ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แกนนำคนเสื้อแดงโคราชรอเก้อหลัง “ทักษิณ” เลื่อนกลับไทย ชี้เข้าใจต้องรอ “เพื่อไทย” จัดตั้งรัฐบาลเสร็จ วอนด้อมส้มกับคนเสื้อแดงอย่าแตกแยกกัน อ้าง “พท.” แยกทางกันเดินกับก้าวไกล เหตุมีความจำเป็นต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยวให้ประเทศเดินต่อไปได้
วันนี้ (4 ส.ค.) นายสมโภชน์ ประสาทไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทย จากเดิมมีกำหนดกลับวันที่ 10 ส.ค. 66 เป็นเลื่อนไปหลังจากที่การจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว ว่า โดยส่วนตัวแล้วตนเองเข้าใจดีว่าท่านทักษิณคงจะประเมินแล้วว่าการกลับมาในช่วงที่พรรคเพื่อไทยยังจัดตั้งรัฐบาลไม่เสร็จ อาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้ เนื่องจากท่านเคยถูกลอบสังหารมาก่อนแล้วถึง 4 ครั้ง ดังนั้นครั้งนี้จึงต้องมีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนเสื้อแดงอย่างพวกตน อยากให้ท่านกลับมาประเทศไทยโดยเร็ว อยากให้ท่านมาเป็นขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเคียงข้างกันกับท่านมาโดยตลอด แต่ถ้ามาแล้วไม่ปลอดภัยก็เลื่อนไปก่อนได้ พวกตนสามารถรอได้อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่พรรคเพื่อไทยแยกทางกันเดินกับพรรคก้าวไกลเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้นั้น ตนเองรู้สึกไม่สบายใจนัก เห็นใจทั้งด้อมส้ม และคนเสื้อแดงทุกคน แต่ในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้มันบิดเบี้ยว ทำให้พรรคร่วมรัฐบาล ที่มี ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน แม้จะรวมกันได้มากถึง 312 เสียงก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของอำนาจเก่า สามารถเข้ามาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ทำให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องแยกทางกันเดินกับพรรคก้าวไกล เพื่อพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
พรรคเพื่อไทยบอกแล้วว่าถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาลแล้วจะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยวนี้เป็นอันดับแรก เพื่อให้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ถ้าไม่ทำเช่นนี้ประเทศก็ยากที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นจึงอยากขอให้พี่น้องชาวเสื้อแดง และพี่น้องด้อมส้มทุกคนอย่าได้เกิดความแตกแยกกันเลย ตอนนี้ขอให้พรรคใดพรรคหนึ่งได้เข้าไปเป็นรัฐบาลก่อน
"ส่วนเรื่องนโยบายต่างๆ ของพรรคก้าวไกลที่เป็นประโยชน์ พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง ยังอยู่ในนโยบายที่จะช่วยผลักดันอยู่ ซึ่งเชื่อว่าผู้บริหารพรรคเพื่อไทยคงจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบแล้วจึงตัดสินใจประกาศไปเช่นนั้น" นายสมโภชน์ กล่าวในตอนท้าย