GPSC ขานรับเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนในปี2573จาก 12GWเป็น 15 GW พร้อมเร่งปิดดีลลงทุนพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังพับแผนการใช้เวียดนามเป็นฐานการลงทุน เบนเข็มไปจีน ออสเตรเลียและสหรัฐฯ โดยชูอินเดียเป็นประเทศบ้านหลังที่สอง
นางรสยา เธียรวรรณรองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC)ในฐานะแกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่มปตท. เปิดเผยว่า ปตท.ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในปี2573จากเดิม 12กิกะวัตต์(GW)เพิ่มเป็น 15 GW โดยมี GPSCเป็นแกนนำในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งบริษัทวางแผนเพิ่มการลงทุนพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจากับพันธมิตรหลายรายเพื่อขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน
นอกจากนี้ GPSCอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนการให้ความสำคัญในการลงทุนที่ประเทศเวียดนามในฐานะเป็นประเทศบ้านหลังที่สอง (Second Home Country)หลังจากศึกษาการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าหลายโครงการพบว่ามีความเสี่ยงที่ไม่สามารถรับได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินความไม่ชัดเจนด้านนโยบายรัฐและรูปแบบการประมูลเป็นต้นทำให้ต้องยุติการลงทุนไปดังนั้นบริษัทจะหาประเทศอื่นๆที่มีศักยภาพดีเข้ามาแทนที่เวียดนาม
ทั้งนี้บริษัทได้กำหนดให้อินเดียเป็น Second Home Countryหลังจากได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทอวาด้าเวนเจอร์ไพรเวท(AVPL)เพื่อร่วมลงทุนถือหุ้น 42.93%ในบริษัทอวาด้าเอนเนอร์ยี่ไพรเวท (AEPL)บริษัทในกลุ่มอวาด้าซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนชั้นนำของอินเดียและยังได้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจAEPLให้ครอบคลุมระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่(BESS)โดยปี2566 AEPLมีกำลังการผลิตรวม 7 GWและมีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 11 GWภายในปี2569รองรับนโยบายรัฐในการส่งเสริมการลงทุนพลังงานหมุนเวียนอย่างครบวงจรเพื่อลดการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
GPSC รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนAEPLในไตรมาส1/2566ประมาณ 128ล้านบาทดีขึ้นเมื่อเทียบสิ้นปี2565ที่บันทึกการขาดทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 300กว่าล้านบาท โดยAEPLวางเป้ามีEBITDA ในปี2567อยู่ที่ 240ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 500 กว่าล้านเหรียญสหรัฐในปี2569หลังจากAEPLมีกำลังผลิต 11GW
ปัจจุบันอินเดียมีประชากรมากกว่า1,400ล้านคนขณะที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อประชากรอยู่ที่1.2เมกะวัตต์ชั่วโมงต่ำกว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประชากรโลกเฉลี่ยที่ 3.4เมกะวัตต์ชั่วโมงดังนั้นรัฐบาลอินเดียมีเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ 500 GWซึ่งส่วนนี้เป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ถึง 280 GWและตั้งเป้าการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน50%ในปี2573ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี2613ดังนั้นอินเดียจึงเป็นตลาดที่จะสนับสนุนให้GPSCเติบโตสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน
การลงทุนในAEPLของ GPSCทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายการเป็นหนึ่งในบริษัทนวัตกรรมผู้ผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด 3อันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยวางแผนเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตมากกว่าครึ่งหนึ่งจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งปัจจุบัน GPSCมีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 3,629เมกะวัตต์คิดเป็น 45%ของกำลังการผลิตรวม8,060เมกะวัตต์
นาย Kishor Nairประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AEPLกล่าวว่าในปี 2566นี้กลุ่มอวาด้าสามารถชนะการประมูลโครงการเสนอราคาการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์จากโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิต PLIเพื่อผลิตแผ่นเวเฟอร์โซลาร์เซลล์และโมดูลและ AEPLยังได้ชนะการประมูลการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ 2.5 GWซึ่งทำให้ปัจจุบัน AEPLมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นมากกว่า 7 GWรวมทั้งบริษัท Brookfieldได้เข้ามาร่วมลงทุนมูลค่ามากกว่า1,000ล้านเหรียญสหรัฐในกลุ่มอวาด้าเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไฮโดรเจน/แอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเนื่องจากการได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ต่างๆไม่ว่าจะเป็น GPSC, Brookfieldเป็นต้น
