“ทนายเชาว์” จี้ นายกฯ เศรษฐา เปิดความเห็นกฤษฎีกาคุณสมบัติ รมต.ของ “พิชิต ชื่นบาน” เพื่อสร้างบรรทัดฐาน เรียกเสียงชื่นชม เชื่อ น่าจะถูกถอดมากกว่าถอนตัว จากปมคดีถุงขนม 2 ล. ย้ำ เป็นเรื่องที่สังคมต้องรับรู้ ลั่น! ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่แอบกระซิบกันเอง เพื่อหาทางลงหรือรักษาหน้าใคร
วันนี้ (2 ก.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊ค เรื่อง “พิชิต ชื่นบาน ถอนตัว หรือถูกถอด ความจริงที่สังคมควรรู้” มีเนื้อหาระบุว่า เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยประกาศถอนตัวไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า “ตามที่มีกระแส รวมถึงข้อกังขาเรื่องคุณสมบัติของตนในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันว่า คุณสมบัติตนครบถ้วนถูกต้องทุกประการ ไม่ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น แต่เพื่อให้ประเทศชาติ และรัฐบาลเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว เนื่องจากยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ผมจึงขอไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีในครั้งนี้”
นายเชาว์ ระบุว่า ถามทุกคนไม่มืใครเชื่อตามที่นายพิชิตแถลง และเชื่อว่า นี่คือ ทางลงที่ยังซ่อนความจริงอยู่บางประการ เพราะก่อนหน้านายพิชิตแถลงเพียงหนึ่งวัน (31 ส.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัด ครม.เศรษฐา 1 ว่า คาดว่า พรุ่งนี้ (1 ก.ย.) จะสามารถตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่เสนอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้แล้วเสร็จ และหวังว่า จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เลย ส่วนกรณีคุณสมบัติของ นายพิชิต ชื่นบาน ที่ถูกคาดการณ์ว่า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แม้ นายวิษณุ เครืองาม บอกว่า ไม่ขัดคุณสมบัติ แต่อาจมีเรื่องปัญหาจริยธรรมตามมาภายหลัง ที่อาจถูกตรวจสอบหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับว่าที่รัฐมนตรีทุกคน หากไม่ผิดต่อข้อกฎหมาย และตรวจสอบคุณสมบัติผ่านแล้วก็ถือว่าไม่ผิดจริยธรรม และในประเด็นจริยธรรมนี้กำลังขอความเห็นจากสำนักงานกฤษฎีกา ซึ่งน่าจะออกมาในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ย.) จึงเชื่อว่า สาเหตุที่นายพิชิต ประกาศถอนตัวไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะความเห็นของกฤษฎีกาไม่ให้ผ่าน ตามที่นายกฯ เศรษฐา ส่งเรื่องไปขอความเห็น
อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ความเห็นของสำนักงานกฤษฎีกาเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายพิชิตที่ถูกศาลฎีกาลงโทษ จำคุก 6 เดือน ข้อหาละเมิดอำนาจศาล จนถูกสังคมตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ในเรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 160 หรือไม่ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่แอบกระซิบกันเองเพื่อเป็นทางลงรักษาหน้าแก่นายพิชิตและพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเรื่องสาธารณะที่สังคมควรรับรู้ โดยเฉพาะภาคประชาชนที่เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุกต่อมสำนึก ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในการแต่งตั้งนายพิชิต จนกลายเป็นประเด็นร้อน นำไปสู่การขอความเห็นจากสำนักงานกฤษฎีกาในที่สุด
“ผมจึงเรียกร้องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผู้เสนอเรื่องไปขอความเห็นจากสำนักงานกฤษฎีกา ช่วยตอบความจริงกับสังคมเถอะครับ ว่า เรื่องที่ท่านสอบถามความเห็น เกี่ยวกับคุณสมบัติของนายพิชิตว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น สำนักงานกฤษฎีกาให้ความเห็นว่าเช่นไร นอกจากจะได้เป็นบรรทัดฐานแล้ว ท่านยังจะได้รับเสียงชื่นชมในฐานะผู้นำที่ให้ความสำคัญกับหลักจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตในการคัดคนเข้าสู่ตำแหน่งด้วย” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย