กว่า 500 คอมเมนต์ใต้โพสต์ของ “หยก” ที่เจ้าตัวยืนยันจะสู้กับโรงเรียนต่อ พบมีทั้งให้กำลังใจ เห็นใจ และตำหนิติเตียนหวังจะได้รับบทเรียนในชีวิต
จากกรณี หยก เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิเข้าเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โดยเมื่อเช้าวันที่ 31 ส.ค. หยกไปยังโรงเรียนเพื่อไปค่ายเรียนภาษาจีนที่จังหวัดนครปฐม แต่ครูไม่ให้ไปเพราะไม่ได้เป็นนักเรียน และคืนค่าเทอมไปแล้ว ต่อมาเพื่อนนักเรียนจึงช่วยกันอุ้มตัวหยกลงมา หยกนั่งขวางรถบัส เพื่อนนักเรียนจึงอุ้มออกไปอีกครั้ง รถบัสเปลี่ยนเส้นทางไปออกด้านหลัง หยกจึงนอนขวางล้อรถ เกิดการชุลมุน สุดท้ายถอยเข้าโรงเรียนแล้วออกประตูหน้าแทน
จากนั้น “หยก” ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายโทษ ม.112 เหมือนเดิม เผย รู้อยู่ว่ามีคนสะใจ สมควรแล้ว แต่ยืนยันจะเคลื่อนไหวทางนี้ รู้ตัวว่าจะโตไม่เหมือนเด็กคนอื่น อยากรู้ว่าโรงเรียนมีครูแบบไหน อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโพสต์ของหยก ส่วนใหญ่อยากให้หยกออกห่างจากบุ้ง และกลับมาใช้ชีวิตตามที่เด็กวัยนี้ควรจะเป็น
“มีคำหนึ่งบนรถที่เพื่อนบอกว่า "หยกแกคิดว่าพวกนั้นคือเบสต์เฟรนด์ของแกจริงๆ เหรอหยก แกอยากเป็นแค่คอนเทนต์ของพวกเขาจริงๆ เหรอ" ทุกคนรู้ หยกไม่รู้
หยกรุ่นเดียวกับลูกสาวน้าเลย เด็กอายุแค่นี้มันคาบเกี่ยวระหว่างวัยเด็กกับผู้ใหญ่ ขอให้น้องมีสติในการใช้ชีวิตให้ดี ชีวิตมีอะไรให้เจอความสุขอีกตั้งเยอะ”
“พูดไว้ตรงนี้ให้หนูฟัง... หนูไม่มีทางสำเร็จได้ตามอุดมการณ์ของหนูด้วยวิธีนี้ แต่คนที่สำเร็จก็คือบุ้งผู้ที่จุงหนูอยู่ตอนนี้... คิดดูให้ดี... แต่.. หนูคงคิดเองไม่เป็นหรอกเพราะมีบุ้งคิดให้อยู่ตลอดเวลา... ก็แค่เป็นห่วงนะ”
“หนูจะไม่โดดเดี่ยวแน่นอนถ้าหนูยังมีคนดูแลดี แต่เมื่อไหร่ที่หนูไม่มีคนดูแลแล้ว ต้องดูแลตัวเอง เมื่อนั้น…หนูอาจจะคิดได้ไม่มากก็น้อย ขอให้โชคดีกับเส้นทางที่เลือกนะหนู”
“สิ่งที่น่ากลัวคือ คิดว่าถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูก จะเห็นได้จากผลของการกระทำ ได้ยินเสียงเพื่อนๆ ร้อง โอยยย… มันคือที่สุดแล้ว แบบไม่รู้จะสรรหาคำพูดใด”
“ในฐานะที่เป็นแม่คนหนึ่ง อยากบอกหนูเหลือเกินลูกว่า บนสังเวียนของการต่อสู้ ต้องมีผู้แพ้ ผู้ชนะ หนูรู้อยู่แล้วว่าตนอยู่ฝ่ายไหน แต่ถ้าหนูไม่ลงสังเวียนเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ ยึดเอามานะและความคิดในวันนี้เป็นพลังกลับไปศึกษาหาความรู้เป็นเด็กดีที่น่ารักเชื่อฟังคุณแม่เหมือนที่ผ่านมา แม่เชื่อว่าหนูยังจะได้รับโอกาสจากสังคม และหนูจะภูมิใจในตัวเองมากกว่าในตอนนี้แน่นอน ด้วยความเป็นห่วงอนาคตของหนูค่ะ”
