นายกฯ เสียใจ หลังรับรายงานคนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 รวมเป็น 24 ราย ยอดขอกลับ 7 พันคนแล้ว เผยใช้สัมพันธ์ส่วนตัวประสาน “สไปรท์ เจ็ท” ใช้แอร์บัส A340 ช่วยขนคนเพิ่ม ย้ำไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งใคร วางตัวเป็นกลางทุกฝ่าย ไม่เข้าข้างใคร มุ่งช่วยคนไทยออกมาเร็วที่สุด
วันนี้ (14 ต.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า เป็นที่น่าเสียใจที่ขณะนี้สถานทูตไทยประจำอิสราเอล รายงานว่า มีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 24 ราย ถูกจับตัวประกันยังเท่าเดิม 16 ราย บาดเจ็บ 16 ราย มีการประสานงานต่อเนื่องที่จะเร่งเอาคนไทยกลับมาที่บ้านโดยเร็วที่สุด
ล่าสุด มีผู้แสดงเจตจำนงขอกลับ 7,000 คนแล้ว ซึ่งขอขอบคุณ 3 สายการบินไทย นกแอร์ และ แอร์เอเชีย ที่ช่วยกันทำงานร่วมกันอย่างดี ในการที่หาลู่ทางนำคนไทยออกมาให้เร็วที่สุด ทางรัฐบาลเองและส่วนตัวก็ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการติดต่อเอกชนที่มีเครื่องบินมีคอนเนกชัน ที่มีเครื่องบินสายสัมพันธ์กับจีนชื่อ สไปรท์ เจ็ท เพราะเขาใช้ A340 ซึ่งไฟลต์หนึ่งได้ 300 กว่าคน อาจจะเร็วได้ที่สุดคือวันอาทิตย์นี้ให้ทัน กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้ให้คอนแทกต์ติดต่อไปแล้วเรียบร้อยเพื่อใช้ลำเลียงคนชาติของเขา ชาวอินเดียกลับประเทศอยู่แล้ว หากตกลงกันได้และเคลียร์เรื่องการสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาลอิสราเอลก็จะจัดการทันทีโดยเร็วที่สุด ให้ได้ 350 คนต่อไฟลต์มาเครื่อง A340
ส่วนที่มีนักวิชาการด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ มีความกังวลเรื่องการวางตัวของไทยกับอิสราเอล อาจกระทบกับปาเลสไตน์ได้ มีการปรึกษาฝ่ายความมั่นคงอย่างไรเรื่องการวางตัวเป็นกลาง นายเศรษฐา ยืนยันว่า เราวางตัวเป็นกลาง เราไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งของใครทั้งสิ้น แต่หน้าที่ของตน คือ การทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะทางเพื่อนของชาวปาเลสไตน์ ผู้นำต่างๆ และสถานทูตอิสราเอล เพื่อปกป้องคนไทยให้ปลอดภัย จากวิกฤตสงครามครั้งนี้ ยืนยันเราไม่ได้มีการช่วยเหลือใครทั้งสิ้นและไม่ได้แสดงจุดยืนว่าเข้าข้างใคร แต่เราเข้าข้างคนไทยที่ประสบปัญหาอยู่ตอนนี้ สิ่งเดียวที่รัฐบาลไทยเป็นห่วงอยู่ ก็คือ คนอีกประมาณกว่า 6,000 คน ที่อยากจะออกมาและพี่น้องอีกเป็นหมื่นคนที่มีความกังวลเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญสูงสุดเรายินดีทำงานกับทุกฝ่ายเพื่อให้คนไทยปลอดภัย
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ระบุว่า เท่าที่ได้รับรายงานนานาประเทศที่ต้องใช้พื้นที่น่านฟ้าบินผ่านเพื่อไปรับคนไทยนั้น ยังไม่มีปัญหา เพราะธรรมดามีการขออนุญาตผ่านน่านฟ้าเป็น 10 วัน แต่ตอนนี้ลดเหลือ 2 วัน มีปัญหาอะไรก็พร้อมที่จะยกหูโทร.คุยกันได้ทุกประเทศทั้งหมด อย่างที่บอกไปว่าขอความกรุณาเรื่องของความมั่นคงเรื่องการติดต่อกับชาติต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับคู่ขัดแย้งอิสราเอลเราก็ประสานงานกันอย่างดีเรื่องการขอปล่อยตัวประกันการดูแลตัวประกันให้ดีเราพูดคุยตลอดขอยืนยัน