รองนายกฯ พบหารือผู้จัดการธนาคารโลก (World Bank) ประจำประเทศไทย กระชับความร่วมมือรอบด้านอย่างเป็นรูปธรรม เห็นพ้องพัฒนาทุนมนุษย์สร้างขีดความสามารถ ร่วมมือจัดการน้ำ รับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
วันนี้ (5 ต.ค.) เวลา 15.45 น. ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายฟาบริซิโอ ซาร์โคเน่ (Mr. Fabrizio Zarcone) ผู้จัดการธนาคารโลก (World Bank) ประจำประเทศไทยและคณะ เข้าพบหารือกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณและต้อนรับในนามของรัฐบาล โดยทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างต่อเนื่อง การกระชับความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่าย เชื่อมั่นด้วยประสบการณ์ของผู้จัดการธนาคารโลก ประจำประเทศไทย จะเดินหน้าความร่วมมือระหว่างกันจนเห็นผลเป็นรูปธรรมได้โดยเร็ว โดยเฉพาะในประเด็นที่รองนายกรัฐมนตรีดูแล ทั้งการบริหารจัดการน้ำ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการรับมือกับโลกยุคดิจิทัล
ด้าน ผู้จัดการธนาคารโลก กล่าวขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาพบในวันนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดี และเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ และเดินหน้าความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสและศักยภาพที่จะพัฒนาความร่วมมือกันได้อีกมาก โดยผู้จัดการธนาคารโลกยังกล่าวอีกว่า ธนาคารโลกประจำประเทศไทยมีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมและมีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ที่พร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลไทย
โดยทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องที่มีความสนใจและเป็นประโยชน์ร่วมกัน
ผู้จัดการธนาคารโลก กล่าวว่า กลุ่มธนาคารโลกมีการจัดประชุมประจำปีในทุกปี โดยในปี พ.ศ. 2569 มีมติให้จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ประเทศไทย จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกรัฐมนตรีของไทยจะมีโอกาสได้พบกับประธานธนาคารโลกด้วยตนเองในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การพบกันของทั้งสองจะทำให้เกิดความเข้าใจอันดี และสร้างลู่ทาง เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น
รองนายกรัฐมนตรีและผู้จัดการธนาคารโลกเห็นพ้องที่จะทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อร่วมกันเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน ซึ่ง ไทยมีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่หวังมุ่งเสริมสร้างทักษะและความสามารถของแรงงาน ส่งเสริมความคิดริเริ่มที่ตอบสนองความต้องการทักษะเฉพาะของอุตสาหกรรม จึงหวังที่จะร่วมมือและพร้อมรับฟังคำแนะนำด้านนโยบายและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพื่อช่วยพัฒนาสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เอื้ออำนวย จากธนาคารโลก
ด้านการบริหารจัดการน้ำ ทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ในหลายทาง ทั้งร่วมกันประเมินทรัพยากรน้ำของไทยอย่างครอบคลุม การรับมือกับสภาพภูมิอากาศและการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ซึ่งรัฐบาลไทยและธนาคารโลกสามารถร่วมมือกันในการสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการพัฒนากลยุทธ์ในการจัดการทรัพยากรน้ำ สนับสนุนความพยายามในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมไปถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถ การแบ่งปันความรู้ การติดตามและประเมินผล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการฟื้นฟูสมรรถภาพระบบน้ำ
การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าไปสู่รัฐบาลดิจิทัล สร้างระบบเดียวเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเชื่อว่า ในอนาคตจะยังมีศักยภาพร่วมมือกันได้อีกมาก โดยในตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณคณะ สำหรับคำแนะนำซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง พร้อมนำไปปรับใช้และย้ำถึงความพร้อมที่จะร่วมมือกับธนาคารโลก ซึ่งสามารถนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน การสร้างงาน และมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้นของไทยและภูมิภาค