xs
xsm
sm
md
lg

คืนความสุขให้ผม! "บิ๊กต่อ" ได้ใจลูกน้อง ต่อไปนี้ตำรวจปลอมตัวได้หลากหลายแล้ว ไม่ใช่แค่พระ! **ก้าวไกลว้าวุ่น!! ต้องรีบแถลงลงโทษคนในพรรคที่ทำเรื่องแย่ๆ โดยเฉพาะพวก “สายหื่น”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** คืนความสุขให้ผม! "บิ๊กต่อ" ได้ใจลูกน้อง ต่อไปนี้ตำรวจปลอมตัวได้หลากหลายแล้ว ไม่ใช่แค่พระ!

พลันที่ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ออกคำสั่งยกเลิกระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ โดยตำรวจชายที่เคยกำหนดให้ไว้ผมเกรียนขาว 3 ด้าน อนุโลมให้ผมด้านหน้ายาวได้ไม่เกิน 5 ซม. ส่วนด้านข้างและหลังไม่เกิน 1 ซม. หรือที่นิยมเรียกกันว่า “รองหวี” และยังให้อำนาจหัวหน้าหน่วยระดับผู้บังคับการ พิจารณาพิเศษสำหรับข้าราชการตำรวจในพื้นที่เสี่ยงภัย หรือสายสืบนอกเครื่องแบบ ใช้ดุลยพินิจไว้ทรงผมตามความเหมาะสม

ขณะที่ตำรวจหญิงในเครื่องแบบห้ามมิให้ผมปรกบ่า หรือ ปิดอินทรธนู ถ้าจะไว้ยาวก็ต้องขมวดให้เรียบร้อย

คำสั่งดังกล่าวเรียกเสียงฮือฮาพอสมควร เกือบ 100% เห็นด้วย เห็นจากเพจตำรวจดังต่างไชโยโห่ฮิ้ว ด้วยเหตุผลคล้ายกันคือ รู้สึกอึดอัดกับระเบียบดังกล่าว เรื่องความหล่อเป็นรอง แต่ความไม่ปกติสุขในชีวิตเดือนๆ หนึ่ง ต้องพะวงตัดผมทรงขาว 3 ด้าน 3-4 ครั้ง เป็นอย่างต่ำ
นั่นคือเรื่องสำคัญ

โรงพักไหนมีสวัสดิการก็ดีไป ตัดฟรีบ้าง เสียตังค์บ้าง สุดท้ายคือหน้าที่การงานหนักพออยู่แล้ว แต่ต้องมาห่วงในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ความเข้มของเจ้านายแต่ละคน ก็ไม่เท่ากัน เจอใจดีก็รอดไป เจอระเบียบจัด อาจมีสิทธิ์จอดได้ง่ายๆ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล
ทำไมคำสั่งนี้จึงฮือฮา และ “มีเฮ” เหตุผลง่ายๆ ก็เพราะมีบทลงโทษโคตรๆๆโหดไว้ 3 ระดับ กล่าวคือ ถ้าตรวจพบข้าราชการตำรวจฝ่าฝืน ไม่ตัดผมตามกำหนดครั้งแรกให้ภาคทัณฑ์ ส่งฝึกยุทธวิธีตำรวจที่ศูนย์หนองสาหร่าย 3 วัน... ครั้งที่ 2 กักยาม 3 วัน ขยายเวลาฝึกเป็น 7 วัน...ครั้งสุดท้ายคือครั้งที่ 3 มีโทษกักขัง 7 วัน ฝึก 30 วัน และมีผลพิจารณาความดีความชอบประจำปี

นอกจากบรรดาลูกน้องแล้ว ระดับผู้บังคับบัญชาก็ต้องปฏิบัติทัดเทียมกัน จะมีการตรวจวัดทรงผมทุกวันจันทร์

นี่คือความอึดอัดยิ่งกว่าท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยวเพราะท้องผูกมานาน 4-5 วัน

