“สมชัย” จี้ “เศรษฐา” ใช้โอกาสนั่งนายกฯ คัดคนเป็นรัฐมนตรี ที่ความซื่อสัตย์ประจักษ์ มองกรณี “พิชิต” ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี ตาม รธน.160(7) เหตุเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน
วันนี้ (30 ส.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาท่านหนึ่ง ส่งไลน์มาถึงตนคือกรณีย้อนคดีถุงขนม 2 ล้าน ไม่ใช่สินบน แต่ลงโทษละเมิดอำนาจศาล ทั้งนี้ มีสาระสำคัญ ว่า อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องสินบน กับนายพิชิต ชื่นบาน ทนายความของตระกูลชินวัตร โดยอัยการสูงสุดในเวลานั้น คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ลำดับ 3 ของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากไร้ข้อเท็จจริงและหลักฐาน คือ ของกลางในสำนวน ดังนั้น แม้ศาลฎีกาสั่งจำคุกนายพิชิตและบวกเรื่องละเมิดอำนาจศาล ถือเป็นคนละคดีกับความผิดให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ
“ย้ำ อัยการสูงสุดเวลานั้น คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ปัจจุบันเป็นแคนดิเดตนายกฯ ลำดับ 3 ของพรรคเพื่อไทย” นายสมชัย ระบุ
ทั้งนี้ นายสมชัย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งต่อกรณีดังกล่าว โดยปฏิเสธถึงการสื่อสารข้อความเพื่อเชื่อมโยงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อของนายพิชิต ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และเป็นประเด็นที่สังคมจะนำความเชื่อมโยงและพิจารณาได้เอง ส่วนกรณีของนายพิชิตที่จะเหมาะสมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่านายพิชิตนั้นขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(7) กรณีเป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นเหตุจากอะไร โทษตามคดีอาญาหรือไม่ ดังนั้น เมื่อมีบทพิสูจน์ว่านายพิชิตต้องโทษจำคุกฐานละเมิดอำนาจศาล 6 เดือน จึงถือว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลการตรวจสอบประวัติก่อนทูลเกล้าฯอาจจะถูกละเว้นได้หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น แต่กรณีที่ตนโพสต์ไปนั้น เป็นข้อเท็จจริง แม้ตอนที่นายชัยเกษมเป็นอัยการสูง จะไม่สังกัดพรรคการเมือง แต่ต่อมาพบว่าเข้าสังกัดพรรคการเมืองหนึ่งและได้รับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม และล่าสุดคือ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ประชาชนสามารถพิจารณาได้
เมื่อถามว่า กรณีของนายพิชิตที่มีประวัติต้องโทษจำคุกจะเป็นจุดด่างพร้อยของ ครม.เศรษฐา 1 หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ประชาชนต้องพิจารณาด้วยตนเอง ว่า บุคคลที่มีภูมิหลังและได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีที่ดูแลด้านกฎหมายให้ ครม. นั้นเหมาะสมหรือไม่ หรือจะทำหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเพื่อใช้กฎหมายเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ต้องการด้วยทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องหรือไม่
“นายเศรษฐา ได้รับโอกาสเป็นนายกฯ ดังนั้น ควรใช้โอกาสดังกล่าว ด้วยการคัดสรรบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อเรียกศรัทธาให้กับประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นใจการแก้ปัญหาให้ประชาชน หรือประเทศ ไม่ใช่ทำให้ประชาชนแคลงใจหรือไม่ศรัทธาต่อการทำงานตั้งแต่แรก โดยบุคคลที่จะทำหน้าที่บริหารนั้นควรเป็นบุคคลที่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์” นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีของนายพิชิตมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเข้ามาทำเรื่องเพื่อปลดโทษให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อาจเป็นชนวนขัดแย้งได้หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า เป็นไปได้ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง แต่จะเกิดเหตุปะทะ ชุมนุมรุนแรงหรือไม่ ตนประเมินไม่ได้ แต่ขณะนี้นายเศรษฐา ควรใช้โอกาสหลังได้รับตำแหน่งนายกฯ สร้างและเรียกความเชื่อมั่นกกับประชาชน.
