“เชาว์” หวัง เลื่อนเลือก หน.ปชป.ออกไปก่อน จนกว่าจะแก้ไขข้อบังคับพรรคให้เป็น ปชต. เหตุเกิดปรากฏการณ์ ส.ส.สั่งได้ ทำให้เห็นจุดอ่อนต่อทิศทาง อุดมการณ์พรรคในอนาคต แถมมีการเพิ่มองค์ประชุมอย่างไม่มีเหตุผล ส่อเติมคะแนนให้พวกตัวเอง เตือนสมาชิกพรรค นิ่งดูดายอาจได้เห็น ปชป.ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
วันนี้ (5 ส.ค.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ลงเฟซบุ้ก ่รื่อง ตั้งหัวหน้าพรรค ปชป.ต้องสง่างาม มีเนื้อหาระบุว่า มีสมาชิกจำนวนมากโทรศัพท์สอบบถามมาที่ผมว่า เรื่องเกี่ยวกับข้อโต้แย้งการใช้ข้อบังคับพรรคในการประชุมที่กำหนดเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ค.) เป็นมาอย่างไร ก็เลยขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ชี้แจงเเพิ่มเติม เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกที่เป็นองค์ประชุมในขณะนี้จากที่ได้อ่านคำร้องที่มีผู้ไปยื่นต่อ กกต.ตามที่ปรากฏเป็นข่าว มีประเด็นข้อกังวลจากสมาชิกที่ไปยื่นคำร้อง 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. การใช้สัดส่วนการคำนวณคะแนนเสียงในการเลือกสมาชิกเป็น กก.บห.พรรค ในสัดส่วนร้อยละ 70 ต่อ 30 ที่กำหนดให้ ส.ส.ปัจจุบันมีสัดส่วน 70% ขณะที่สมาชิกพรรคมีสัดส่วน 30% ที่ผู้ร้องมองว่าขัดหลักประชาธิปไตย ซึ่งส่วนตัวผมก็เห็นคล้อยตามอยู่ แม้ข้อบังคับพรรคนี้จะใช้บังคับมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดปัญหาในเชิงประจักษ์ให้เห็นว่า หาก ส.ส.ถูกครอบงำได้ จะเกิดปัญหาต่อการกำหนดทิศทางของพรรคอย่างไร เพราะในอดีต ส.ส.มีอิสระสูง มีความเป็นตัวของตัวเองในการใช้ดุลพินิจพิจารณาบนกรอบของอุดมการณ์พรรค แต่ในครั้งนี้มีสัญญาณหลายอย่างปรากฏให้เห็นว่าไม่เป็นอย่างนั้น ออกไปในแนวทางสั่งซ้ายหัน ขวาหันได้มากกว่า ซึ่งเป็นอันตรายต่อการบริหารพรรคในอนาคต จึงสมควรมีการปรับเปลี่ยนข้อบังคับพรรคนี้เสียก่อนที่จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะได้ปราศจากข้อกังขาว่าพรรคถูกชี้นำและกำหนดทิศทางจากคนบางกลุ่มเท่านั้น
2. การเพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากที่ข้อบังคับพรรคให้พิจารณาที่มาจำนวน 250 คนก่อน แต่กลับมีการเพิ่มสัดส่วนที่มาอื่นเป็น 374 คน เรื่องนี้ผมคิดว่าสุ่มเสี่ยงมาก ที่จะถูกมองว่าเป็นการเพิ่มเติมพรรคพวกตัวเองเข้าไป เพื่อเพิ่มคะแนนของฝั่งตัวเองให้เกิดความมั่นใจว่า จะได้ผู้บริหารชุดใหม่ตามทีตัวเองวางแผนไว้
“ผมไม่แน่ใจว่า กกต.จะมีคำสั่งให้พรรคประชาธิปัตยชะลอการเลือกหัวหน้าพรรคในวันพรุ่งนี้ออกไปก่อน เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคตามคำร้องหรือไม่ แต่ที่กระจ่างในความคิดของผมตอนนี้ คือ การเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รอได้ เพื่อให้เกิดความสง่างาม และป้องกันไม่ให้มีการใช้จุดอ่อนจากข้อบังคับพรรคในปัจจุบันไปเป็นประโยชน์ทางการเมือง เพราะหากปล่อยไปเราอาจได้เห็นประชาธิปัตย์ ที่เราไม่เคยรู้จักอีกต่อไป” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย