“วันนอร์” ยันประชาชาติไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ มุ่งเป็นสถาบันการเมือง ย้ำไม่ใช่ศัตรูก้าวไกล ร่วมรัฐบาลเพื่อปัญหา ปชช.

“วันนอร์” กล่าวปาฐกถาพิเศษงานประชุมใหญ่พรรคประชาชาติ ยันไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เป็นสถาบันการเมือง ยังเป็นพันธมิตรกับก้าวไกล แม้อยู่คนละฝ่ายแต่ไม่เป็นศัตรูกัน แจงเหตุผลเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน พร้อมทำหน้าที่ประธานสภา เต็มที่ไม่ท้อถอย ทำงานเพื่อประชาชน

วันนี้ (26 ส.ค.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ครั้งที่ 2 พรรคประชาชาติ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา โดยระบุว่า วันนี้ไม่ได้มาในฐานะหัวหน้าพรรค แต่มาในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง หากนับจากวันนี้เหลือเวลาไม่ถึง 5 วัน จะถึงวันที่ 1 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบ 5 ปีจัดตั้งพรรคประชาชาติ ถ้าเป็นเด็กก็เพิ่งผ่านโรงเรียนอนุบาลเข้าชั้น ป.1
5 ปีที่ผ่านมา เรามีความเติบโตทางด้านสมอง ในการคิดต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค จิตใจที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ เมตตาธรรมอยู่ในหลักการของคำสั่งสอนของศาสนา

เรามีบททดสอบมากมาย หลายคนบอกว่าเราเป็นพรรคเฉพาะกิจ ตั้งแล้วเลิกไปเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเท่าที่ควร วันนี้ยังไม่ถึง 5 ปีดี พิสูจน์แล้วว่าเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ปัจจุบันเรามีสมาชิก 24,000 คน ซึ่งอาจจะเป็นหมื่นเป็นแสนคนในอนาคต

“ผมยืนยันว่า ตราบใดที่พี่น้องประชาชนสนับสนุน เราจะไม่มีวันเลิก ผมจะอยู่หรือไม่อยู่ พรรคประชาชาติต้องโตเหมือนเด็กที่โตขึ้น เป็นเด็กมัธยมเข้าสู่มหาวิทยาลัย เป็นพรรคใหญ่ในอนาคต”

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หลายพรรคบอกว่าจะไม่ให้พรรคเราชนะเลือกตั้ง แต่ผลก็พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่สามารถทำให้พรรคเราเล็กลงได้ เรามี ส.ส.เขต 7 คน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 2 คน รวมเป็น 9 คน เราแลนด์สไลด์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ คะแนนปาร์ตี้ลิสต์จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา ได้อันดับ 1 ทุกเขต พร้อมย้ำว่า “ผมจะไม่มีวันทอดทิ้งพรรค อยากเห็นพรรคเติบโต”

ทั้งนี้ การเลือกตั้งที่ผ่านมา ยังปรากฏให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลที่ไม่ได้ ส.ส.เลยในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มาเป็นอันดับ 2 เดิมเรากับก้าวไกลเป็นพันธมิตรกัน ต่อไปเราเป็นรัฐบาล และเขาเป็นฝ่ายค้าน แต่ไม่ได้เป็นศัตรูกัน ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งต่อไป ต้องมีการทบทวนปรับปรุงแก้ไข

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังได้ชี้แจงกรณีที่พรรคประชาชาติ ถูกกล่าวหาว่า ไม่มีสาขาพรรค และตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จังหวัดสงขลา 2 เขต และ จังหวัดสตูล 2 เขต เท่ากับการสรรหาผู้สมัครตามกระบวนการไพรมารีโหวตที่กฎหมายกำหนดของพรรคประชาชาติไม่สมบูรณ์ เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมาย เสี่ยงถูกยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งกรณีนี้ศาลฎีกา มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 ที่ว่าพรรคประชาชาติไม่มีตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด มีผลให้หัวหน้าพรรคไม่สามารถออกหนังสือรับรองได้ หัวหน้าพรรคจึงไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายตามมาตรา 56 ประกอบมาตรา 120 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวถึงอนาคตของพรรคประชาชาติ โดยย้ำว่าเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เราจะต้องเป็นสถาบันการเมือง พี่น้องประชาชนต้องช่วยกัน เชื่อว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะทำให้เราโตขึ้นไม่ใช่แค่ 9 คน ตัวเลขต้องเป็นเลขคู่ 15 คน 25 คน และ 35 คน

“หลายคนพูดว่าเป็นรัฐบาลทำไมต้องไปรวมกับพรรคอื่น การทำงานต้องรู้จักถอยกันคนละก้าวเพื่อก้าวหน้าอย่างมั่นคง จะชอบหรือไม่ชอบต้องมีรัฐบาลเพื่อมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน หากยืนหยัดไม่ถอย โอกาสที่จะมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอาจไม่มี ผมไม่ได้มาพูดเพื่อแก้ตัวแต่พูดเพื่อให้เข้าใจบทบาทหน้าที่และสิ่งที่ต้องทำ”

โดยช่วงท้ายของปาฐกถาพิเศษ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวว่า เราจะมีคณะรัฐมนตรีไปร่วมรัฐบาล เรามีตัวแทนทั้งฝ่ายนิติบัญญัติสูงสุด มีรัฐมนตรี และมีคณะทำงานอีกหลายคนไปเข้าร่วม เราไม่สามารถทำให้คนชอบทั้งหมดได้ เป็นเรื่องที่ต้องตระหนัก กำลังใจมีสู้อย่างเต็มที่ จะทำหน้าที่ประธานสภา เต็มที่ไม่ท้อถอย ทำงานเพื่อประชาชน