ถือว่างานนี้ “บิ๊กต่อ” ได้ใจลูกน้องไปเต็มๆ เป็นการคืนความสุขให้กับกำลังพล หลังจากต้องสาละวนวิ่งเข้าวิ่งออกร้านตัดผม ตั้งแต่เริ่มคำสั่งเมื่อปี 2561 ผ่านมานาน 5 ปี

คงไม่ต้องย้ำว่า ใครผิดใครถูก หรือมีคำถามใดๆ เพราะชัดอยู่แล้วว่าในข้อดียังมีข้อเสีย คือเมื่อได้ความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ปัญหาสำคัญคือ ตำรวจในพื้นที่ล่อแหลมกลายเป็น“เป้านิ่ง” ติดนามบัตร ประกาศตัวด้วยทรงผมขาว 3 ด้าน เชื่อว่า ของขวัญวันตำรวจ คงไม่เพียงผ่อนผันเรื่องทรงผม น่าจะมีเรื่องดีๆ ออกมาเรื่อยๆ ทั้งตำรวจ ทั้งประชาชน

ต่อไปนี้ตำรวจไทยปลอมได้หลากหลายแล้ว ไม่ใช่แค่พระ.. อิอิ!!

**ก้าวไกลว้าวุ่น!! ต้องรีบแถลงลงโทษคนในพรรคที่ทำเรื่องแย่ๆ โดยเฉพาะพวก “สายหื่น”

พริษฐ์ วัชรสินธุ และ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์
นอกจากภาพพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ที่การกระทำไม่เหมือนพูดแล้ว... เรื่อง เมา ทำร้ายผู้หญิง คุกคามทางเพศ ของคนในพรรคก็มีให้เป็นข่าวบ่อยๆ ...ใช่แล้ว กำลังพูดถึงพรรคสีส้ม!!

ล่าสุดมีเรื่องร้องเรียนว่า ส.ส.ของพรรคมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทีมงานอาสาสมัครของตนเอง และมีการแฉผ่านทางโซเชียลฯ แบบเห็นหน้าเห็นตากันจะจะ จนเป็นข่าวฮือฮา

ฝ่ายหญิงที่เป็นผู้เสียหาย บอกว่าได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังพรรคก้าวไกล ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิด หรือลงโทษ สส.คนนั้น แต่เรื่องเงียบ จึงต้องใช้ช่องทางประจานทางโซเชียลฯ

ในที่สุด ส.ส.คนต้นเรื่อง “วุฒิพงศ์ ทองเหลา” ก้าวไกล ปราจีนบุรี ก็ทนนิ่งอยู่ไม่ไหว ออกมาโพสต์คลิปชี้แจงว่า เรื่องแชตคุกคามสาวนั้น เป็นเรื่องเก่าตั้งปีครึ่งแล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นสส. แต่ถูกตัดเอาบางส่วนมาเผยแพร่ เพราะต้องการดิสเครดิต ตนเอง ทำลายชื่อเสียงพรรคก้าวไกล เพื่อกลบเกลื่อน ปิดบัง เรื่องราวที่ตนเองกำลังตรวจสอบในจังหวัดปราจีนบุรี อยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะเรื่องของมลพิษในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ

วุฒิพงษ์ ทองเหลา
ยิ่งชี้แจงอย่างนี้ ทัวร์ยิ่งลงหนัก...เพราะนั่นเท่ากับยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่พยายามหาความชอบธรรมให้กับตนเอง โดยโยงว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะมีขบวนการจ้องทำลายตนเองและพรรค ที่กำลังทำประโยชน์ กำลังต่อสู้เพื่อคนปราจีนบุรี

จับแพะ ชนแกะ พยายามให้เป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งที่การกระทำของตนเองนั้น เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างชัดเจน แลยังเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย!!

เจอเข้าอย่างนี้ ทางพรรคก็นิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค ก็ควงแขน “ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์” สส.กรุงเทพฯ ในฐานะกรรมการวินัยพรรคก้าวไกล ออกมาแถลง แจกแจงถึงเรื่องราวว่าทำไมพรรคถึงเจอแต่เรื่องแบบนี้ แล้ว พรรคจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ไอติม” ยอมรับว่า พรรคก้าวไกลกำลังมีปัญหาเรื่องการคุกคาม และความรุนแรงทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม ที่กระทบความปลอดภัยของประชาชน...เมื่อปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นจากบุคลากรภายในองค์กร สิ่งที่ต้องทำให้ได้ คือ การยอมรับปัญหา เผชิญหน้ากับปัญหา และหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยไม่สร้างวัฒนธรรมในการปกปิดเรื่อง หรือปกป้องคนในองค์กรที่ทำผิด

สิริน สงวนสิน
กรณีของ “วุฒิพงษ์ ทองเหลา” ส.ส.ปราจีนบุรี นั้น ทางพรรคได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียนเมื่อเดือนส.ค. ก็ได้เชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ตลอดเดือนก.ย. และประธานคณะกรรมการวินัยพรรค ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่11ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าว “มีมูล” ซึ่งกระบวนการสอบข้อเท็จจริงและการวินิจฉัย จะได้ข้อสรุปภายในเดือนต.ค.นี้ แล้วพรรคจะตอบทุกข้อสงสัยที่มี เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โอกาสนี้ “ไอติม” ก็ได้แถลงถึงผลการสอบสมาชิกพรรค เกี่ยวกับพฤติกรรมความรุนแรง คุกคามทางเพศ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และกรรมการบริหารพรรคได้สรุปแล้ว ซึ่งมีทั้งการ “คาดโทษ” และ “ไล่ออก”

คือกรณีของ “สิริน สงวนสิน” ส.ส.กรุงเทพฯ กับข้อกล่าวหาเรื่องใช้ความรุนแรง พบว่า “สิริน” ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหาย และได้กระทำความรุนแรงต่อผู้เสียหาย ทำลายทรัพย์สิน และใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมต่อผู้เสียหายจริง พรรคจึงมีมติให้ลงโทษ “สิริน สงวนสิน” 2 ประการคือ

1.ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค โดยตัดสิทธิไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคทันที ซึ่งถือเป็นโทษที่หนักเป็นอันดับ 2 รองลองมาจากการขับออกจากสมาชิกภาพ 2. กำหนดคาดโทษไว้ว่า หากมีเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่ “สิริน” กระทำผิดวินัยร้ายแรงอีกครั้ง ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นส.ส. ทางพรรคจะขับออกจากสมาชิกภาพทันที

เกรียงไกร จันกกผึ้ง
ส่วนอีกรายคือ “เกรียงไกร จันกกผึ้ง” อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ ที่มีข้อกล่าวหา เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งพรรคพบว่า “เกรียงไกร” ได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายจริง ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่ออุดมการณ์ ผิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง จึงได้มีมติให้ลงโทษด้วยการขับออกจากสมาชิกภาพทันที

“พริษฐ์” ยังแถมให้อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ปรากฏในสื่อสาธารณะ คือกรณีมีข้อกล่าวหาเรื่อง คุกคามทางเพศ โดย สส. อีกหนึ่งคน กรณีนี้ทางพรรคทราบข้อมูลว่า ได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ โดยสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สส.ของพรรคก้าวไกล แม้ว่าทางพรรคยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรงจากบุคคล ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ทว่าตั้งแต่ทราบเรื่อง ทางคณะกรรมการวินัยของพรรค ได้ติดต่อไปยังบุคคลนั้น โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอความพร้อมของบุคคลดังกล่าว ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า “ส.ส.ปริศนา” รายนี้เป็นใคร และพรรคก้าวไกลจะ “ล้อมคอก” กับปัญหานี้อย่างไร เพราะการคุกคามทางเพศนั้นไม่ต่างกับ“การใช้อำนาจฉ้อฉล” แต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น