“น้องโดนกล่อมทำให้หลงคิดว่าตนเองกำลังสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะความจริงคือ จะไม่มีประวัติศาสตร์อะไรสำหรับหนูและโรงเรียนเลย
เพราะหนูเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่หลงผิดโดนหลอกมาเหมือนคนอื่นๆ และยุคสมัยนี้ข่าวสารเร่งด่วนคนหิวแสงมากมายมันทำให้มีเรื่องอื่นๆ ชวนติดตามมากมาย ส่วนอนาคตหนูถ้ายังทำแบบนี้อยู่ก็คงมืดมน ไม่สนุก ไม่มีชีวิตวัยรุ่นที่ดีพอและควรเป็นเหมือนคนอื่น หนูไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอกครับ เพียงแต่สิ่งที่หนูทำมันทำให้หนูมีแสงในมุมอับเท่านั้น”
“พักผ่อนเยอะๆ โลกใบนี้มันกว้างนะครับ”
“สิ่งที่น่ากลัวคือโลกจะสลักความน่าขยะแขยงนี้ไปตราบนานเท่านาน เลิกเสียก่อนจะสายและจบอนาคตในคุก”
“ทำให้ทุกคนเห็นถึงความตรงต่อเวลาด้วยค่ะ สิทธิก็ส่วนหนึ่ง นั่นพยายามมองข้าม แต่ที่เอะใจคือ เพราะอะไรถึงอยากเข้าร.ร.ตอนไหนก็เข้า อยากออกตอนไหนก็ออก? แล้วบอกว่าอยากเรียน”
“เลิกคบบุ้งดูครับ พี่เชื่อชีวิตจะดีขึ้น”
“หนูลองเปลี่ยนวิธีสู้ดูมั้ยครับ รวมถึงบุ้งด้วย มันอาจจะมีวิธีอื่นที่มันดีกว่านี้นะ”
“เมื่อน้องโตขึ้น และหันกลับมามองวิธีการที่น้องกระทำในวันนี้ น้องอาจจะเปลี่ยนมุมมองก็ได้นะคะ เราไม่ผิดที่อยากเรียกร้องสิทธิบางอย่าง แต่วิธีการในการเรียกร้องควรเหมาะสมมากกว่านี้ และสุดท้ายไม่ว่าเราจะเป็นยังไง ไม่ว่าสังคมจะมองเรายังไง อยากให้น้องรู้ว่าพ่อกับแม่รักเราเสมอ”
“ถ้าหนูได้อ่านคอมเมนต์ต่างๆ ทั้งหมดจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้โดยที่ไม่ได้ตอบใดๆเลย พี่นับถือนะอายุแค่นี้รับแรงเสียดสีด่าทอต่างๆ ได้ขนาดนี้ แต่ถ้าเลือกเดินเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางนี้ มันมีราคาที่ต้องจ่ายแพงมาก ถ้าหนูตัดสินใจเลือกแล้ว คงไม่มีใครห้ามหนูได้แล้วล่ะ จะทำอะไรคิดไตร่ตรองให้ดี ขอให้ "เวลา" อยู่ข้างๆ นะ โชคดี”
“เข้าใจความคิดของหยกนะลูก แต่ในโลกนี้ไม่ใช่ว่าเราดีแล้วคนอื่นจะเลวไปทั้งหมด .. การอยู่ร่วมกันมันจะเกิดความสงบสุขได้ด้วยการหาจุดกึ่งกลาง ...น้าเชื่อว่าทุกฝ่ายพยายามรอมชอมกับหนูอยู่นะคะ ขอให้หนูค้นพบวิธีที่ลงตัวกับทุกฝ่ายได้ในเร็ววันนะจ๊ะ”
ชมโพสต์