“ประยุทธ์” เยี่ยมชมโครงการนำพลังงานความเย็นเหลือใช้จากการเปลี่ยนสถานะของก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพิ่มประสิทธิภาพการปลูกพืชเมืองหนาว ต่อยอดด้านการเกษตรเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (9 ส.ค.) เวลา 15.30 น. นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมโครงการนำพลังงานความเย็นเหลือใช้จากการเปลี่ยนสถานะของก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกพืชเมืองหนาว ณ อาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นการดำเนินงานโดยบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) ผู้ให้บริการจัดส่งก๊าซธรรมชาติที่ได้จากการเปลี่ยนสถานะ LNG เข้าสู่โครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับภาคอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าในการผลิตกระแสไฟฟ้า เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานสรุปภาพรวมโครงการ ซึ่งโครงการใช้การพัฒนาความเย็นจาก LNG มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในขั้นตอนการแปรสภาพก๊าซ LNG จากของเหลวเป็นก๊าซธรรมชาติ ทำให้เกิดพลังงานความเย็นเหลือใช้ ทั้งการนำไปใช้ในโรงแยกอากาศ Air Separation Unit ซึ่งเป็นหน่วยแยกอากาศแห่งแรกของประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำพลังงานความเย็นจากการเปลี่ยนสถานะ LNG มาใช้ รวมถึงนำความเย็นไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพในหน่วยผลิตไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าใช้เอง ภายในสถานี LNG และนำไปใช้ในระบบปรับอากาศของอาคาร นอกจากนี้ ยังนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพการปลูกพืชเมืองหนาวและพืชเมืองร้อน ต่อยอดด้านการเกษตรเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยได้ศึกษาทดลองและวิจัยเทคโนโลยีการปลูกพืชเมืองหนาวและพืชเมืองร้อน ณ ศูนย์เลิศพัฒนพฤกษ์ ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเป็นการออกแบบภายใต้แนวคิดอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ความเย็นจากก๊าซ LNG และได้รับรางวัลอาคารเขียวไทย (Thai Green Building Institute: TGBI) ระดับ Platinum ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของรางวัลอาคารเขียวไทย โดยมีเป้าหมายเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตรสมัยใหม่ให้แก่ชุมชน เกษตรกร นิสิต และนักศึกษา ทั้งในพื้นที่จังหวัดระยอง และจังหวัดอื่นทั่วประเทศ
สำหรับพื้นที่ส่วนจัดแสดงพันธุ์ไม้เมืองหนาวที่ปลูกโดยใช้ความเย็นจากก๊าซ LNG แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่พรรณไม้ที่ปลูกไว้ถาวร ได้แก่ ไม้ยืนต้นผลัดใบ (Deciduous plants) อาทิ ต้นเบิร์ช แมกโนเลีย เมเปิ้ลปลูกร่วมกับไม้พุ่มที่ออกดอกตามฤดูกาล (Seasonal Flowers) อาทิ ทิวลิป ไฮเดรนเยีย ดอกแดฟโฟดิล ซึ่งสามารถขึ้นได้ในสภาพอากาศเย็น และพื้นที่แปลงจัดแสดงไม้ดอกเมืองหนาวที่นำมาจากศูนย์เลิศพัฒนพฤกษ์ของสถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 1 ที่จะจัดแสดงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามแต่ละเดือน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมการดำเนินการดังกล่าวของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) บริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่มีการพัฒนาต่อยอดพลังงานหมุนเวียน ด้วยการนำความเย็นเหลือใช้จากการแปรสภาพ LNG ให้กลับเป็นก๊าซ (Regasification Process) มาเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกดอกไม้เมืองหนาวได้สำเร็จ และต่อยอดด้านการเกษตรเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมย้ำว่า การเดินหน้าด้านวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ ที่รัฐบาลได้วางรากฐานไว้สำหรับประชาชนทุกภาคส่วนประเทศ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันขับเคลื่อนสานต่อนโยบายของรัฐบาลต่อไป เพื่อเดินหน้าประเทศไปสู่อนาคตร่วมกัน