ปธ.เครือข่าย ปชช.ต้านคอร์รัปชัน เตรียมร้องศาล ปค.สูงสุดสั่งจับ ป.ป.ช. พร้อมปรับสูงสุด หลังยังดื้อปกปิดไม่ให้เอกสารสอบ “บิ๊กป้อม” ยืมนาฬิกาเพื่อนอย่างถูกต้องครบถ้วน ซ้ำใช้อำนาจออกมติฝ่าฝืนคำพิพากษาเล็งเอาผิดอาญาเพิ่ม
วันนี้ (10 ส.ค.) นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เข้าพบ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อขอเอกสารรายงานผลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรทราบ เนื่องจากไม่แสดงว่ามีนาฬิกาข้อมือและแหวนประดับหลายรายการของ ป.ป.ช. ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาสั่งให้ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลเอกสารดังกล่าวจำนวน 3 รายการ ภายหลังการเข้าพบ นายวีระ เปิดเผยว่า ป.ป.ช.ให้เอกสารตนเพียง 2 รายการ คือ รายงานผลการตรวจสอบและบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของพลเอก ประวิตร จำนวน 90 แผ่น และรายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็พบว่าเอกสารที่ให้ยังคงมีลักษณะของการปกปิดเหมือนเดิม ทุกหน้าที่มีรายชื่อ มีข้อมูลข้อความสำคัญ รายการทรัพย์สินซีเรียลนัมเบอร์นาฬิกา 22 เรือนก็มีการคาดทับด้วยสีดำ และที่ตนรับไม่ได้ คือ เอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่หน้า 48-86 ป.ป.ช.บังอาจ ให้กระดาษเปล่ากับตน โดยเลขาฯ ป.ป.ช.อ้างว่า ดำเนินการตามมติของ ป.ป.ช.
“ที่ผ่านมา ป.ป.ช.พยายามที่จะไม่เปิดเผยเอกสารทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาแล้ว และมีการไปฟ้องเพื่อให้มีการพิจารณาคดีใหม่ จนเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลก็เรียกไปไต่สวน ว่าได้ให้เอกสารกับผมครบถ้วนแล้วหรือยัง ป.ป.ช.ก็บอกว่ายังไม่ได้ให้เลยโดยไม่มีเหตุผลสมควรอื่น ศาลก็มีคำพิพากษาให้ ป.ป.ช.ต้องให้เอกสารกับผมอยากถูกต้องครบถ้วนทั้ง 3 รายการภายในวันที่ 11 ส.ค.นี้ แต่ ป.ป.ช.ก็ยังดื้อ เอกสารที่ให้กับผมวันนี้ก็ยังคงปกปิดเหมือนเดิมไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล”
นายวีระ ยังระบุว่า จะรอดูพรุ่งนี้ (11) ซึ่งจะครบกำหนดเวลาที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งว่า ป.ป.ช.จะมีการเปิดเผยเอกสารเพิ่มเติม รวมทั้งจะให้เอกสารที่ชัดเจนกว่านี้กับตนตามที่ศาลมีคำสั่งหรือไม่ หากไม่มีตนจะไปร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ให้สั่งปรับป.ป.ช.ขั้นสูงสุดไม่ต่ำกว่าวันละ5หมื่นบาท รวมทั้งจะขอให้ศาลจับกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งหมด และ เลขาฯ ป.ป.ช. มาขังไว้ก่อนจนกว่าจะให้เอกสารกับตนอย่างถูกต้องครบถ้วน และจะใช้สิทธิดำเนินคดีอาญาในฐานะที่ใช้ ป.ป.ช.ใช้มติของตัวเองมาฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดซึ่งถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยรายงานผลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของพลเอก ประวิตร กรณียืมนาฬิกาเพื่อนต่อนายวีระ รวม 3 รายการ คือ 1. รายงานและสำนวนการตรวจสอบ การไต่สวน และการไต่สวนเบื้องต้น รวมทั้งบรรดาเอกสารที่เกี่ยวข้อง รายการการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด 2. ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 3 รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ ป.ป.ช.มีมติให้เปิดเผยเอกสารรายที่ 1 และ 3 เท่านั้น โดยอ้างว่า รายการที่ 2 ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. หากเปิดเผยอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พนักงานไต่สวน พนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก