กองปราบฝากขัง อดีต “กำนันนก” ผู้ต้องหาคดีสั่ง “หน่อง ท่าผา” ยิงสารวัตรทางหลวงดับ ชี้ ทำตัวเป็นผู้อิทธิพล หลังเกิดเหตุยังทำลายหลักฐาน ด้านทนายความไม่ยื่นประกัน ระบุอดีตกำนันนก สั่งไม่ให้ยื่นประกัน คาดกลัวไม่ปลอดภัยนอกเรือนจำ
เมื่อเวลา 09.00 วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สุชาติ อิ่มสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำตัว นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ อดีตกำนันนก ผู้กว้างขวางย่าน จ.นครปฐม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา กระทำความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น มาฝากขังเป็นครั้งแรก
โดยพนักงานสอบสวนสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 5 ก.ย. 66 พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรสิว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำแหน่ง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.กก.5 ทล.บก.ทล.) ผู้ตาย และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก. 6 บก.ทล. ผู้บาดเจ็บ กับพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย ได้รับเชิญจาก นายประวีณ ผู้ต้องหาให้ไปร่วมรับประทานอาหารที่ บริเวณหน้า บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 2 ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. ผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับผู้ตาย จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้ให้ นายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิท ใช้อาวุธปืนพกสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จ่อยิงผู้ตาย หลายนัด ที่บริเวณลำตัวด้านขวาได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ส่วน พ.ต.ท.วศิน ที่นั่งอยู่ข้างผู้ตายขณะเกิดเหตุ กระสุนปืนพลาดไปถูกที่บริเวณแขนข้างขวา จำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ผู้ต้องหา และ นายธนัญชัย หรือ หน่อง ได้หลบหนีออกจากบริเวณที่เกิดเหตุไป ต่อมาวันที่ 7 ก.ย. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่น “คำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดนครปฐม และศาลอนุมัติหมายจับตามขอ ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.427/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย. 2566 ในวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 84
ชั้นสอบสวนและจับกุมผู้ต้องหา ผู้ต้องหาปฏิเสธข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก 30 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาอื่นๆ ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว จึงขอหมายขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน มีกำหนด12 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-20 ก.ย.
ท้ายคำร้องหากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นกำนัน ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม มานานประมาณ 9 ปี ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปกครองมีอำนาจหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดและมีอำนาจสืบสวนเฉพาะในเขตพื้นที่ของตน แต่กลับกระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพลมีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่ สามารถโน้มน้าวชักชวนให้ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และระดับต่างๆ รวมถึงข้าราชการอื่นมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ในโอกาสต่างๆ เพื่อเสริมสร้างบารมีของตน ซึ่งบางนายอยู่ในที่เกิดเหตุและ เห็นเหตุการณ์ อีกทั้งสนิทสนมกับนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติ มีการใช้อำนาจบารมีขอให้ผู้ตายย้ายข้าราชการ ตำรวจที่ตนรู้จัก เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง จึงมีพฤติกรรมอุกอาจใช้ให้ผู้อื่นยิงผู้ตายซึ่งเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต่อหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหลายนาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ภายหลังเกิดเหตุยังได้มีการสั่งให้ทำลายพยานหลักฐานโดยการล้างคราบเลือด เก็บปลอกกระสุนปืน ถอดเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดและหลบหนีไป ประกอบกับเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึงประหารชีวิต และพนักงานสอบสวนจำต้องทำการสอบสวนสอบพยานที่ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหลายปาก หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่า จะเป็นอุปสรรคหรือเกิดความเสียหายต่อการ สอบสวนผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงหรือข่มขู่พยานหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ด้าน นายเชาว์ แก่นสวาท ทนายความของอดีตกำนันนก เปิดเผยสั้นๆ ว่า วันนี้ไม่มีการยื่นประกันตัว เพราะกำนันนกไม่ประสงค์จะขอประกัน โดยไม่ระบุเหตุผล
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะนำตัว นายประวีณ ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป