เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย มองเกม “ชลน่าน” สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพ แต่ตัดสิทธิประชาชนเข้าถีงกัญชา แล้วให้แพทย์แผนปัจจุบันเป็นคนจ่าย เบียดขับความรู้ท้องถิ่น จัดระดมความเห็น พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่กระบี่ 23 ก.ย.นี้ พร้อมนัดชุมนุม
วันนี้ (22 ก.ย.) นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวถึงกรณี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ไม่ขัดข้องหากรัฐสภาจะนำ พ.ร.บ.กัญชาฯ ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง แต่ต้องมีวิธีการใช้ว่าจะใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ ใช้และควบคุมอย่างไร เพื่อไม่ให้ผิดวัตถุประสงค์ของกฎหมาย ว่า ตนเห็นด้วยในเชิงเป้าหมายว่า การใช้กัญชาควรเป็นไปเพื่อการแพทย์และสุขภาพ แต่ต้องมานิยามว่า การแพทย์และสุขภาพคืออะไร ตรงนี้เป็นประเด็นใหญ่ เพราะว่านิยามจะนำมาสู่รูปร่างหน้าตาของกฎหมาย เมื่อไหร่ก็ตามที่นิยามการแพทย์ว่าคือแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น เมื่อนั้นความขัดแย้งจะตามมา
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ผู้ที่ใช้กัญชามาหลายร้อยปี คือ หมอพื้นบ้าน แพทย์แผนไทย ไม่ใช่หมอแผนปัจจุบัน องค์ความรู้ในการใช้กัญชาอยู่ที่หมอพื้นบ้าน และประชาชนผู้ใช้กัญชารักษาผู้ป่วย แต่พอถึงการกำหนดว่าใครเป็นผู้วินิจฉัยในการใช้กัญชากลับโยนไปให้แพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่รังเกียจกัญชา นี่คือ การใช้ความรู้ศูนย์กลางเบียดขับความรู้ท้องถิ่น และนี่คืออำนาจเผด็จการอีกชนิดหนึ่ง เพราะใครใหญ่คนนั้นก็ช่วงชิงการนิยามว่าอะไรคือความถูกต้อง และสำหรับประเทศนี้ท้องถิ่นถูกเบียดขับตลอดมา โดยเฉพาะการเบียดขับความรู้ การกำหนดกฎหมายและกติกาของประเทศนี้ใช้ความรู้ของศูนย์กลางเป็นสิ่งกำหนดตลอดมา นี่คือหัวใจของความเป็นเผด็จการที่ฝังลึก
เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวด้วยว่า ถ้า นพ.ชลน่าน จะนิยามการแพทย์ว่าคือการแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น ความขัดแย้งจะเกิดขึ้น และนี่ไม่ใช่การแย่งชิงเรื่องกัญชาเท่านั้น แต่คือการเบียดขับความรู้ท้องถิ่นครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งอย่าคิดว่าประชาชนในท้องถิ่นจะยอมให้ส่วนกลางกดขี่อีกต่อไป เราก็มีสิทธิในการนิยามสรรพสิ่งในประเทศนี้เช่นกัน สำหรับตนแล้ว ข้อขัดแย้งหลังจากนี้ในการกำหนดเรื่องกัญชา คือ การนิยามคำว่าการแพทย์และสุขภาพคืออะไร ถ้า นพ.ชลน่าน จะเลิกนิสัยการเบียดขับความรู้ของท้องถิ่น ก็จงเคารพระบบการรักษาของท้องถิ่น และโปรดอ่านตำราหมอพื้นบ้านบ้างว่า การสูบคือวิธีการรักษาชนิดหนึ่งย้ำว่า การสูบคือการรักษาในตำรายาหมอพื้นบ้าน อย่าดัดจริตเอาใจมวลชนแล้วตั้งข้อรังเกียจต่อการสูบกัญชาแต่ปล่อยให้มีการสูบบุหรี่ที่ก่อโรคมหาศาล ฉะนั้นอย่าดัดจริตเรื่องการสูบ มองการสูบเป็นของต่ำต้องคาบไปป์แบบพวกผู้ดีใช่ไหมจึงจะเป็นอารยชน
“วิธีการจัดการกับการสูบคือการกำหนดพื้นที่เพื่อมิให้รบกวนผู้อื่นไม่ใช่มาดัดจริตว่าการสูบ คือ วิธีการชั่วร้าย นี่ก็ถือเป็นการช่วงชิงการนิยามอีกชนิดหนึ่ง เมื่อคาบอยู่ในปากของพวกมันคือสิ่งดี แต่คาบอยู่ในปากประชาชนเป็นสิ่งร้าย เกมของหมอชลน่านคือ ตัดสิทธิประชาชนแล้วให้แพทย์เป็นคนจ่าย” เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าว
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เราก็คงต้องเตรียมจัดการชุมนุม เพราะกัญชามูลค่าแสนล้าน การต่อสู้ครั้งนี้ จึงมิใช่เพียงเพื่อกัญชาเท่านั้นแต่คือการต่อสู้ในการนำความรู้ของท้องถิ่นให้มีสิทธิในการกำหนดกติกาของประเทศ และวันที่ 23 กันยายน นี้ เครือข่ายฯ จะชวนระดมความเห็นทำ พ.ร.บ.กัญชา ที่ จ.กระบี่ เราจะนำเรื่องนี้เข้าหารือ เพื่อกำหนดเป้าหมายของกัญชาไทย และเรื่องอะไรบ้างที่เราควรบรรจุไว้ใน พ.ร.บ. กลไกและข้อปฏิบัติต่างๆ ควรเป็นอย่างไร