต่อมาทางทีมเป็นหนึ่งได้สืบทราบว่า คุณลักษณ์ ได้ทราบว่า มีการพยายามนำชื่อคุณลักษณ์ออกจากการเป็นกรรมการบริษัทและเปิดบริษัทภายใต้ชื่อใหม่โดยใช้ชื่อบุคคลที่ 3 ถือหุ้น 90% และฝ่ายสามีถือหุ้นเพียง 10% โดยที่ตนไม่ได้รับทราบการกระทำนึ้มาก่อน ซึ่งหลังจากที่เราตรวจสอบ มีการโยกย้ายชื่อคุณลักษณ์ เข้า-ออก บริษัทถึง 11 ครั้ง ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นพฤติการที่มิชอบ และเจ้าตัวไม่ได้รับทราบเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
“ทางเป็นหนึ่งจะตรวจสอบและหาข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความชอบธรรมที่สูงสุดกับตัวคุณลักษณ์ โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว ในเมื่อคนในองค์กรไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางเราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป”
ต่อมาเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ได้โพสต์ข้อความว่า “ทุกคนคะ นักการเมืองทำร้ายร่างกายผู้หญิงอีกแล้วค่ะ วันนี้ พี่อ้อ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง จะพาพี่ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายจากสามีซึ่งเป็นคณะทำงานของพรรคก้าวไกลสกลนคร ไปออกรายการเคลียร์ชัดๆ ช่อง WP23 เวลา 13.00 น. ค่ะ”
ทั้งนี้ นักธุรกิจหญิงคนดังกล่าว ได้ไปให้สัมภาษณ์ในรายการ “เคลียร์ ชัด ชัด” ทางช่อง “เวิร์คพอยท์” ในเวลา 13.00 น.วันที่ 18 ต.ค. ต่อด้วยรายการ “TOP NEWS TALK” ทางช่อง “เจเคเอ็น18” ในเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน
โดยเนื้อหาในการให้สัมภาษณ์ของ “ลักษณ์” สรุปได้ว่า เธอเป็นนักธุรกิจค้าอาหารสัตว์ในภาคอีสานและปัจจุบันขยับขยายมาทำปาล์มด้วย ได้รู้จักกับทีมงานพรรคก้าวไกลรายนี้มาตั้งแต่ปี 2552 และแต่งงานอยู่กินด้วยกันในปี 2557 เคยถูกสามีทำร้ายครั้งรุนแรงมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกย้อนไปเมื่อ 6-7 ปีก่อน เมื่อเธอแสดงอาการหึงหวงที่สามีไปยุ่งกับเด็กเอนท์ในงานปาร๋ตี้กลุ่มออฟโรด และเกิดทะเลาะวิวาทกันระหว่างขับรถกลับบ้าน เธอทั้งโดนตบและต่อยจนหูฉีกเย็บเกือบ 10 เข็ม ยังมีแผลเป็นอยู่จนทุกวันนี้ แต่ครั้งนั้นก็ให้อภัยเพื่อรักษาครอบครัว และรักษาธุรกิจเอาไว้
จุดแตกหัก มาเกิดเอาตอนเดือนสิงหาคมปีนี้ ที่สามีเธอหายไปจากบ้าน 2 สัปดาห์ โดยติดต่อไม่ได้เลย เมื่อกลับมาก็ติดกล้องวงจรปิดไว้ทั่วบ้าน แล้วหายออกไปอีก 2 สัปดาห์ แล้วกลับมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา เมื่อเข้าไปถามดีๆ ก็โดนด่ากลับ บอกเบื่อ รำคาญ ไม่อยากเห็นหน้า อะไรไม่ดีเอามาประโคมใส่หมด ซ้ำยังไล่ให้ไปตายกับบุพพากรี เพราะรู้ว่าเธอกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก ก็เอาปมตรงนี้มาด่า เธอเลยโมโหสุดขีด เอาตุ๊กตาที่อยู่โรงรถออกมาทุบกระจกรถมัสแตงป้ายแดง ทั้งด้านหน้าด้านหลัง สามีก็ปรี่เข้ามาชกต่อยทำร้ายร่างกาย คิ้วแตกเลือดอาบเป็นทางยาวลงมาที่แก้ม ตาเขียวช้ำ จึงตัดสินใจไปแจ้งความ ข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ฝ่ายชายก็แจ้งความกลับข้อหาทำลายทรัพย์สิน คือ รถมัสแตง ทั้งที่รถคันนี้เป็นสินสมรสและยังมีประกันชั้น 1 รวมทั้งแจ้งข้อหาลักทรัพย์ที่เธอไปเปิดตู้เซฟที่เป็นสินสมรส เอาของบางส่วนไปขาย เพราะสามีไม่ให้เงินเลย รวมทั้งแจ้งข้อหามีชู้ด้วย ทำให้ทนไม่ไหวจึงเตรียมฟ้องหย่า เพราะไม่อยากโดนทำร้ายเป็นครั้งที่ 3
ด้าน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ส.ส.และรองโฆษกพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความใน X (ทวิตเตอร์) @petchy66 ว่า “ไม่ใช่คณะทำงานพรรคนะครับ เคยอาสามาช่วยหาเสียง และสมัครเป็นสมาชิกพรรคตอนเดือนสิงหาคมหลังเลือกตั้ง อันนี้ถือเป็นการแชร์ข้อความอันเป็นเท็จ ใส่ร้ายให้เกิดความเกลียดชัง ไม่ต้องลบนะครับ เพราะผมCopyไว้แล้ว ยินดีด้วยนะครับ”
อย่างไรก็ตาม เพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “#ทุกคนคะ พี่เพดเกียมฟ้องแล้วค่ะ เขาไม่ใช่คณะทำงาน แค่ “เป็นสมาชิกพรรค เป็นคนช่วยหาเสียง และ เพจพรรคก้าวไกล สกลนคร ลงรูปพร้อมแคปชันว่า คณะทำงาน” เท่านั้นเองค่าาา”
นอกจากนี้ เพจ “เป็นหนึ่ง” ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า “เวลานี้มีกระแสทางสังคมหลากหลายมุมมอง จากเคสคุณลักษณ์ที่ถูกสามีทำร้ายร่างกาย และยังมีเบาะแสการโยกย้ายทรัพย์สินสมรสไปยังบุคคลที่ 3
“ทางเป็นหนึ่งอยากออกมาชี้แจงและพูดในมุมของการช่วยเหลือเป็นกระบอกเสียงให้กับเคสนี้ ว่า การที่เราเข้ามาตีแผ่เคสนี้ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองต่อพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่จุดประสงค์ของเราคือตีแผ่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ต่อผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ถูกกระทำ”
“ส่วนเรื่องกรณีที่ถูกพูดถึงว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เท็จเพื่อโจมตีพรรคการเมือง อยากให้มองว่า เรื่องราวนี้ถูกบอกเล่าโดยคุณลักษณ์ ซึ่งเป็นภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายของผู้กระทำผิด
“ส่วนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในโซเชียลถึงพรรคการเมืองใดๆ อยากให้มองว่าเป็นสิทธิในการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล ทางเราไม่ได้มีจุดประสงค์ให้โฟกัสในเรื่องนั้น เราไม่ได้ออกมาโจมตีพรรคการเมือง แต่เราออกมาต่อสู้เพื่อผู้หญิงด้วยกัน”