สำนักนายกฯ เปิดผลประมูลวิธีเฉพาะเจาะจง จ้างเหมาเครื่อง “การบินไทย” 30 ล้าน ภารกิจนายกรัฐมนตรีและคณะ บินร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 “UNGA78” ที่นิวยอร์ก 18-26 ก.ย.นี้ หลังสื่อดัง เปิดข้อมูลไม่ใช้เครื่องบินกองทัพอากาศ อ้างเงื่อนไขเพียบ ย้ำที่นั่ง “Business Class” รองรับคณะได้เพียบ แถมนายกฯ ก็ยินดีนั่งแบบ Business Class
วันนี้ (14 ก.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ออกประกาศให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการเสนอราคา
การจ้างการรับขนคนโดยสารทางอากาศโดยเครื่องบินพาณิชย์สำหรับภารกิจการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78)ของนายกรัฐมนตรีและคณะ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง
ประกาศมีใจความว่า ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานกำหนด จำนวน 1 ราย เข้ายื่นข้อเสนอเจรจาต่อรองราคา
สำหรับการจ้างการรับขนคนโดยสารทางอากาศโดยเครื่องบินพาณิชย์ สำหรับภารกิจการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ของนายกรัฐมนตรีและคณะ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง นั้น
การจ้างการรับขนคนโดยสารทางอากาศโดยเครื่องบินพาณิชย์ สำหรับภารกิจการเข้าร่วมประชุม สมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ของนายกรัฐมนตรีและคณะ ดังกล่าว
“ผู้ได้รับการคัดเสือก ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)”
ซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้ยื่นข้อเสนอครบถ้วน ถูกต้อง มีคุณสมบัติ และข้อเสนอทางด้านเทคนิค ครบถ้วน ถูกต้อง
ตามเงื่อนไขที่หน่วยงานกำหนดในหนังสือเชิญชวน และเอกสาร การยื่นข้อเสนอโดยวิธีเฉพาะเจาะจง และขอบเขตของงาน ประกอบกับเป็นผู้มีประสบการณ์ในงานจ้างดังกล่าว เป็นอย่างดี
“โดยเสนอราคา ภายในวงเงิน 30,000,000. บาท (สามสิบล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นราคาที่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายทั้งปวงไว้ด้วยแล้ว โดยจะเบิกจ่ายตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามเส้นทางที่กำหนด ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ”
ประกาศ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566 ลงนามโดย นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
เมื่อต้นเดือน เพจผู้สื่อข่าวชื่อดังประจำทำเนียรับบาล ระบุว่า การที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ใช้เครื่องบิน Airbus 340 ของ กองทัพอากาศ (ทอ.) บินไปประชุม UNGA ที่ New York สหรัฐฯ 18-26 ก.ย.นี้
“แต่ใช้เช่าเหมาลำ เครื่องการบินไทยไปแทนนั้น มีเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. ค่าใช้จ่าย เครื่องบิน ทอ. สูงกว่าหลายล้านบาท 2. เครื่อง ทอ. แม้จะมีที่นั่ง First Class แต่ก็มีจำนวนน้อย
3. ที่นั่ง Business Class เสียหลายที่นั่ง จึงไม่เพียงพอ กับคณะ เนื่องจากเป็นการเดินทางต้องใช้เวลานาน 19-20 ชม.”
ดังนั้น นายกฯ จึงเลือกเช่าเหมาลำการบินไทย ไปแทน โดยจะนั่ง ที่นั่ง Business Class เช่นกัน ไม่นั่ง First Class
ขณะที่สำนักข่าวชื่อดังแห่งหนึ่ง ระบุ 3 เหตุผลว่า ทำไม นายกฯ “เศรษฐา” ไม่ใช้เครื่องบินกองทัพอากาศ ไปประชุม UNGA ที่สหรัฐฯ 18-26 ก.ย.นี้ แต่ใช้เหมาลำ “การบินไทย”?
1. มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเช่าเหมาลำ “การบินไทย” 2. มีที่นั่ง First Class น้อย และ 3. แม้จะมีที่นั่ง Business Class แต่ไม่พอกับคณะ นายกฯ จึงเลือกการบินไทย และนั่ง Business Class ไปด้วยกัน
“สื่อดังกล่าว ยกคำสัมภาษณ์ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่เสริมว่า ขอขยายความ ข้อ 2 นิดนึงนะครับ เครื่องบินของกองทัพอากาศ จัดที่นั่งเป็นแบบ First Class จึงมีที่นั่งน้อย (จุได้น้อย)
การเลือกเครื่องการบินไทย ที่จัดที่นั่งแบบ Business Class จะรองรับผู้เดินทางร่วมกันได้มากกว่า ซึ่งนายกฯยินดีจะนั่งแบบ Business Class ด้วย (ไม่เกี่ยงว่าต้องนั่ง First Class เท่านั้นครับ)”
เมื่อปี 2559 การบินไทยและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขณะนั้น แจ้ง ค่าเดินทางไปยังมลรัฐฮาวาย ดัวยการเช่าเครื่องบินเหมาลำของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ คณะ
โดยราคากลางที่ การบินไทยนำเสนอกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อค่าจ้างโดยใช้ เครื่องโบอิ้ง 747 วงเงิน 20 ล้านบาท
ต่อมามีการจับผิดไปที่การใช้น้ำมันเชื้อเพลง และราคาค่าอาหาร ของคณะครั้งนั้น.