รองโจ๊ก สั่งสอบตำรวจในงานเลี้ยง 21 นาย ระดับ ผกก. 4 คน อยู่งานเลี้ยงกำนันนก เล็งฟัน ม.157 ปล่อยมือปืนหลบหนี ซ้ำยังกลบเกลื่อนหลักฐาน เช็ดคราบเลือด ถอดกล้องวงจรปิด ฮึ่มจะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง
วันนี้ (7 ก.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงเสียชีวิต พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในบ้านพัก “กำนันนก” ผู้รับเหมารายใหญ่คนดัง จ.นครปฐม ว่า ได้รับรายงานแล้วกรณี นายประวีณ หรือ กำนันนก ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิต เข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะได้รับการประกันตัว ส่วน นายธนัญชัย หมั่นมาก มือปืนผู้ก่อเหตุ ที่ยังไม่ติดต่อเข้ามอบตัวก็จะต้องติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณใดไปยังผู้ก่อเหตุ แต่ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ระมัดระวังในการเข้าจับกุม เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธหากมีการต่อสู้ขัดขืน ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและอำนาจหน้าที่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จะเดินทางไป สภ.เมืองนครปฐม เพื่อติดตามคดีและตรวจสอบสำนวนการสอบสวนให้มีความรัดกุม เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหารู้จักข้าราชการในพื้นที่จำนวนมาก จึงต้องมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนเพื่อให้สามารถสั่งฟ้องได้ นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบกรณีที่มีตำรวจอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุถึง 21 นาย แต่กลับได้รับรายงานจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ว่า พบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐาน ทั้งการเช็ดคราบเลือด การถอดกล้องวงจรปิด จึงต้องตรวจสอบตำรวจแต่ละคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งในจำนวนนี้ มีตำรวจระดับผู้กำกับการ 3-4 คน อีกทั้งบางคนมีต้นสังกัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่กลับพบไปปรากฏตัวในพื้นที่เกิดเหตุด้วย ยังมี ผกก.สส.จว.นครปฐม ที่เป็นผู้รับผิดชอบงานสืบสวนทั้งจังหวัด จะต้องสอบสวนตำรวจทุกนาย ถึงสาเหตุที่ปล่อยให้มีการทำลายหลักฐาน และปล่อยให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่าง หากพบตำรวจรายใดปล่อยปละละเลย และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการสาเหตุที่มีการรวมกลุ่มของตำรวจทั้งหมด เบื้องต้นพบไปกินเลี้ยงกัน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่ามีเรื่องการวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายด้วยหรือไม่ ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ เข้มงวดกวดขันผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น โดยต้องปิดล้อมตรวจค้นแหล่งมั่วสุม และปราบปรามอาวุธปืน โดยมองว่า หากผู้กำกับ และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง จะไม่มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หากพบก็ต้องถูกดำเนินการทั้งทางปกครองและวินัย