“สมชัย” ย้ำ บุคคลที่เป็นเอกชน 2 ราย ร่วมคณะเดินทางของนายกฯ ไม่สามารถออกค่าใช้จ่ายเองแล้วจบ เพราะเป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำจากการบินไทย ไม่สามารถแยกซื้อโดยสารตามที่นั่ง ชี้ การเลือก Boeing 787-8 Dreamliner ไม่มีชั้นหนึ่ง จะได้อ้างยอมนั่งชั้นธุรกิจและประหยัดแล้ว
วันนี้ (20 ก.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงการเดินทางเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกาของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมคณะ ด้วยการเช่าเหมาลำเครื่องบินของการบินไทย ว่า บุคคลที่เป็นเอกชน 2 ราย ที่ร่วมคณะเดินทางของนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถใช้ประโยคว่า ออกค่าใช้จ่ายเองแล้วจบ
คนแรก คือ คุณคณาพจน์ จะอ้างเป็นเลขาฯ ติดตามนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะไม่มีการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และบุคคลดังกล่าวก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองได้ เนื่องจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง เมื่อปี 2562 เป็นเวลา 10 ปี จากการเป็นกรรมการบริหารพรรคกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ
คนที่สอง คุณชนัญดา บุตรสาวของนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมเดินทางด้วยเหตุผลว่า เพื่อช่วยผู้เป็นมารดาในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะภรรยานายกรัฐมนตรี และได้ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างเป็นการส่วนตัว
สิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ คือ เครื่องบินที่ใช้เป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำ จาก บริษัท การบินไทย ด้วยการเสนอราคาขนผู้โดยสาร 50 คน ไปกลับ ในราคา 30 ล้านบาท ซึ่งจะบอกว่า ผู้ร่วมเดินทางได้จ่ายเงินในส่วนนี้เองไม่ได้ เพราะไม่ใช่การบินที่สามารถแยกซื้อโดยสารตามที่นั่ง
ส่วนค่าที่พัก สามารถจ่ายเองได้ เบี้ยเลี้ยงคงไม่สามารถเบิกได้อยู่แล้ว ส่วนอาหารการกินหากไม่เคร่งครัดก็สามารถร่วมทานได้
การนำบุตรสาว และ บุคคลที่ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล ร่วมเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ คงเป็นเรื่องที่ประชาชนในประเทศต้องพิจารณา
ส่วนประเด็นผิดกฎหมายหรือไม่ และโทษจะรุนแรงถึงขั้นพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เป็นเรื่องที่หน่วยงานหรือฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้อง จะต้องพิจารณาและดำเนินการ
เครื่องการบินไทยที่นายกฯ เหมาลำไป เป็นเครื่อง Boeing787-8 Dreamliner ชื่อ จตุรพักตร์พิมาน รับมอบเครื่อง 15 กันยายน 2557 ไม่มีชั้นหนึ่ง มีชั้นธุรกิจ 22 ที่นั่ง ชั้นประหยัด 234 ที่นั่ง รวม 256 ที่ ผู้โดยสาร 50 คน จึงสามารถนั่งชั้นธุรกิจ 22 คน และอีก 28 คน นั่งชั้นประหยัดแบบนอนยาวได้ เพราะมีที่นั่งเหลือเฟือถึง 234 ที่
เหตุผลที่ไม่เช่าเหมาลำ เครื่องการบินไทยที่มีที่นั่งชั้นหนึ่ง คือ ต้องใช้เครื่อง Boeing 777-300 อีอาร์ แบบ 77Y ซึ่งมีอยู่ 3 ลำ มีที่นั่งชั้นหนึ่ง 8 ที่ ชั้นธุรกิจ 40 ที่ ชั้นประหยัด 255 ที่ รวม 303 ที่ ซึ่งเป็นเครื่องใหญ่กว่า มีราคาเช่าเหมาลำที่สูงกว่า
การที่นายกฯ เลือก 787-8 Dreamliner และต้องนั่งชั้นธุรกิจ แทนการนั่งชั้นหนึ่ง จึงสอดคล้องกับตรรกะที่บอกว่า ยอมนั่งชั้นธุรกิจและประหยัดแล้ว
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้โพสต์ภาพนั่งเครื่องการบินไทยชั้น “Business Class” ร่วมคณะบินไปนิวยอร์ก โดยบอกว่า “นั่งรวมกับทุกคนในชั้น Business Class ไม่จำเป็นต้องนั่งแยกกัน เอาที่ต้นทุนมีประสิทธิภาพที่สุด อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกัน ก็สบายๆ”
นายเศรษฐา กล่าวว่า การตัดสินใจเช่าเหมาลำของการบินไทยราคาถูกกว่าส่วนราชการ โดยมีการเปรียบเทียบราคาโปร่งใส อย่างที่ได้ชี้แจงมาแต่ตั้น และการมาเครื่องของการบินไทยนายกรัฐมนตรีก็ต้องนั่งแค่ชั้น Business เหมือนข้าราชการระดับสูง