“เจี๊ยบ” โวยป้ายสีเทส้มทะลุวัง โต้ปัดไม่รู้จัก “บุ้ง” โยนหลายคนมีความเป็นตัวเองสูง ชักจูงแนะนำไม่ได้

“อมรัตน์” งัดคลิปแจงถูกบิดเบือนป้ายสีเทม็อบทะลุวัง ย้ำ ไม่ได้รู้จักนักกิจกรรมทุกคน แต่ไม่ได้บอกไม่รู้จัก ”บุ้ง” รับรู้จักแยะ ไปประกัน-ชุมนุม อ้างหลายคนมีความเป็นตัวเองสูงมาก ชักจูงแนะนำไม่ได้ และไม่อยากสอนใคร

วันนี้ (13 ส.ค.) “เจี๊ยบ นครปฐม” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.นครปฐม โพสต์คลิป พร้อมข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ระบุว่า...

ชี้แจงเรื่องที่ถูกบิดเบือนเพื่อใส่ร้ายป้ายสี

หลักฐานจากคลิปนี้ (นาทีที่ .49) ดิฉันตอบคำถามว่า “ไม่ได้รู้จักน้องๆ กลุ่มกิจกรรมทุกกลุ่มทุกคน รู้จักเป็นบางกลุ่มบางคน”

ไม่มีเนื้อหาตอนใดเลยที่ปฏิเสธว่า ไม่รู้จัก #บุ้ง กลุ่มทะลุวัง ตามที่ไปกระพือข่าวใส่ร้ายว่า “พอมีปัญหาดิฉันทิ้งเด็กเพื่อเอาตัวรอดด้วยการปฎิเสธว่าไม่รู้จักบุ้ง”

และตามปั่นขยายความไม่รู้จบเพื่อด้อยค่ากันด้วยเจตนาร้าย และไร้หลักฐาน

ข้อเท็จจริงคือมีนักกิจกรรมเกิดขึ้นมาใหม่หลากหลายกลุ่มมากจริง

ที่ดิฉันรู้จักส่วนตัวหลายคนเพราะเจอกันบ่อย พวกนี้เป็นกลุ่มเก่าที่เกิดขึ้นช่วงปี 63-64 เพราะไปประกันตัวบ้าง ไปเจอในที่ชุมนุมเป็นประจำ เช่น รุ่นเพนกวิน ในปัจจุบันมาเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคน เช่น โตโต้ ลูกเกด ชลธิชา น้องจีน เชียงใหม่

ผู้ชุมนุมและนักกิจกรรมทั้งหลายคงพอจะทราบและเป็นพยานได้ว่า “พวกเขาล้วนมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก” หลายๆ คนสูงมากจริงๆ เกินกว่าที่ผู้ใหญ่อย่างเราจะไปชี้นำชักจูง แนะนำ หรือห้ามปรามใดๆ ให้พวกเขาต้องทำ หรือต้องไม่ทำอะไรได้เลย

ความสัมพันธ์ดิฉันกับบุ้ง กลุ่มทะลุวัง นอกจากมีพบกันในกิจกรรมต่างๆ แต่ไม่ได้มีโอกาสพูดคุย

แต่ครั้งที่ #ตะวันแบม อดอาหารประท้วง ช่วงวิกฤตได้เจอบุ้งที่หน้าศาลฎีกา ดิฉันถามไถ่อาการของ #ตะวันแบม และมีการขอเบอร์โทร.กันไว้เพื่ออาจจะโทร.ติดตามความคืบหน้าอาการ

หลังจากนั้น ดิฉันมีโอกาสพูดคุยจริงจังกับน้องบุ้ง 1 ครั้ง ช่วงที่มีปัญหาเรื่องหยกปีนรั้วเข้า ร.ร.

จึงโทร.ไปถามรายละเอียดทำไมคุณแม่ของน้องหยกถึงไม่มามอบตัวกับทาง ร.ร.ให้ ก่อนจะนัด#บุ้ง กับ #หยก มาคุยกันเพื่อสอบถามรายละเอียดว่าทำไม ร.ร.ถึงไม่ให้เข้าเรียน

ในวันนั้นมีน้องอีก 2 คน ติดตามมาด้วย ซึ่งดิฉันจำชื่อไม่ได้และไม่ทราบว่าอยู่ในกลุ่มทะลุวังด้วยหรือเปล่า

หลังจากวันนั้น ดิฉันได้แต่ติดตามเรื่องของพวกเขาผ่านทางสื่อมวลชนด้วยความห่วงใย เพราะส่วนตัวไม่อยากให้ทำกิจกรรมที่จะทำให้เสียแนวร่วมไป แต่ไม่รู้จะไปใช้สิทธิอะไรไปตักเตือน หรือทำอะไรมากกว่านี้ได้เพราะก็ไม่ใช่ผู้ปกครอง ไม่ชอบทำตัวไปสอนสั่งใครแบบคุณครูรู้ดี

และที่สำคัญ ไม่รู้ว่าเราจะเป็นคนที่พวกเขาจะรับฟังรึเปล่า

อยากให้เลิกปั่นสักทีว่าดิฉันพูดว่าไม่รู้จักบุ้ง อยู่เบื้องหลังใช้เด็กเป็นเครื่องมือแล้วพอมีปัญหาก็ทิ้งเด็ก

คลิปนี้ให้สัมภาษณ์วันที่ 8 ส.ค. 66

หลังมีกรณีน้องๆ ไปทำกิจกรรมหน้าพรรค พท.และสังคมตั้งคำถามว่าดิฉันและพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลัง และสื่อมารอสัมภาษณ์ใต้ตึกไทยซัมมิท

บันทึกไว้ 13 ส.ค. 66