ชาวเน็ตจับผิดแท็กซี่เสื้อแดงประท้วงเพื่อไทยเล่นใหญ่เกินเบอร์ พบหนึ่งในนั้นเป็น "ศดิศ ใจเที่ยง" ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ก้าวไกล แต่สอบตก ผลักดันโครงการแท็กซี่ก้าวหน้า ใช้รถไฟฟ้า ก่อนหน้านี้เคยหนุนผับบาร์ปิดตีสี่ และค่าแท็กซี่สตาร์ท 40-45 บาทมาก่อน
วันนี้ (9 ส.ค.) จากกรณีที่กลุ่มแท็กซี่ทวงคืนความยุติธรรม และกลุ่มแท็กซี่อิสระเพื่อสังคม กลุ่มคนเสื้อแดงรักประชาธิปไตย ได้เดินทางไปที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ประกาศขอยุติการเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์คำพูดว่าจะไม่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชาชรัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนาจัดตั้งรัฐบาล โดยนำพวงหรีดมาวางไว้อาลัยบนนหน้ารถแท็กซี่ เผาบัตรครอบครัวเพื่อไทย พร้อมถอดเสื้อแดงที่มีโลโก้ของพรรคเพื่อไทย ใส่พานวางบนหน้ารถแท็กซี่ คืนให้พรรคเพื่อไทย หลังจากนั้น ได้นำดอกไม้มามอบเพื่อเป็นกำลังใจให้ พรรคก้าวไกล ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ซึ่งอยู่ติดกัน แสดงจุดยืนในการสนับสนุนพรรคก้าวไกล โดยมีนายสุเทพ อูอ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนรับมอบดอกไม้ ตามที่รายงานข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : กลุ่มแท็กซี่มอบกุหลาบก้าวไกล ลั่นจะไม่โดดเดี่ยวสู้เผด็จการ หลังโปรยดอกไม้จันทน์-คืนเสื้อแดงให้เพื่อไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า บนโซเชียลฯ ได้วิจารณ์บุคคลที่ไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าวที่พรรคเพื่อไทย พบว่าหนึ่งในนั้นคือ นายศดิศ ใจเที่ยง ที่พบว่าเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลำดับที่ 64 พร้อมกันนี้ยังได้แปะลิงก์ข้อมูลส่วนตัวของนายศดิศ ที่ปรากฏในเว็บไซต์พรรคก้าวไกลอีกด้วย
สำหรับนายศดิศ ใจเที่ยง อายุ 64 ปี จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอแกดำ จ้งหวัดมหาสารคาม, สาขาปกครองท้องถิ่น ที่ UMKC UNIVERSAL MINISTRIES OF THE KING'S COLLEGE.USA ปี 2016, อบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2565, หลักสูตรการบริหารจัดการสมาคมการค้าเชิงกลยุทธ์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปี 2558, หลักสูตรวิชาชีพขนส่งชุมชน อาชีพผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารสาธารณะ (แท็กซี่) ปี 2561, หลักสูตรผู้นำพัฒนาประชาธิปไตย รุ่นที่ 3 ปี 2552 และหลักสูตรอาสาประชาชน (อ.ส.ป.) รุ่นที่ 9 ปี 2552 การทำงาน นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย ปี 2553 ถึงปัจจุบัน
ในการหาเสียงเลือกตั้ง นายศดิศกล่าวว่า "ถึงพี่น้องผู้ร่วมอาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ ถึงเวลาแล้วที่คนทุกอาชีพจะเข้าไปส่งเสียงได้ในสภา คนขับแท็กซี่ก็เช่นกัน เพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนธรรมดา คนตัวเล็กๆ ที่ครั้งหนึ่งสังคมอาจจะมองข้าม ไม่มีอาชีพไหนที่ไม่มีความสำคัญหรอกครับ เราต่างเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศที่เรารัก เราต่างเท่าเทียม เป็นคนเท่ากัน ในมุมมองแบบก้าวไกล" พร้อมสโลแกนประจำตัวว่า "พลังสามัคคีแท็กซี่ไทยเป็นหนึ่งเดียว" อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด นายศดิศไม่ได้รับการเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ระบุว่า สมาคมฯ เตรียมแนวทางขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลใหม่เยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อยเบื้องต้น 3 เรื่อง 1. ผลักดันเรื่องโครงการแท็กซี่ก้าวหน้า (รถไฟฟ้า) เพื่อลดมลพิษทางอากาศ และลดฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลให้เป็นรูปธรรม เนื่องจากผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อยที่ได้ต่ออายุใช้งานแท็กซี่จาก 9 ปีเป็น 12 ปี มาตั้งแต่ปี 64 จนถึงปัจจุบันมีรถแท็กซี่ทยอยหมดอายุกว่า 20,000 คัน จากทั้งหมด 45,000 คัน จากผลกระทบโควิด-19 ตั้งแต่ปี 63-65 ทำให้การซื้อรถแท็กซี่ใหม่แต่ละคันค่อนข้างหาเงินเก็บไปดาวน์รถด้วยความยากลำบาก
จึงขอให้นำโครงการฯ เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีรายละเอียดประกอบด้วย ให้เข้าโครงการล็อตแรก 10,000 คัน ขนาดรถไฟฟ้า 2 ขนาด 90 กิโลวัตต์ และ 120 กิโลวัตต์ ให้สมาคมหรือนิติบุคคลรับรองผู้ที่จะออกรถแท็กซี่ก้าวหน้าต้องให้พ่อแม่ ภรรยา หรือลูกรับรู้ว่าออกรถและเซ็นรับรองด้วย หลักประกันสำคัญต้องมีโฉนดหรือเงินเดือนของผู้ค้ำ รัฐบาลต้องค้ำประกัน 50% เพื่อเป็นแรงจูงใจให้สมาชิกฯ และให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) รับผิดชอบและห้ามล็อกสเปกผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อย 2. แก้ไขกฎข้อบังคับ รถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือแอปพลิเคชัน และ 3. เรื่องอัตราค่าโดยสารไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพปัจจุบัน ทั้งนี้สมาคมฯ จะเคลื่อนไหวต่อไปเมื่อได้รัฐบาลใหม่
นอกจากนี้ เมื่อย้อนกลับไปในช่วงที่ผ่านมา พบว่านายศดิศ ใจเที่ยง ออกมาเคลื่อนไหวทั้งขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาเฟ่ต่างๆ จาก 02.00 น. เป็น 04.00 น. รวมไปถึงเรียกร้องการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) จากเดิมเริ่มต้นที่ 35 บาท เปลี่ยนเป็นเริ่มต้นที่รถเล็ก 40 บาท รถใหญ่ 45 บาท และปรับเพิ่มตามระยะทาง เพื่อให้คนขับรถแท็กซี่อยู่ได้