วันนี้ (28 ส.ค.)สหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.)สภาอาชีพของเกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ 8จังหวัด ,เครือข่ายเกษตร4ภาคกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศอาทิจังหวัดร้อยเอ็ดจ.มหาสารคามจ.ขอนแก่นอ.สุไกลโก-ลกจ.นราธิวาสจ.เชียงใหม่ อ.บางเลนจ.นครปฐม ตลอดจนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวลำไยกลุ่มผู้ใช้น้ำคูคลอง จังหวัดพะเยาเดินทางมายื่นหนังสือเกี่ยวกับความเดือดร้อนและข้อเสนอแนะสำหรับรัฐบาลชุดใหม่โดยมีนายไผ่ลิกค์สส.กำแพงเพชรและนายอรรถกรศิริลัทธยากรกรรมการบริหารพรรคเป็นตัวแทนเชิญเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวเข้ามาในห้องประชุมเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น
นายอรรถกร กล่าวว่า เราเข้าใจว่าพี่น้องทุกท่านเดินทางมาที่นี่เพื่อที่จะมายื่นหนังสือและแสดงเจตจำนงว่าอยากให้ผู้ใหญ่ของเราทำอะไรบ้างซึ่งพวกเราจะเป็นพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลที่ทำงานแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชนพร้อมฟังเสียงสะท้อนพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องรู้ดีว่าประชาชนต้องการอะไรพวกเราก็เลยขอเปลี่ยนใจเปิดห้องประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐและเชิญพี่ๆมาพูดคุยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากพี่น้องภาคเกษตรกรโดยตรงให้เสียงของพวกเราส่งผ่านไปยังพี่ๆสื่อมวลชนให้เสียงของพี่ๆดังขึ้นเพื่อจะร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
จากนั้นนายยศวัจน์ ชัยวัฒนศิริกุล ที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ ลุกขึ้นกล่าวว่า หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐได้เข้าร่วมรัฐบาลพวกเราดีใจว่าวันนี้คงจะมีใครสักคนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้เข้ามาร่วมกำหนดนโยบายกับทางพรรคเพื่อไทยหลังจากนั้นก็ได้ติดตามตลอดพบว่าพวกเราก็ได้ส่งคนถูกแล้วที่เป็นลูกชาวนาจากจังหวัดพะเยาเราจึงมาให้กำลังใจท่านซึ่งพวกตนก็ดีใจและมีความคาดหวังอย่างสูง
"เราได้เคยสัมผัสแล้วพวกเราก็เคยได้รับติดตามผลงานของท่านธรรมนัสเช่นการคืนโฉนดการเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนได้รับความอนุเคราะห์จากพล.อ.ประวิตรโดยส่วนตัวพวกเราในฐานะที่เป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยของภาคการเกษตรที่ชื่อว่าสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทยพวกเรามีความเดือดร้อนในการทำมาหากินไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งน้ำเรื่องที่ดินทำกินพร้อมทั้งเรื่องหนี้สินและที่ผ่านมาสมัยที่ร.อ.ธรรมนัสได้เป็นรัฐมนตรีช่วยฯพวกเราได้เคยรับการสงเคราะห์แนะนำติดต่อประสานงานให้ไปช่องทางที่จะต้องติดต่อกับหน่วยงานรัฐจนพวกเราได้รับการแก้ปัญหา"นายยศวัจน์กล่าว
นายยศวัจน์ กล่าวต่อว่า วันนี้ร.อ.ธรรมนัสจะได้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีใหญ่พวกเรามีความคาดหวังว่าตลอดระยะเวลา 4ปีหลังจากนี้พวกตนคงจะได้มีโอกาสยืนบนขาตัวเองได้ภายใต้นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ได้ติดตามเรามีความเชื่อมั่นวันนี้อยากให้มีความสามัคคีกันในพรรคที่จะร่วมการจัดตั้งรัฐบาลไม่อยากให้ทำลายความหวังของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรโดยพวกตนขอให้กำลังใจและมีความเชื่อมั่นในหน่วยงานที่ผ่านมาแม้จะทำได้อย่างไม่เต็มที่มากนักเนื่องจากเป็นพรรคร่วมแต่ครั้งนี้เราต้องขอแสดงความดีใจขอแสดงจุดยืนว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเปลี่ยนไปเป็นพรรคอื่นไม่ได้
นายยศวัจน์ ย้ำว่าทุกวันนี้มีคนบอกว่าเราเป็นกลุ่มจัดตั้งเราเดินทางมาเองข้าวยังไม่ได้กินเลยมาจากภาคใต้มาจากจังหวัดพะเยาจากจังหวัดกำแพงเพชรนครสวรรค์และอีกหลายจังหวัดรวมถึงจังหวัดในภาคอีสานเราจะรอฟังว่ารัฐมนตรีของพวกเราที่เรามีความคาดหวังภายใต้การกำกับของพล.อ.ประวิตรเรามีความเชื่อมั่นและตำแหน่งไม่ควรจะเปลี่ยนจากตรงนี้ไปอีกแล้ว
จากนั้นนายไผ่ กล่าวว่า ตนมาในนามร.อ.ธรรมนัสตอนขับรถเข้ามาตนเห็นถึงความลำบากเห็นนั่งอยู่ริมถนนเราเป็นพรรคของประชาชนเราก็เลยคุยกันว่าให้เข้ามานั่งคุยในพรรคพลังประชารัฐเนื่องจากอยากรู้เหตุผลอยากรับฟังตนก็เป็นคนส่วนหนึ่งที่ได้อยู่ในคณะเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลมาโดยตลอด
"ผมอยากจะบอกว่าผมเชื่อมั่นว่าคงไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลในส่วนที่คิดและเรื่องนโยบายการเกษตรจะบอกว่าเป็นสิ่งที่เราพูดคุยกันในทุกพรรคเราบอกเรื่องนโยบายดีๆของทุกภาคส่วนเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรวมถึงเรื่องอะไรต่างๆ ก็ขอให้พี่น้องเกษตรกรสบายใจได้ในส่วนที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเคยทำเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำเรื่องโฉนดที่ดินทำกินที่ดินส.ป.ก.ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของเราทุกอย่างเพื่อที่จะให้พ่อแม่พี่น้องลืมตาอ้าปากได้"
นายไผ่กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ร.อ.ธรรมนัสจะได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ตนก็มั่นใจว่าทุกๆคนที่มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีครั้งนี้อาจจะถูกหั่นนิดหน่อยแต่เชื่อว่าทุกอย่างจะจบลงได้ด้วยดีอยากให้ทุกคนสบายใจวันนี้ที่มานั่งคุยกันท่านใดอยากจะฝากนโยบายอะไรไว้ขอให้ฟังได้เลยตนจะเอาไปนำเสนอหลังจากนี้ที่เราเคยทำไว้เชื่อว่าถ้าเรามีโอกาสเรามีตำแหน่งที่ได้ขับเคลื่อนก็จะทำงานเต็มที่ให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้มีรายงานว่าวันนี้ยังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรแต่ละจังหวัดรวมถึงประชาชนในพื้นที่ได้ส่งตัวแทนไปร่วมยื่นหนังสือและให้กำลังใจพรรคพลังประชารัฐในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลและให้กำลังใจร.อ.ธรรมนัสพรพมเผ่าในฐานะเลขาธิการพรรคเช่นสภาอาชีพเกษตรกรไปยื่นหนังสือที่สำนักงานสาขาพรรคจังหวัดเชียงใหม่และที่ศูนย์ประสานงานร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่าจังหวัดพะเยาเป็นต้น