xs
xsm
sm
md
lg

หวานกว่าน้ำผึ้งเดือนห้า ก็รักหลังรบของ "ทนายตั้มกับยงยุทธ" นี่แหละ **แค้นนี้ “ถวิล” ขอชำระ เพื่อไทยสวมบทนายใหญ่ข้าใครอย่าแตะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**หวานกว่าน้ำผึ้งเดือนห้า ก็รักหลังรบของ "ทนายตั้มกับยงยุทธ" นี่แหละ

ขึ้นชื่อว่าเป็นคดีความกันต่อกันย่อมประดาบก็เลือดเดือด เหมือนอยู่ในสมรภูมิรบ ไม่ใช่เราสิ้น ก็เป็นท่านตาย

แต่บทจะจบก็จบแบบหักมุม กลายเป็นความรักหลังการรบชนิดที่คนดูเห็นภาพที่ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความคนดัง โพสต์เมื่อวานนี้ (12ก.ย.) ก็ต้องบอกว่า หวานอะไรปานนั้น

“ทนายตั้ม” ได้โพสต์ภาพและข้อความเป็นภาพตัวเขาเองถูก "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี หอมที่แก้มฟอดใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า...

“วันก่อน ท่านยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้โทรมาหาผมด้วยตัวเอง ท่านได้เชิญผมไปที่บ้าน เนื่องจากท่านอายุมากแล้ว ได้มีการเคลียร์ใจกัน ผมก็ขอโทษท่านยงยุทธ ที่เคยล่วงเกิน ท่านก็มีเมตตาไม่ถือสา เพราะรู้ว่าผมทำหน้าที่ทนายความตามวิชาชีพ ในส่วนของคดี ก็ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของลูกความ ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีการถอนฟ้องกันแต่อย่างใด”

“ทนายตั้ม” ยังระบุด้วยว่า “ท่านยงยุทธฝากมาบอกว่า แก๊งที่ชอบไปขอเงินเค้าน่ะ อ้างว่าโดนฟ้องเยอะ ไม่ต้องเข้าไปแล้วนะ ดีกับตั้มแล้ว”

ยงยุทธ วิชัยดิษฐ - ษิทรา เบี้ยบังเกิด
งานนี้ มีความเป็นมาจากคดีที่เคยเกิดขึ้น เป็นข่าวคาวอื้อฉาว เมื่อ “ทนายตั้ม” ได้เปิดเผยเรื่องราวของลูกความรายหนึ่ง มาขอคำปรึกษาหลังเจอภาพบาดตาบาดใจเรตX ภรรยาของตัวเองกับชายสูงวัย รวมทั้งมีแชตไลน์ แสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง

ตอนนั้นบอกใบ้เอาไว้ว่า ชายชู้เคยมีตำแหน่งเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี!!

กระทั่งก่อมรสุมดรามาในโลกโซเชียลฯ บรรดานักสืบขาเผือกทั้งหลายพากันชี้เป้าไปที่ “ยงยุทธ” ทำให้อดีตรองนายกต้องออกมาตอบโต้เป็นพัลวัน

แม้ “ยงยุทธ” จะปฏิเสธ แต่ต่อมาได้เข้าแจ้งความต่อ สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีหญิงที่คบหา รวมทั้งสามีฝ่ายหญิง และพ่อ แม่ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยระบุว่าฝ่ายหญิงหลอกว่ายังไม่ได้แต่งงาน จึงไปสู่ขอและมอบทรัพย์สินรวมเกือบ 20 ล้านบาท

ยงยุทธหอมแก้มทนายตั้ม
ขณะที่ “ทนายตั้ม” พาอีกฝ่ายเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีกับ “ยงยุทธ” ในข้อหาแจ้งความเท็จ

ภายหลังพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่ “ยงยุทธ” ฟ้องหญิงที่คบหา รวมทั้งสามีฝ่ายหญิง และพ่อแม่ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงดังกล่าว

เรียกว่าทั้งสองฝ่ายฟ้องกันไป ฟ้องกันมา เมื่อปรากฏภาพหวานชื่นเลิฟๆ ของ “ทนายตั้มกับยงยุทธ” แบบนี้ออกไป ก็ไม่รู้ว่า คดีที่ยังพิพาทกันอยู่จะเป็นอย่างไรต่อไป อันนี้ต้องติดตามกันเองนะจ๊ะ

**แค้นนี้ “ถวิล” ขอชำระ เพื่อไทยสวมบทนายใหญ่ข้าใครอย่าแตะ

ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นวันที่สอง “ถวิล เปลี่ยนศรี” อดีตเลขาฯสมช.ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้อภิปรายเรื่องกระบวนการยุติธรรม และความยุติธรรมในสังคม ว่า เรื่องนี้ปรากฏข้อความสั้นๆ เพียง 2-3 บรรทัด ในนโยบายที่รัฐบาลแถลงเท่านั้น

ถวิล เปลี่ยนศรี - ไชยวัฒนา ติณรัตน์
“ถวิล” แสดงความเป็นห่วงในเรื่องการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาเรื่องนี้อยู่ที่การปฏิบัติ เพราะตามที่ปรากฏและเป็นอยู่ในทุกวันนี้ พูดได้ว่ามีความเหลื่อมล้ำกันมาก หากไม่มีความเสมอภาคในเรื่องนี้ ย่อมเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจ และบาดลึกคนในสังคมอย่างรุนแรง และเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้

“...บางคนถึงขนาดยอมตาย ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไม่หยุดหย่อน เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ผู้มีอิทธิพล อดีตนักการเมือง หมายจับต่างๆ ออกไม่ทัน คดีหมดอายุความก่อนที่จะออกหมายจับให้เห็นบ่อยๆ เมื่อต้องคดีก็ไม่มีใครยอมติดคุก หรือติดคุกก็มีอภิสิทธิ์ ได้รับการยกเว้น เกื้อกูลต่างๆ มากมาย แบบลดแลกแจกแถม ลูกคนรวยระดับโลก ระดับชาติ ขับรถชนคน ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย บางคนเดินทางมาถึง เข้าเรือนจำกลาง และอยู่ในนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้รับอนุญาตให้ไปพักรักษาตัวที่ห้องพิเศษ...”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครคือ “เทวดา” ที่ได้รับอภิสิทธิ์ ตามที่ “ถวิล” กล่าวถึง

เมื่อ“ถวิล”อภิปรายมาถึงตรงนี้ “ไชยวัฒนา ติณรัตน์” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ก็ลุกประท้วงต่อประธานในที่ประชุมทันที ว่า เป็นการอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ขอให้ยกคำอภิปรายออก “ประธานวันนอร์” จึงให้ “ถวิล” ลดคำพูดดังกล่าว ซึ่ง “ถวิล” กล่าวต่อว่า เคารพท่านประธาน เพียงแต่ยกตัวอย่าง และเป็นตัวอย่างที่คนรู้กันทั้งประเทศ!!

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ - พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล
“ถวิล” อภิปรายต่อว่า ไม่อยากเห็นเรื่องนี้ เป็นเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียว อย่าเหยียบย่ำหัวใจ อย่าเหยียบย่ำความรู้สึกของคนทั้งประเทศ จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ และกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างไม่คาดคิด...

เสร็จจากเรื่องความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม “ถวิล” อภิปรายต่อในเรื่องความไม่เป็นธรรมในการโยกย้ายข้าราชการ

โดยยกตัวอย่าง ตำแหน่งเลขาฯสมช. ที่จะว่างลงเร็วๆ นี้ ก็มีข่าวสะพัดว่า นายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่ง จะมานั่งในตำแหน่งนี้ ซึ่งนายกฯก็บอกว่าไม่ได้ยินข่าวนี้ และยืนยันว่าต้องวางคนให้เหมาะกับความรู้ความสามารถ มิฉะนั้นขวัญ และกำลังใจของข้าราชการจะเสียหมด

ข่าวลือสะพัดที่ “ถวิล” กล่าวถึงก็คือ กรณี “พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์” รอง ผบ.ตร. ซึ่งอาวุโสสูงสุด และกำลังลุ้นจะขึ้นไปนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. โดยจะเกษียณอายุราชการในปี 2567 แต่ตอนนี้หมดโอกาสลุ้นแล้ว เพราะจะได้รับการอนุมัติโอนย้ายไปเป็น เลขาฯสมช. แทน“พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม” ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ส่งผลให้ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” รอง ผบ.ตร. ที่เหลืออายุราชการปีเดียวเช่นกัน เข้าเงื่อนไขเหมาะสม ได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 14 ทันที

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็นการแก้ปัญหาเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยใช้เก้าอี้เลขาฯสมช.เป็น “ที่พักใจ” คล้ายในยุคที่ “ถวิล เปลี่ยนศรี” เป็นเลขาฯสมช. แล้วถูกย้ายไปนั่งตบยุงในทำเนียบฯ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ

เหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2554 ในรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มีคำสั่งย้าย “ถวิล” จากเลขาฯสมช. ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ แล้วแต่งตั้ง “พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” ข้ามห้วยมานั่งเลขาฯสมช.แทน เพื่อเปิดทางให้ “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” พี่ชายแท้ๆ ของ “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาของ“ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

“ถวิล” ได้นำเรื่องถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมไปร้องต่อ ป.ป.ช. ซึ่งหลายปีต่อมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ และให้คืนตำแหน่งเลขาฯสมช.ให้ “ถวิล” พร้อมส่งหลักฐานให้อัยการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

การอภิปรายนโยบายของ “รัฐบาลเศรษฐา” ในครั้งนี้ จึงนับได้ว่าเป็นโอกาสที่ “ถวิล เปลี่ยนศรี” ได้ “ถอนแค้น” ที่เคยถูกคนในตระกูลชินวัตร กระทำ ย่ำยี ในอดีต


กำลังโหลดความคิดเห็น