xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายอั๋น” ให้ข้อมูลดีเอสไอ ปมสอบรถหรู “เรืองไกร” เอี่ยวฟอกเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “ทนายอั๋น” แจงเข้าให้ถ้อยคำพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ กรณี “เรืองไกร” ครอบครองหรูอ้างผู้ใหญ่ซื้อให้ เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ ยันไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง

วันนี้ (9 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชั้น 8 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามหนังสือเชิญกรณีที่ร้องเรียนว่านายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มีพฤติการณ์กระทำความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า วันนี้มาตามคำเชิญของพนักงานสอบสวนเพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติม กรณี นายเรืองไกร ครอบครองรถหรู เมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น S 560 จากผู้ใหญ่ใจดีที่ซื้อให้ มูลค่า 3-5 ล้านบาท และพฤติการณ์รับแคชเชียร์ จำนวน 25 ล้านบาท ถึงแหล่งที่มาของเงิน ว่ามีความผิดตามมาตรา 143 ว่า ผู้ใดเรียกรับเงินและผลประโยชน์จาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง รวมทั้ง การแจ้งความอันเป็นเท็จต่อ กกต. ในความผิดตามกฎหมายการเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นมูลฐานความผิดฟอกเงิน โดยขณะนี้กระบวนการสอบสวนดีเอสไอเป็นไปตามขั้นตอน

นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า ในคดีนายเรืองไกรครอบครองรถหรู แยกเป็น 2 ส่วน 1.การกระทำความผิดในกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. เป็นเจ้าภาพ ดีเอสไอสามารถดึงเรื่องจาก กกต. มาตรวจสอบได้ทันที ไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพราะเข้าข่ายความผิดชัดเจน และ 2.นายวีระ สมความคิด เคยยื่นเรื่อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรืองไกร เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งมีรายละเอียดที่มาต่างๆ อยากให้ดีเอสไอ ไปดึงสำนวนตรงนั้นมาตรวจสอบ หลังจากนั้นอาจมีการเรียกนายเรืองไกรและภรรยา มาให้ข้อมูลกับดีเอสไอตามกระบวนการสอบสวนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนยื่นเรื่องต่อดีเอสไอให้ตรวจสอบกรณี นายเรืองไกร ครอบครองรถหรู และ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด “ทนายตั้ม” กับ นางจตุพร อุบลเลิศ “ป้าอ้อย” เรื่องมอบเงินและอาคารเรียน ในแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนกว่า 100 ล้าน ซึ่งมีการออกเลขสืบสวนแล้วทั้ง 2 คดี

“การที่ผมมาร้องเรียนบุคคลต่างๆ ทั้ง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ , นายศรีสุวรรณ จรรยา หรือ ทนายตั้ม ไม่เคยมีผู้อยู่เบื้องหลังทำด้วยตัวเอง แม้เคยประกาศไว้แล้วว่า นายพิธา จะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม ซึ่งล่าสุดยื่นศาลปกครองกรณีโหวตนายกฯ รอบ 2 และทุกอย่างทำด้วยใจทั้งสิ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น