ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเห็นชอบ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ 482 ต่อ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง
วันนี้ (22 ส.ค.) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้การรับรอง 287 คน ถือว่า ถูกต้องตามเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 50 คน โดยไม่มีผู้เสนอชื่อคนอื่นเพิ่มเติม จึงมี นายเศรษฐา ถูกเสนอชื่อเพียงคนเดียว
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้เปิดให้สมาชิกทั้ง สส. สว.อภิปรายเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายเศรษฐา กันอย่างกว้างขวาง เป็นเวลา 5 ชั่วโมง จากนั้นในเวลาได้เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการลงคะแนน ด้วยวิธีการขานชื่อสมาชิกรัฐสภาเรียงตามตัวอักษรทีละคนว่าเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ โดยมีองค์ประชุมทั้งสิ้น 705 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จึงได้เริ่มออกเสียงลงคะแนนในเวลา 15.24 น.
การออกเสียงดำเนินไปจนถึงเวลา 16.49 น. เมื่อถึงสมาชิกลำดับที่ 614 ปรากฏ นายเศรษฐา ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนน 375 คะแนน ถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภาที่มีอยู่ 747 คน ทำให้นายเศรษฐาได้เป็นว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทยแน่นอนแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 17.10 น. เมื่อการออกเสียงมาถึงสมาชิกลำดับที่ 737 ได้เกิดเหตุการณ์สมาชิกรายหนึ่งเป็นลมในห้องประชุมรัฐสภา ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะประธานในที่ประชุมสั่งหยุดการออกเสียงลงคะแนนเป็นการชั่วคราว โดย นายเศรษฐา ได้คะแนนเห็นชอบที่ 462 คะแนน ไม่เห็นชอบ 161 งดออกเสียง 80 คน จนเวลาประมาณ 17.24 น.จึงเริ่มลงคะแนนต่อ
จนเวลาประมาณ 17.32 น.ได้มีการปิดการลงคะแนน ผลการลงมติ ปรากฏว่า นายเศรษฐา ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนน 482 ต่อ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง เป็นอันว่านายเศรษฐาได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของรัฐสภา ถือว่ามติที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบให้นายเศรษฐาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 272 หลังจากนั้นประธานได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 17.40 น.