เปิดโปรแกรม “ปดิพัทธ์” เบิกงบฯ 1.3 ล. พาก๊วน ส.ส.ก้าวไกล 5 คน และ เพื่อไทย 1 เยือนสิงคโปร์ 21-25 ก.ย. วางคิวดูงานหลายเรื่อง หึ่ง! ไม่มีใครเชิญเป็นดำริ อยากไปเอง “ณัฐพงษ์-วรภพ-เท่าพิภพ” ร่วม “ศรันย์” ส.ส.เพื่อไทย มีชื่อร่วมทริป “ไกลก้อง” ผู้ก่อตั้ง อนค.ไปด้วย แต่จ่ายเอง เผย บินชั้นธุรกิจค่าตั๋วครึ่งแสน รับเบี้ยเลี้ยงอีกวันละ 3 พัน บ. ปูดมีเบิกงบรับรองไป 2 แสน บ. แต่ไม่น่าได้ใช้จริง
วันนี้ (17 ก.ย.) รายงานข่าวจากสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 21-25 ก.ย. 66 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และคณะรวม 12 คน มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยระบุวัตถุประสงค์ว่า เพื่อศึกษาดูงานด้านระบบสารสนเทศการประชุมของรัฐสภาแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์, การบริหารจัดการแรงงานของคนไทยในสาธารณรัฐสิงค์โปร์ และการจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดย นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุมัติการเดินทางเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติงบประมาณเป็นเงินจำนวน 1,379,250 บาท (หนึ่งล้านสามแสนเจ็ดหมื่นเก้าพันหนึ่งร้อยห้าสิบบาทถ้วน) เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ ของนายปดิพัทธ์ และคณะ
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ภารกิจการเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ ของ นายปดิพัทธ์ และคณะ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ภายในสภาผู้แทนราษฎรอย่างกว้างขวาง โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการตั้งเรื่องอนุมัติอย่างเร่งรีบ โดยไม่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการแผนและงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งมองว่า เป็นห้วงเวลาใกล้สิ้นปีงบประมาณ 2566 (30 ก.ย. 66) จึงต้องรีบเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังเหลืออยู่ อีกทั้งยังมีการระบุด้วยว่า การเดินทางไปสาธารณรัฐสิงคโปร์ครั้งนี้ ไม่ได้การเชิญจากหน่วยงานหรือบุคคลของทางสาธารณรัฐสิงคโปร์ แต่เป็นดำริของ นายปดิพัทธ์ ที่มอบหมายให้กลุ่มงานพิธีการทูต สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นผู้ประสานไปยังสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อขอเดินทางไปเยือน
สำหรับรายชื่อคณะผู้ร่วมเดินทาง 12 คนนั้น มี 7 คน ที่เป็น ส.ส. ประกอบด้วย 1. นายปดิพัทธ์ สันติปาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะหัวหน้าคณะ 2. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, 3. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล 4. นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล 5. น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล 6. น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล และ 7. นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ที่เหลือ 4 ราย เป็นข้าราชการสังกัดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติภารกิจติดตามคณะ ส่วนอีก 1 ราย มีขื่อของ นายไกลก้อง ไวทยการ อดีตนายทะเบียน และผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ที่อยู่ระหว่างการตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งระบุว่า เป็นผู้ติดตามของ นายปดิพัทธ์ และออกค่าใช้จ่ายเอง
ในส่วนของงบประมาณจำนวน 1,379,250 บาท ด้วยว่า ในจำนวนนี้แบ่งเป็นค่าบัตรโดยสารเครื่องบินสายการบินไทย ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ 438,750 บาท, ค่าเบี้ยเลี้ยง 120,400 บาท, ค่าเช่าที่พัก 425,000 บาท, ค่ารับรอง 200,000 บาท, ค่าของที่ระลึก 30,000 บาท, ค่าเช่าพาหนะในต่างประเทศ 150,000 บาท ค่าธรรมเนียมจัดทำหนังสือเดินทางราชการ 11,000 บาท และค่ายานพหนะขนสัมภาระเดินทางไป-กลับท่าอาศยาน 4,000 บาท (ข้าราชการ)
มีการระบุงบประมาณที่เบิกจ่ายสำหรับ ส.ส. 1 คน อยู่ที่คนละ 114,650 บาท แบ่งเป็น ค่าบัตรโดยสารรเครื่องบินไป-กลับ 51,250 บาท, ค่าเบี้ยเลี้ยง 4 วันๆ ละ 3,100 บาท รวม 12,400 บาท, ค่าที่พัก (พักเดี่ยว) 4 คืนๆ ละ 12,500 บาท รวม 50,000 บาท และค่าจัดทำหนังสือเดินทาง 1,000 บาท ส่วนของ นายปดิพัทธ์ มียอดค่าใช้จ่ายรวม 494,650 บาท โดยได้สิทธิค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าที่พัก เท่ากับ ส.ส.คนอื่น แต่มียอดเพิ่มเติมในส่วนของค่ารับรอง 200,000 บาท ค่ายานพาหนะ 150,000 บาท และค่าของที่ระลึก 30,000 บาท อยู่ในรายการของนายปดิพัทธ์
มีรายงานว่า ในการขออนุมัติงบประมาณ พบว่า 7 ส.ส.ที่ร่วมคณะเลือกใช้สิทธิบินชั้นธุรกิจทั้งหมด ทั้งที่เป็นเส้นทางบินระยะสั้น ใช้เวลาราว 2.20 ชั่วโมง โดยค่าบัตรโดยสารอยู่ที่คนละ 51,250 บาท ขณะที่ข้าราชการร่วมคณะได้สิทธิบินชั้นประหยัด ค่าบัตรโดยสารไป-กลับ อยู่ที่คนละ 20,000 บาท ต่างกันถึงคนละ 31,250 บาท จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายปดิพัทธ์ และคณะ ไม่ประหยัดงบประมาณตามนโยบายที่ นายปดิพัทธ์ ได้เคยประกาศไว้ เมื่อครั้งรับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตในส่วนของงบรับรอง มีเบิกจ่ายจำนวน 200,000 บาท แบ่งออกเป็น 4 รายการๆ ละ 50,000 บาท แบ่งเป็นค่างานเลี้ยงรับรองประธานรัฐสภา/รองประธานรัฐสภา, ค่างานเลี้ยงรับรองประธาน Government Technology Agency, งานเลี้ยงรับรองผู้แทนหน่วยงานที่รับผิดชอบงาน Green Singapore และงานเลี้ยงรับรองผู้แทนหน่วยงานบรรยายสรุปอุตสาหกรรม EV โดยเป็นที่รู้กันว่า งบรับรองในกรณีเดินทางไปปฏิบลัติภารกิจต่างประเทศนี้ส่วนใหญ่ไม่มีการใช้จริง เนื่องจากเป็นการเดินทางในฐานะแขกผู้ไปเยือน ที่มักมีเจ้าภาพ ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูตจัดเลี้ยงรับรองอยู่แล้ว อีกทั้งการเบิกจ่ายงบรับรอง สามารถเบิกจ่ายได้โดยการลงนามรับรองการจ่ายของหัวหน้าคณะเดินทางเท่านั้น โดยไม่ต้องมีใบเสร็จ หรือใบกำกับภาษี ยืนยันแต่อย่างใด
สำหรับ นายปดิพัทธ์ ขณะนี้กำลังเป็นประเด็นในกรณีที่อาจจะต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เพื่อเปิดทางให้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล คนใหม่ รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็มีกระแสข่าวว่า นายปดิพัทธ์ อาจใช้เทคนิคให้ พรรคก้าวไกล ขับออกจากพรรค และไปให้เข้าสังกัดพรรคการเมืองอื่น เพื่อรักษาตำแหน่งไว้ โดย นายปดิพัทธ์ ระบุว่า จะรอหารือกับกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ชุดใหม่ ที่จะมีการเลือกในการประชุมวิสามัญของพรรคก้าวไกลที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.ย. 66 นี้
นอกจากนี้ นายปดิพัทธ์ ยังเคยเป็นประเด็นนำงบรับรองในตำแหน่งรองประธานสภา จัดเลี้ยงบุฟเฟ่ต์หมูกระทะ แม่บ้านสภา จำนวน 370 คน โดยระบุว่า เป็นการใช้งบประมาณในส่วนของงบรับรอง ที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับปีละ 2 ล้านบาท ที่คงใช้ไม่หมด และถือว่าแม่บ้านสภา เป็นแขกของตัวเอง.