"เศรษฐา" ลุกสวน “ก้าวไกล” หดหู่หลังเจอคำอภิปรายด้อยค่ารัฐบาล-กองทัพ ย้ำ ต้องพัฒนาร่วมกัน พร้อมเผยแนวทางแก้ปมเครื่องยนต์เรือดำน้ำ เตรียมเจรจาเยอรมัน “โรม” ประท้วงอย่าเสียดสีก้าวไกล
วันที่ 12 ก.ย.ในการประชุมรัฐสภาอภิปรายนโยบายรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงต่อประเด็นที่ถูก นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ต่อการวางกรอบนโยบายด้านการทหาร และความมั่นคง ว่า ตนได้ฟังการอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คนก่อนหน้านี้ รู้สึกหดหู่ เพราะมีการด้อยค่าภาคส่วนต่างๆ รวมถึงนักการเมืองด้วยกัน ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐมีทั้งคนดีและไม่ดี ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อ 4 พ.ค. เป็นจุดเริ่มต้นช่วยแก้ไข สะสางปัญหา เรื่องของไม่เข้าใจกัน ช่องว่างที่มีระหว่างกัน สำหรับประเด็นที่ยกมาอภิปรายเรื่องทหาร ตนยืนยันว่าภายใต้การนำของตนจะใช้คำว่าพัฒนากองทัพ เชื่อว่าความหมายใกล้เคียงกัน ผลลัพท์แตกต่างกันบ้างตามกาลที่เปลี่ยนไป และขีดจำกัดในการทำงานและผลลัพท์ที่ออกมาให้เห็นสังคมเดินหน้าลดความขัดแย้ง
“สำหรับวาทกรรมที่ด้อยค่าในสภา ที่พูดไป เห็นหน้ายิ้ม หัวเราะเยาะกับตัวอย่าง อาจจะจริงหรือต้องการพิสูจน์ทราบ ผมเข้าใจวิธีการนำเสนอ อย่างไรก็ดีขณะนี้เป็นบรรยากาศทำงานร่วมกัน การเจรจาพัฒนาสถาบันทหารที่ควบคู่กับการมีชีวิตที่ดีขึ้นกับประชาชน จะลำบากขึ้น ผมฐานะผู้นำรัฐบาลเป็นห่วงจริงๆ แต่ผมบังคับในวาทกรรมด้อยค่าไม่ได้ แต่การพัฒนากองทัพต้องให้เกียรติกองทัพและภาคการเมืองที่จะมีเวลาทำงานร่วมกัน” นายเศรษฐา ชี้แจง
นายเศรษฐา ชี้แจงด้วยว่าสำหรับนโยบาย เกณฑ์ทหารสมัครใจ จะค่อยๆ ลดหลั่น แต่หลักการคือประชาชนชายไทยมีสิทธิเลือกประกอบอาชีพอย่างสมศักดิ์ศรี โดยธำรงไว้ความมั่นคงของสถาบันทหาร เมื่อต้องการการปกป้องอธิปไตยของสังคมไทย ทั้งนี้จากการพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพเบื้องต้นแม้ยังไม่ได้เข้าไปบริหาร แต่คุยแบบผู้ใหญ่ที่อยกาเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ทหารพร้อมดูแลประชาชนในวิกฤตและภัยพิบัติต่างๆ ขณะที่การลดขั้นตอนดูแลจัดซื้ออาวุธ พูดคุยกันว่าเท่าที่จำเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจเปราะบาง และรัฐบาลต้องการงบจัดสรรไปสู่ภาคสส่วนอื่นที่จำเป็นมากกกว่า
“ดังนั้น ขอเวลาหน่อยวันนี้เพิ่งเข้ามา โตๆ กันแล้วเป็นผู้ใหญ่เข้าใจ ตระหนักดี” นายเศรษฐา ชี้แจง ซึ่งเมื่อชี้แจงถึงช่วงดังกล่าว นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วง ว่า “ขอนายกฯ อย่าใช้ข้อความเสียดสีกัน หากรู้สึกว่าตนเองถูกเสียดสี สิ่งแรกที่ทำคือ อย่าเสียดสีพวกเรา” ทำให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา วินิจฉัยให้นายกฯชี้แจงต่อไป
นายเศรษฐา ยังชี้แจงถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำที่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ ว่า สัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปยูเอ็นจีเอ ที่นิวยอร์ก ให้ กระทรวงการต่างประเทศ นัดประธานาธิบดีเยอรมัน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง เพื่อพยายามเจรจาให้ปัญหาดังกล่าวจบลง
“ผมยืนยันว่า ประเทศเราต้องการความสามัคคีเห็นหัวใจซึ่งกันและกัน มีคนดีไม่ดี แต่ปัญหาต้องแก้ไขแบบบูรณาการ พูดจาด้วยความเข้าใจ มีเป้าหมายและไทม์ไลน์ที่ชัดเจน เมื่อบริหารจัดการแล้วจะแถลงร่วมกันระหว่างทหารและรัฐบาล ส่วนการทุจริตที่สงสัย เมื่อมีหลักฐานจะตรวจสอบและนำเสนอต่อไป” นายเศรษฐา ชี้แจง
ต่อมา เมื่อเวลา 00.25 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวาระแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า ตน ขอบคุณทุกความเห็นและข้อแนะนำ คำติชม และทุกคำดูถูก ที่รับฟัง 2 วัน ประเทศไทยประสบปัญหายาวนานว่า ทั้งนี้มีการเปรียบเทียบรัฐบาลของตนกับรัฐบาลที่ผ่านมา ตนขอเรียนว่ายุคของตนเพิ่งเริ่มไปวานนี้ (11 ก.ย.) ถือเป็นมือใหม่ แต่ตนตั้งใจและทะเยอทะยานพร้อมรับฟังความเเห็นสมาชิกชิกรัฐสภา ที่เป็นเป็นตัวแทนประชาชน แบกความหวังการทำหน้าที่ขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้น อะไรที่คิดว่าดีต่อประชาน ช่วยเสนอ ตนพร้อมรับฟังฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ยอมรับว่าข้อเสนอที่ผ่านมาเป็นประโยชน์ต่อทำงาน แต่งเติมนโยบายในอนาคตหลายอย่างรัฐบาลรับไปพิจารณา
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ในวาระการแถลงนโยบาย ช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจว่าจะทำ และมีภาพหวัง ผลลัพท์บริหารประเทศภายใต้รัฐบาลนี้ นโยบายทั้งหมดถูกรวบรวมโดยพรรคร่วมที่หาเสียงไว้กับประชาชน ทุกพรรคตั้งใจจริงใจ ร่วมกันบริหารให้ประเทศฝ่าวิกฤตการเมือง แก้ปัญหาเร่งด่วนที่มีเพื่อนำประเทศเดินไปข้างหน้า ตามที่ให้ความเห็นว่าอยากให้มีรายละเอียดเพิ่มเติมลงลึกและตัวเลข ตัวชี้วัดอื่นๆ ระยะเวลา ไทม์ไลน์ ไม่ต้องห่วงมีแน่นอน รัฐบาลจะทำรายละเอียดให้ครบถ้วน บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการของแต่ละกระทรวง พร้อมกับผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ขณะที่งบประมาณให้ความสำคัญสำหรับทุกนโยบายอย่างระวัดไม่กระทบต่อสสัดส่วนหนี้สินสาธารณะ ที่มีอยู่ 63% ให้สูงไปอีกโดยไม่มีเหตุอันควร
“ผม และ ครม. ล้วนเพิ่งเข้ามารับหน้าที่ใหม่ คุ้นเคยหน้าตากัน ขอเวลามีแผนให้ดูแน่นอน ขอให้ 4 ปี ต่อจากนี้เป็นปีที่ทำงานหนัก ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ คุ้มภาษี เป้าหมายความสำเร็จของนโยบายของรัฐบาลจะพิสูจน์จากการเติบโตของประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่างๆ ผมขอเชิญชวนรัฐสภา และประชาชนติดตามการทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดที่มอบความไว้วางใจให้พวกเรา ขอบคุณครับ” นายเศรษฐา กล่าว
จากนั้นได้ปิดประชุมเวลา 00.31 น. ท่ามกลางเสียงปรบมือของสมาชิกรัฐสภา
ต่อมา เวลา 00.33 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงภาพรวมการแถลงนโยบายว่า บรรยากาศทั้งรัฐสภาก็เป็นไปได้ด้วยดี ไม่เห็นมีอะไร และก็ได้รับข้อแนะนำหลายอย่าง
ซึ่งตนได้พูดในสิ่งที่พูดและอยากจะพูด แถลงในสิ่งที่อยากจะทำ และคิดว่าสิ่งที่พูดและทำไปจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน
ส่วนที่การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย มองว่าจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ มั่นใจว่าคงพูดคุยกันรู้เรื่อง เราก็รับฟัง เพราะเรามาจากประชาชน หากท่านเดือดร้อนเราก็รับฟังกัน เจ้าหน้าที่ก็บริหารจัดการด้วยความปลอดภัยดี
ส่วนยกแรกมองว่า สอบผ่านหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่ายังไม่ได้เริ่มเรียนเลย ยังไม่ได้สอบหรอก พร้อมยืนยันว่า พรุ่งนี้จะมีการบรรจุญัตติร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก ตามรายละเอียด ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อภิปราย
ทั้งนี้ อยากทิ้งท้ายอะไรบอกกับประชาชนคนไทยในค่ำคืนนี้หรือไม่ นายเศรษฐา ยอมรับว่า เป็นห่วงประเทศ เพราะทราบว่ามีปัญหาเยอะ จึงเป็นภาระของรัฐบาลเรา ที่มาโดยประชาชน ฉะนั้น ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะตั้งใจดูแลพี่น้องประชาชน ทำงานอย่างลืมเหน็ดเหนื่อย และปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้วยความสุจริต มีความมุ่งมั่น รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงคำนึงถึงปากท้อง สิทธิมนุษยชน และความไม่เสมอภาคเท่าเทียม ย้ำว่า เราและคณะรัฐมนตรีชุดนี้ตระหนักดีถึงปัญหาที่เผชิญอยู่ ทั้งสังคมและเศรษฐกิจ
จากนั้น ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะขึ้นรถได้พบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมระบุว่า “แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะครับ”