"ก้าวไกล" โต้ไม่ได้เมินเฉย สั่งสอบ สส.คุกคามทางเพศสาวแล้ว ด้านรองหัวหน้าพรรค แจงสรุปเร็วไม่ได้เพราะผู้ร้องยังทำงานอยู่ในพรรค ต้องสอบครบถ้วนรอบด้าน ตอบไม่ได้ว่าเสร็จเมื่อไหร่ แต่หากผิดจริงต้องพ้นจากสมาชิกภาพ
วันที่ 10 ต.ค. 2566 กรณีโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศของ สส. พรรคก้าวไกล ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทีมงานอาสาสมัคร หลังมีผู้โพสต์ข้อความผ่าน (X) แฉพฤติกรรม สส.คนดังกล่าว
โดยระบุ เพื่อนของตนทำงานอาสาสมัครกับพรรคชื่อดัง ซึ่ง สส. คนดังกล่าว ประจำจังหวัดหนึ่ง ทักแชตเพื่อนของตน และชวนพูดคุย มักจะทักมาชวนคุยช่วงดึก ๆ ซึ่งพบว่าบทสนทนาที่อ้างว่าเป็น สส.คนดังกล่าวนั้น เป็นการส่อแววพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ทั้งยังมีการลวนลามอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าของโพสต์แจ้งว่ามีการดำเนินการแจ้งเรื่องกับพรรคต้นสังกัดแล้ว พร้อมระบุว่า ได้นำข้อมูลเอกสารแชตทั้งหมดกว่า 200 หน้า ไปให้ทางพรรคพิจารณาแล้ว แต่ไม่คืบหน้า และไม่มีใครสนใจ และสอบถามชาวเน็ตว่า “มันแปลกไหมครับ ที่เราจะมาพูดเรื่องแบบนี้กับคนทำงานด้วยกัน” พร้อมกับแนบภาพแชตส่วนหนึ่งให้ด้วย
หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไปไม่นาน ทางพรรคต้นสังกัดได้ออกมาชี้แจง ว่า “ทางพรรคขอชี้แจงว่า หลังจากได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียน ทางพรรคได้ริเริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการวินัยพรรคเมื่อเดือน ส.ค.โดยมีการเชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดเดือน ก.ย. เมื่อได้ข้อสรุป ทางพรรคจะดำเนินการสื่อสารผลสรุปต่อสาธารณะโดยทันที รวมถึงสื่อสารผลสรุปของกรณีทั้งหมดก่อนหน้านี้ ที่ได้มีการตัดสินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ทั้งนี้ มีผู้เข้ามาคอมเมนต์ ว่าทางพรรคควรจะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงให้เร็วกว่านี้ เพราะกระบวนการสอบสวนเรื่องนี้ถือว่าช้ามาก และหากยังไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ ทางพรรคก็ควรมีการอัปเดตเพื่อให้ผู้ร้องเรียนทราบว่าตอนนี้อยู่กระบวนการไหน ไม่งั้นผู้ร้องเรียนก็รอจนคิดว่าทางพรรคยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ทางด้าน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า กำลังตั้งเรื่องสอบสวนจริง สอบพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ทราบเรื่องแล้ว ให้สอบตรงไปตรงมา เบื้องต้นพบว่ามีมูล สอบมาสักระยะแล้ว ยังสรุปเร็วไม่ได้เพราะกับผู้ร้องที่ยังทำงานอยู่ภายในพรรค เป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดอ่อน ต้องสอบครบถ้วนรอบด้าน ยังตอบไม่ได้ว่าเสร็จเมื่อไหร่
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หากกรรมการบริหารวินิจฉัยว่า มีความผิดจริง จะมีการตัดสิทธิได้ใน 2 แบบ 1. ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกทั้งหมด แต่ไม่กระทบกับสิทธิ สส. และจะสงวนสิทธิไม่ส่งลงเลือกตั้งครั้งถัดไป 2. กรณีที่ให้พ้นจากสมาชิกภาพ เพราะเรื่องเพศเราไม่สามารถวินิจฉัยเป็นอื่นไปได้ ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น ขณะนี้ยังถือว่า อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน เพื่อนำมาวินิจฉัยว่า เป็นความผิดหรือไม่ ที่สุดการพิจารณาสุดท้ายจะอยู่ที่กรรมการบริหาร ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นคณะกรรมการวินัยอยู่