งานรำลึก 7 ตุลาฯ พี่น้องพันธมิตรฯ แน่นบริเวณบ้านเจ้าพระยา ร่วมฟังปราศรัยจากอดีตแกนนำ ชมการแสดงจากศิลปินพันธมิตรฯ หลากหลาย “สนธิ” เผย 17 ปีที่ต่อสู้ในนามพันธมิตรฯ พอใจแม้ไม่ 100% ที่ “ทักษิณ” กลับมาเข้ากระบวนการยุติธรรม แต่เจ็บใจที่ยังใช้อำนาจทางการเมืองตกลงกับรัฐบาลเก่าขออภัยโทษอย่างรวดเร็ว เข้าเรือนจำแค่ 11 ชั่วโมงก็ออกไปอยู่ รพ. และยังแค้นใจผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารพี่น้องพันธมิตรฯ ถูกยกฟ้องหมด ลั่นจะเก็บความแค้นนี้ไว้ และสู้ไม่หยุด
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่บริเวณบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ ได้มีการพิธีตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และช่วงการชุมนุม 193 วัน นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , นางสาวรสนา โรสิตระกูล , นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย , นางมาลีรัตน์ แก้วก่า
อนึ่ง สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในปี 2551 และเหตุการณ์ต่อเนื่อง ประกอบด้วย
1. น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ถูกระเบิดแก๊สน้ำตาที่หน้าอก บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เวลาประมาณ 16.00 น.
2. พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ถูกระเบิดในรถยนต์หน้าพรรคชาติไทย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เวลาประมาณ 15.00 น.
3. นายสมเลิศ เกษมสุขปราการ หัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2551
4. นายสมชาย ศรีประจันต์ ถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยตำรวจ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2551
5. นายเจนกิจ กลัดสาคร ถูกระเบิดที่ศีรษะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2551 หน้าเวทีในทำเนียบรัฐบาล
6. นายยุทธพงษ์ เสมอภาพ ถูกระเบิดที่ศีรษะ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2551 ที่บริเวณสี่แยกมิสกวัน
7. นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา ถูกฟันและยิงจนเสียชีวิต ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2551
8. น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู ถูกระเบิดที่ศีรษะ หน้าเวทีในทำเนียบรัฐบาล วันที่ 29 พ.ย. 2551
9. นายรณชัย ไชยศรี ถูกระเบิดเสียชีวิตที่ดอนเมือง เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2551
10. น.ส.ศศิธร เชยโสภณ ประสบอุบัติเหตุในขณะที่ขนย้ายออกจากทำเนียบรัฐบาล กลางคืนวันที่ 2 ธ.ค. 2551 เสียชีวิตวันที่ 6 ธ.ค. 2551
11. นายเสถียร ทับมะลิผล ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะซ้าย อาการโคม่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2551 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2555
12. นางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ถูกเบิดแก๊สน้ำตาเข้าที่บริเวณศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองหายไปข้างหนึ่งพร้อมดวงตาข้างซ้าย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2559
13. นายประเสริฐ แก้วกระโทก ถูกทำร้ายขณะไปชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง เสียชีวิตในปี 2557
ภายในงานวันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ในฐานะอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในงานรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ตอนหนึ่งว่า นับตั้งแต่เริ่มการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อปี 2549 มาถึงวันนี้ 17 ปีให้หลัง ประเทศไทยก็ยังเหมือนเดิม แต่มีสิ่งเดียวที่พอใจแม้ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คือราชกิจจานุเบกษาที่ประณามความชั่วของนายทักษิณ ชินวัตร
