“ภูมิธรรม” ขอบคุณ “พปชร.” ช่วยหนุนแคนดิเดตนายกฯ พท. แบบไร้เงื่อนไข ยินดีรับทุกเสียง ไม่เกี่ยวพรรค-กลุ่ม แต่ยกมือให้ไม่ใช่เรื่องร่วม รบ. ปัดไปขอโทษ “ก.ก.” แค่พูดพร้อมรับผิดชอบ โวโหวตนายกฯผ่าน ตั้ง ครม.จบภายใน 1 เดือน ใครไม่ยกมือให้ไม่อยู่ในสมการตั้ง รบ. พ้อ “พท.” มีต้นทุนที่ต้องจ่าย
วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ พร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ว่า ต้องขอบคุณนายไผ่ และสมาชิกพรรคที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 40 คน จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และได้ยินว่า นายไผ่ ก็ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร แค่เห็นว่าประเทศต้องเดินไปข้างหน้าสนับสนุนให้มีรัฐบาลโดยเร็ว ซึ่งชัดเจนว่าเขาไม่มีเงื่อนไข แต่ใครจะร่วมกับเราบ้างอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรให้ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพเพื่อผลักดันนโยบายได้
“ขอขอบคุณ และยินดี เราต้องการความสมานฉันท์และความชัดเจนในการแก้ไขวิกฤต ถ้าได้ทั้งหมดก็ยิ่งดีแต่ขึ้นอยู่กับเอกสิทธิ์ ส.ส. และการดำเนินการของเรายืนยันไม่มีงูเห่า เพราะไม่ได้เอากล้วยไปซื้อ แต่เอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง” นายภูมิธรรม ระบุ
เมื่อถามว่า การที่ นายไผ่ ประกาศสนับสนุนเช่นนี้ พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ต้องมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเหมือนพรรคอื่นๆ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้กำหนดเรื่องดังกล่าว ตนเพิ่งได้ยิน นายไผ่ พูดเมื่อวาน (10 ส.ค.) ยังไม่ได้ตกลงว่า จะร่วมรัฐบาลหรืออะไร วันนี้จึงต้องขอบคุณเจตนารมณ์ และมิตรไมตรี ตนยินดีไม่ว่าจะเป็นพรรคหรือกลุ่ม
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการพูดคุยและจะมีการประกาศออกมาเหมือนพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความจริงก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หากเห็นว่าเราเป็นแกนนำ และสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ ก็แสดงเจตนารมณ์ช่วยสนับสนุนเรา ตอนนี้เราไม่ทราบว่าใครจะสนับสนุนเราบ้าง แต่ได้หมดเลย ทั้งพรรคประชาธิปัตย์, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเป็นธรรม สามารถสนับสนุนได้หมด เพราะเราเป็นรัฐบาลพิเศษเอาวาระประชาชนเป็นหลัก
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่า หากเรามี 2 ลุง จะไม่โหวตให้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราพูดกับพรรคก้าวไกลแล้วว่า ดูจากความเป็นจริงแล้ว ทุกพรรคการเมืองไม่ปรารถนาจะร่วมด้วย หากเราอยู่ในวังวนนั้น เราก็ไม่สามารถที่จะก้าวไปได้ วันนี้หากเราจับกับพรรคก้าวไกลเหมือนเดิม ก็จะได้ 312 เสียง ไม่สามารถบรรลุได้ พรรคเพื่อไทยพูดจุดยืนชัดเจนว่าต้องไปเป็นรัฐบาลเพื่อให้เจตนารมณ์ในการแก้วิกฤตชาติให้สำเร็จ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตอนไปคุยกับพรรคก้าวไกล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ก็เป็นคนพูดว่า เราไม่ได้มีอะไรต่อกัน ความรู้สึกยังดีต่อกัน มีบ้างที่แฟนคลับจะทะเลาะกัน ถือเป็นความเห็นต่างในหมู่ประชาชน แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพรรคการเมือง คือ การทำงานร่วมกัน ซึ่งตนก็ได้เล่าทั้งหมดให้ฟัง และยังบอกว่า สิ่งที่ตนพูดว่า ยินดีที่จะไปขอโทษขอขมาให้ ยืนยันว่าพูดจริง
“แต่ผมไม่มีเจตนาที่จะไปขอขมา เพราะไม่ได้รู้สึกว่าผิดอะไร แต่ที่พูดว่าจะไปขอโทษขอขมา เป็นคำพูดสร้อยที่ผมพร้อมรับผิดชอบ แต่นัยของผม คือ ถ้าไปแล้วมีอะไรขุ่นข้องตนยินดีที่จะขอโทษ” นายภูมิธรรม ระบุ
นายภูมิธรรม เล่าต่อว่า และรู้สึกว่า หากต้องไปที่พรรคเขา และต้องเชื้อเชิญเขา พรรคเพื่อไทยก็ยินดีไป เพราะเราปรารถนาว่าการตั้งรัฐบาลหากสามารถทำได้ด้วย ส.ส. จะแก้วิกฤตได้ ถือเป็นหนึ่งทางเลือก แต่การพูดคุยกันเราพูดชัดว่า หากทางนี้เป็นไปได้ถือเป็นทางที่ดีที่สุด แต่ถ้าไม่เป็นไปเช่นนี้ก็มีทางเลือกอีกหลายทางซึ่งพรรคเพื่อไทยต้องจ่ายต้นทุนมาก คิดว่าการทำหน้าที่ของเราแม้ต้องจ่ายต้นทุนสูงแล้วได้ผลอย่างที่เราหวังก็ถือว่าคุ้มค่า ส่วนการตัดสินใจครั้งนี้จะผิดจะถูกอย่างไรอยู่ในดุลพินิจของประชาชนและพร้อมรับผลที่จะเกิดขึ้น
“ทุกวันนี้หากพรรคเพื่อไทยตัดสินใจไป เราทำไปด้วยความรับผิดชอบ รู้ว่าต้องจ่ายต้นทุนสูง แต่สิ่งที่เรากำลังทำเป็นสิ่งที่เราอยากเห็นประเทศมีทางออก” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามถึง กระแสข่าวการพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เป็นการไปบอกว่าจะตั้งรัฐบาลโดยมีคนของพรรค 2 ลุงเข้าร่วมด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า การที่เราไปพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ละครเหมือนที่หลายคนออกมาตั้งข้อสังเกต ตอนที่เราเดินไปก็คิดว่าไม่มีอะไร เราไปอย่างเปิดเผย เมื่อไปถึง น.ส.แพทองธาร เป็นคนเริ่มพูดคุยต่างฝ่ายต่างเล่าเรื่องให้กันฟังว่าเราทำอะไรไปบ้าง การไปพบเราต้องการอะไร และมอบหมายให้ทีมเจรจาเป็นคนชี้แจง
เมื่อถามว่า หากพรรค 2 ลุงโหวตให้นายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย จากนั้นจะมีการมาร่วมรัฐบาลเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิยกมือให้พรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้หมายความว่าการยกมือให้จะต้องได้เป็นรัฐบาลร่วมกันทั้งหมด เมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นพรรคเพื่อไทย แล้วการจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีหลายเงื่อนไข ทั้งเรื่องนโยบาย ตัวบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรี และเรื่องอะไรอีกหลายอย่าง
“หากวันที่ 16 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าโหวตต่อไปได้ พรรคเพื่อไทยก็จะเสนอ คุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และให้โหวตผ่านไปเลย ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ภายใน 1 เดือนอย่างช้า พรรคเพื่อไทย จะจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จ และนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาจะเสร็จ ก่อนเดือน ต.ค. 66 ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้” นายภูมิธรรม ระบุ
เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ จะร่วมโหวต เป็นการส่งสัญญาณว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะร่วมโหวตให้พรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เราขอทุกภาคส่วนทั้ง ส.ว.และ ส.ส. เราไม่ทราบว่า ส.ว. ส.ส. กลุ่มการเมืองไหนจะมีอะไรอย่างไร วันนี้เราต้องการแสดงออก
เมื่อถามว่า ตัวเลขพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสถียรภาพควรอยู่ที่เท่าใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพถึงจะผลักดันนโยบายได้ ตัวเลขจะอยู่ที่เท่าไดนั้น อยู่ที่การร่วมมือกันว่าตัวเลขไหนจะดีที่สุดทำให้ปัญหาน้อยที่สุด
เมื่อถามย้ำว่า ต้องได้เกิน 300 เสียงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สื่อลองคิดดู เพราะเสถียรภาพที่มั่นคงแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นเรื่องที่พูดยาก
เมื่อถามว่า ดีลกับพรรค 2 ลุงจบแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีดีล ดีลคือเลือกนายกรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อตกลง แต่เมื่อเลือกได้แล้วเราถึงจะดำเนินการ ใครเลือกก็อยู่ในเงื่อนไขที่ต้องคุยกันว่าจะมีส่วนร่วมกันได้ขนาดไหน ไม่เลือกก็ชัดเจนว่า ไม่เอาเราไม่เป็นไร ถือว่าเราไม่มีพรรคเหล่านั้นในสมการ
เมื่อถามว่า สรุปแล้วเสถียรภาพต้องมี 2 ลุง อยู่ในสมการหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า คณิตศาสตร์ทางการเมืองชัดเจนอยู่แล้วลองไปดูว่าเป็นอย่างไร มันเป็นความจำเป็นและเกณฑ์บังคับให้เราต้องเดิน วันนี้ที่เราเลือกเดินพรรคเพื่อไทยต้องจ่ายต้นทุนสูงและเชื่อว่าประชาชนจะต้องตัดสินใจ