xs
xsm
sm
md
lg

อดีตรองผู้ว่าฯ กระบี่ ชี้ เหตุคนเลวเหิมเกริม เพราะผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายลดตัวเป็นทาสรับใช้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 นายสมโภช โชติชูช่วง (แฟ้มภาพ)
อดีตรองผู้ว่าฯ กระบี่ ยกเหตุลูกน้องกำนันนก ยิงสารวัตรทางหลวง ตายในบ้าน เป็นกรณีตัวอย่าง คนเลว 5 ประเภทจะทำอะไรไม่ได้เลย หากผู้มีหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งข้าราชการฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล ไม่ไปคบค้าสมาคม หรือลดตัวเองเป็นทาสรับใช้ หวัง สตช.เอาผิดอย่างจริงจัง ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และถึงเวลาต้องปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม

จากกรณีลูกน้องกำนันชื่อดังจังหวัดนครปฐม ใช้ปืนยิงนายตำรวจระดับสารวัตรสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวง เสียชีวิตในบ้านของกำนันระหว่างงานเลี้ยง และหลังจากนั้น ตำรวจในงานบางคนได้ช่วยเหลือมือปืนและกำนันหลบหนี รวมทั้งพยายามทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุนั้น 

นายสมโภช โชติชูช่วง อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว  ว่า ในฐานะคนที่เคยรับราชการ ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย การอำนวยความเป็นธรรม การปราบปรามโจรผู้ร้าย ผู้มีอิทธิพลอำนาจมืด นักค้ายาเสพติด คนทำธุรกิจกิจสีเทา ตั้งแต่เริ่มเป็นปลัดอำเภอ นายอำเภอ ปลัดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อกรณีคดีลูกน้องกำนัน ใช้อาวุธปืนยืงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสารวัตรถึงแก่ความตาย รอง ผกก.บาดเจ็บ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ผกก.สัญญาบัตร ลงมาจนถึงชั้นประทวน อีก 20 กว่านาย แล้วคนร้ายหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยไม่มีตำรวจรายใดจับกุม, สกัด ขัดขวางการหลบหนี ตามอำนาจหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา รวมไปถึงความอ่อนด้อยแห่งจิตวิญญาณตำรวจ ที่เมื่อเกิดเหตุแล้ว ไม่แบ่งมอบหน้าที่กันทำ ไม่ว่าจะเป็นการระงับเหตุ สกัดจับกุม ขัดขวางมิให้มีการกระทำความผิด รวมไปถึงการควบคุมพื้นที่ ตรวจเก็บพยานหลักฐาน จนถึงขั้นปล่อยให้มีการทำลายพยานหลักฐานทางคดี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นโดยผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ไทย

คนทำผิดกฎหมาย ทำธุรกิจสีเทา สีดำ รวมไปถึงผู้มีอิทธิพลอำนาจมืด จะกระทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ หากผู้ที่มีหน้าที่ในการป้องกันปราบปราม รวมไปถึงผู้บังคับใช้กฎหมาย ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม ไม่เพิกเฉย ปล่อยปละละเลย หรือหนักไปถึงขั้น อำนวยความสะดวก สนับสนุนช่วยเหลือ ร่วมดำเนินการ มีผลประโยชน์จากการกระทำข้างต้น

“ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ที่ผมได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งต่างๆ ผมจะมีป้ายประกาศปิดไว้ที่หน้าบ้านพักผมโดยมีข้อความว่า “ยินดีต้อนรับทุกท่าน ยกเว้น 1. ข้าราชการขี้โกง นักการเมืองขี้ฉ้อ 2. ผู้มีอิทธิพลอำนาจมืด 3. นักค้ายาเสพติด 4. ผู้เปิดบ่อนการพนันที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย 5. คนทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“ซึ่งมักจะมีคนถามเสมอว่า ทำไมต้องปิดป้ายประกาศอย่างนี้ แล้วใครจะเข้ามาบ้านผม ผมก็ตอบไปว่า “คนไทยที่ดีๆ ไม่ใช่คนเลวทั้ง 5 ประเภทนี้ มีเยอะมาก ผมจะต้อนรับเขาทุกคนยกเว้นคนชั่ว 5 ประเภทนี้”

พระพุทธเจ้ายังมีคำสอนว่า “อเสวนา จ พาลานํ ปณฺฑิตานญฺ จ เสวนา ปูชา จ ปูชนียาณํ” แปลเป็นไทยว่า อย่าคบคนพาล ให้คบบัณฑิต ให้บูชาคนที่ควรบูชา พุทธภาษิตบทหนึ่งก็ได้สอนไว้ว่า “ปคฺคณฺเห ปคฺค หรหํ นิคฺคณฺเห นิคฺค หรหํ” แปลเป็นไทยว่า จงยกย่องคนที่ควรยกย่อง จงข่มคนที่ควรข่ม

ที่สำคัญ คนพวกนี้จะทำอะไรไม่ได้เลยหากผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายไม่ให้เกียรติไปคบค้าสมาคมกับมัน รวมไปจนถึงลดค่าตัวเอง เป็นทาสรับใช้มัน โดยเฉพาะข้าราชการฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล เพราะถ้าทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ถูกตรงแล้ว คนเลวพวกนี้จะทำความผิดไม่ได้ แต่ถ้าข้าราชการข้างต้น ไปคบหากับมัน หนักไปจนถึงลดตัวเป็นขี้ข้ารับใช้มัน คนเลวทั้ง 5 กลุ่มนี้ จะเหิมเกริมทำผิดกฎหมาย กดขี่ข่มเหงพลเมืองดีให้เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ที่สำคัญ หากข้าราชการระดับบังคับบัญชากลุ่มดังกล่าวไปคบหา หรือลดค่าตัวเองเป็นทาสรับใช้มัน จะมีผู้ใต้บังคับบัญชาคนไหน กล้าที่จะขัดขวาง รวมไปถึงจับกุมคนเลวทั้ง 5 กลุ่มนี้

กรณีเหตุที่นครปฐม จึงเป็นอุทาหรณ์ เป็นบทเรียนให้บรรดาข้าราชการทั้งหลายได้พึงสังวรไว้ว่า ต้องดำรงตนอยู่ในฐานะเกียรติและศักดิ์ศรีให้ถูกต้อง เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ มิฉะนั้น ก็จะต้องรับเวรรับกรรมจาการกระทำของตนเอง เหมือนกับตำรวจทั้ง 20 กว่าคนดังกล่าวข้างต้น เสื่อมทั้งเกียรติยศ เกียรติภูมิ และศักดิ์ศรี ให้อับอายไปทั้งวงศ์ตระกูลชั่วลูกชั่วหลาน

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ปล่อยให้เรื่องดังกล่าว เป็นจุดด่างพร้อยของหน่วยงาน จะต้องใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังและเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นตัวการ ผู้สนับสนุน ใช้ จ้างวาน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 20 กว่านายที่อยู่ในข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีในสังคมต่อไป

#ถึงเวลาปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมแล้วหรือยัง#
#อย่าให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาตำรวจไปมากกว่านี้#


กำลังโหลดความคิดเห็น