นายสนธิ กล่าวว่า การที่นายทักษิณกลับมายอมรับโทษแสดงว่า ยอมรับในสิ่งที่พันธมิตรฯ สู้มาตั้งแต่ปี 2549 นั้นถูกต้องทุกอย่าง แต่ก็ยังมีเรื่องที่เจ็บใจอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรก แม้ว่าในที่สุดแล้วนายทักษิณกลับมา แต่ก็ได้ใช้อำนาจทางการเมืองไปเจรจา จับมือกับผู้มีอำนาจขณะนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อตกลงกันว่าเมื่อยอมกลับมาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะต้องทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้ นั่นคือที่มาของการได้รับการพระราชทานอภัยโทษอย่างรวดเร็วทันใจ
“ถ้าเราจะตำหนิ เราต้องถามว่า คุณประยุทธ์คุณไปตกลงอะไรกับทักษิณ เราต้องเข้าใจให้ถูกต้อง อย่าไปเข้าใจอะไรผิด”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ถ้านายทักษิณติดคุกสัก 6 เดือนจะตายโหงตายห่าหรืออย่างไร จริงๆ แล้วทัษิณสามารถอยู่ในคุกได้สบายเพราะเขาเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว แต่ทำไมเข้าไปในคุกแค่ 11 ชั่วโมง เพียงแค่จะได้บอกว่าเข้าคุกแล้ว 11 ชั่วโมงแล้วก็ออกไปเข้าโรงพยาบาล เพราะถือว่าได้เข้าเรือนจำแล้ว
“ไม่เป็นไร ยังไงผมก็พร้อมที่จะต่อสู้ไม่หยุด แต่ว่า ผมเคยพูดกับพ่อแม่พี่น้องมานานแล้ว พี่น้องอาจจะจำไม่ได้ ผมบอกว่าเราต้องให้ปัญญาคน
“มีผู้หลักผู้ใหญ่ในราชสำนักเข้ามาหาผม พี่สนธิ พี่รู้มั้ยในประเทศไทยเหลือพี่อยู่คนเดียวที่สู้เพื่อสถาบันกษัตริย์ พี่ไม่เคยถอย เดือนที่ผ่านมา ท่านผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช “ก้อง” มาหาผม มาคารวะผม เอาผลไม้มาให้ผม บอกพี่สนธิ พี่ไม่ต้องพูดอีกเลยว่าพี่สู้เพื่อพระมหากษัตริย์ หรือสถาบันกษัตริย์ ในประเทศไทยไม่มีใครตั้งคำถามถึงพี่ได้เลย เพราะว่าพี่ยืนหลักฝนตกแดดออก เปิดออกมาเมื่อไหร่สนธิก็ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“นี่คือสิ่งที่ผมยืนยันกับพ่อแม่พี่น้องที่ชมรายการมา แล้วที่อยู่ รู้ว่า 17 ปีที่แล้ว ผมพูดอะไรก็ตาม พ่อแม่พี่น้องต้องจำเอาไว้ 2566 17 ปีให้หลัง ผมก็พูดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพราะความจริงมันมีหนึ่งเดียวใช่ไหม”
นายสนธิกล่าวว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเจ็บช้ำใจที่สุด คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการฆ่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ใช้อำนาจรัฐเพื่อให้ยกฟ้องพวกมันทั้งหมด
“พี่น้องอย่านึกว่าผมไม่เจ็บนะ เลือดผมไหลอยู่ข้างใน จากวันนั้นถึงวันนี้แล้วจนวันตายของผม ถ้าเรายังไม่ได้รับความยุติธรรมตรงนี้ ผมจะตายไปด้วยความคับแค้น และเก็บความคับแค้นต่อไป ถ้าเกิดมาชาติหน้าต้องเจอพวกมึงใหม่ กูจะสู้มึงให้ตายเลย”
นายสนธิ ยังกล่าวย้ำว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ใช่ กปปส. ขอให้ดูก็แล้วกันว่าตั้งแต่พันธมิตรฯ สู้มา จนถึงวันนี้ มีใครบ้างที่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี เราสู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เราสู้กับความไม่ถูกต้อง และเราสู้โดยไม่เราหวังอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ กปปส.มีกี่คนที่ไปเป็นรัฐมนตรีลองนับดู ในวันที่ คสช.ยึดอำนาจ มีคนมาถามตนว่าเมืองไทยจะเป็๋นอย่างไร ก็ได้บอกไปแล้วว่า เป็นแค่สมบัติผลัดกันชม ต้องขอโทษ “ติ่งลุงตู่” อย่าโกรธ เป็นสมบัติกันชมจริงๆ
“จากวันนั้นที่พวกเรา เจ๊รสนา อาจารย์ปานเทพ สู้มาตลอดในเรื่องของพลังงานจำได้ไหม พวกเรานี้เป็นพวกแรกที่ลุกขึ้นมาสู้เรื่องพลังงาน มาจนถึงวันนี้พี่น้อง มีอะไรเปลี่ยนบ้างไหม ไม่มี ไม่เคยมี เราสู้มาเรื่องกระบวนการยุติธรรม ต้องลากทักษิณกลับมาติดคุกให้ได้ เราก็ทำสำเร็จไป 11 ชั่วโมง โคตรทุเรศเลย”
“อย่าไปลืมเรื่องพวกนี้ เก็บเอาไว้ในใจ มีลูกมีหลาน สอนลูกสอนหลานเอาไว้ ถ้ามันบอกรับทราบแล้วครับแม่ และชู 3 นิ้ว ตบกะโหลกมันเลย ไอ้เด็กระยำพ่อแม่ไม่สั่งสอน
“พ่อแม่พี่น้องครับ ผมดีใจมาก วันนี้พ่อแม่พี่น้องมาเนี่ยไม่ใช่น้อยนะ ชุดเก่าๆ ชุดพวกนี้ ก็จะมาทุกปี ถ้าเรามีการทำบุญ เพราะเรา จิตใจเรา ตัวเรา จิตวิญญาณเรา ร่างกายเราสู้กับคนที่ตายไปทั้งหมด” นายสนธิกล่าว