“ทีมการศึกษาก้าวไกล” กังวลใจ โผ รมต.ศึกษาฯ ได้คนไม่ตรงตามหน้าที่ ชี้ ระบบการศึกษาไทยอยู่ก้นหลุมดำแล้ว เผย เพื่อนครูตัดพ้อ บอกได้คนไม่ใช่แวดวงการศึกษา จะคลำทางแก้ปัญหานาน แนะอย่าฟังแต่ราชการในกระทรวง ย้ำ 3 เดือนแรก ต้องลดงานครู-ปรับแก้หลักสูตรที่ล้าหลัง
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่พรรคก้าวไกล นายปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนการศึกษา กล่าวถึงโผคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีชื่อของ พล.ต.อ.เพิ่มพูล ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรี ว่า ตนมีความกังวลใจ เนื่องจากเห็นโผคณะรัฐมนตรีในกระทรวงศึกษาศึกษาธิการแล้ว ไม่มีคนในแวดวงการศึกษามากำกับดูแล ซึ่งหาก ในฐานะ ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงตั้งใจจะมาปฎิบัติหน้าที่จริง แล้วอยากติดต่อขอความรู้ ทีมการศึกษาพรรคก้าวไกลก็ยินดีให้คำแนะนำ
“NGO สตาร์ตอัปด้านการศึกษา เดี๋ยวนี้มีตั้งหลายหน่วยงาน ก็ยังฝากความหวังไว้กับท่าน หากจะเปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ก็หวังว่าเราจะได้ร่วมกันผลักดันด้านการศึกษาให้ดีขึ้น” นายปารมี กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นไปตามคาดหรือไม่ นายปารมี กล่าวว่า ไม่ค่อยเป็นไปตามคาด เพราะใจหวังว่าอยากได้คนที่มีความรู้พื้นฐานด้านการศึกษา จะได้ปฏิรูประบบได้ทันทีต่อเนื่อง เนื่องจากการศึกษาตอนนี้แย่มาก การที่ได้รัฐมนตรีที่ไม่มีความรู้ด้านนี้ กว่าจะคลำทางใช้เวลานาน
“ระบบการศึกษาบ้านเราเทอะทะมาก และระบบโครงสร้างกระทรวงนี้ก็แปลก หลายท่านน่าจะรู้ว่ากระทรวงนี้มีปลัดกระทรวง 4 คน โครงสร้างภายในก็ยุบยับไปหมด หากจะมาคลำทางกลัวเสียเวลา อยากให้ทำงานรวดเร็วและเข้าใจระบบให้ได้เร็ว” นายปารมี กล่าว
เมื่อถามว่า กระทรวงศึกษาธิการถูกวิจารณ์เยอะว่าตามโผ ได้คนที่ไม่ตรงตามคุณลักษณะ นายปารมี กล่าวว่า ใช่ ตนก็จบครุศาสตร์ ได้พูดคุยกับเพื่อนครูหลายคนก็ท้อกันเลย หลายคนโพสต์เฟซบุ๊กรุนแรง ถ้าจะเอาคนที่ไม่รู้งานมาอยู่กระทรวงนี้ ให้ครูเขาทำกันเองดีกว่าหรือไม่ ซึ่งก็หวังว่ารัฐมนตรีที่จะมาดำรงตำแหน่งคงจะใจกว้างที่จะรับฟัง
“อย่าฟังแต่ข้าราชการผู้ใหญ่ในกระทรวง เปิดใจรับฟังครู นักเรียน ผู้ปกครอง ดิฉันอยากจะให้ความสำคัญกับ 3 ส่วนนี้มาก ฟังให้มากขึ้นแล้วถ้าน่าจะบริหารได้ถูกทิศถูกทาง” นายปารมี กล่าว
เมื่อถามว่า คาดหวังกับการทำงานของรัฐมนตรีอย่างไร นายปารมี กล่าวว่า อย่าหาว่าปรามาส แต่ปรามาสไว้ก่อนก็ดี จะได้ตั้งเป้าหมายในการทำงานให้แอกทีฟมากขึ้น
“นโยบายการศึกษาของพรรคที่ท่านจะมา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดิฉันว่ายังมีน้อยไป ยังไม่เห็นความชัดเจนเป็นรูปธรรม หวังว่าท่านจะรับฟังพรรคอื่นๆด้วย จะได้นำไปปรับใช้ เพราะการศึกษาไทยตอนนี้อยู่ก้นหลุมดำแล้ว ถ้าท่านจริงใจที่จะมาแก้ มาช่วยกัน” นายปารมี กล่าว
เมื่อถามว่า 3 เดือนแรกมีคำแนะนำอย่างไร ในการแก้ปัญหาการศึกษา นายปารมี กล่าวว่า ต้องลดงานเอกสารคืนครูสู่ห้องเรียนให้ได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยฝ่ายบริหาร ปลัดกระทรวงสามารถลงนามได้ ส่วนของนักเรียน อยากให้แก้ที่หลักสูตร ที่ล้าหลัง อยากให้มีการระดมความคิดเห็น มาช่วยกันปรับแก้