นายกฯ โพสต์เฟซบุ๊ก อวดผลงานความสำเร็จคนไทยทั้งด้านนวัตกรรมและการพัฒนา ได้แก่ โครงการโคล้านครอบครัว, Gen Z มีดีให้อวด, Thai Youth Choir และกลุ่มนวัตกร-นักวิจัย นำเสนอสิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ประเทศ
วันนี้ (9 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจทางการ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะขอส่งผ่านพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ที่ได้รับจากคณะเยาวชนและบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพ ที่ได้มารวมตัวกันจัดกิจกรรมบอกเล่าความสำเร็จของเขาเหล่านั้น ให้ผมและคณะรัฐมนตรีได้รับทราบอย่างภาคภูมิใจ โดยผมเองก็ไม่อาจที่จะเก็บไว้เพียงลำพัง จึงขอขยายความรอยยิ้มและความสุขที่ผมได้รับวานนี้ (8 ส.ค. 66) ให้ทุกคนได้ทราบ ดังนี้
คณะที่ 1 นำเสนอผลสำเร็จจาก “โครงการโคล้านครอบครัว” ซึ่งเบื้องต้นมีเป้าหมายสร้างอาชีพเสริมและรายได้ให้กับเกษตรกร ให้หันมาทำปศุสัตว์ควบคู่กับการเพาะปลูก โดยปัจจุบันได้มีการต่อยอดมากมาย เช่น การพัฒนาสายพันธุ์เป็นเนื้อโคเกรดพรีเมียม คุณภาพสูง เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและนอกประเทศ การคิดค้นเมนูอาหารยอดนิยม การแปรรูปผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกทั้งการผลิตผ้าจากมูลโคอีกด้วย
คณะที่ 2 เป็นแคมเปญ “Gen Z มีดีให้อวด” ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่มารณรงค์แต่งกายด้วยผ้าไทย-ผ้าพื้นเมืองในทุกโอกาส ทุกวัน สร้างวัฒนธรรมความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น ตั้งแต่การร่วมหาประสบการณ์จากการทอผ้าเองด้วยกี่ทอผ้าขนาดเล็ก การออกแบบลวดลาย จนถึงการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และอาจยึดเป็นอาชีพได้ในอนาคต โดยเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ลูกค้าทั่วโลกเข้าถึงได้
คณะที่ 3 เป็นนักร้องประสานเสียงเยาวชนไทย หรือ Thai Youth Choir (TYC) ที่ชนะการแข่งขันขับร้องประสานเสียงนานาชาติ ณ เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย หลายรายการ ที่ไม่ใช่เพียงการนำเสนอบทเพลงอันไพเราะ แต่ได้ออกแบบท่าทางประกอบสร้างสีสัน รวมทั้งการแต่งกายชุดไทยที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนความเป็นไทย และศักยภาพด้านสุนทรียภาพของเยาวชนไทยสู่สายตาชาวโลก
คณะที่ 4 เป็นกลุ่มนวัตกร-นักวิจัย ได้นำเสนอสิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ประเทศในอนาคต เช่น (1) พยาบาล AI ที่ช่วยคัดกรองคนไข้ในโรงพยาบาล ทำงานด้วยระบบ Chatbot อัจฉริยะและ Digital Human (2) โรงเรือนปลูกผักอัตโนมัติ เป็นสวนครัวขนาดย่อมในรั้วบ้าน ควบคุมการให้น้ำ ปุ๋ย อุณหภูมิ ด้วย Software เกษตรอัจฉริยะ และ (3) นวัตกรรรมการตรวจสารเสพติดในเส้นผม ทราบผลภายใน 1 ชั่วโมง ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน-แก้ไขปัญหายาเสพติด ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นต้น
ตัวอย่างเหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในความสำเร็จของคนไทย ที่ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนล้วนมีศักยภาพในตัวเอง ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมอย่างถูกต้อง มีทิศทาง ย่อมช่วยให้พลังที่แอบแฝงเหล่านั้น ผลิดอกออกผล เป็นผลงาน/นวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่สายตาชาวโลก ได้อีกมากมาย
ประเด็นสำคัญ ก็คือ พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และจิตนาการทั้งหลายเหล่านั้น ต้องการความมั่นคงทางจิตใจ โดยปราศจากสิ่งรบกวนจากภายในและภายนอก เปรียบได้กับประเทศชาติที่มีความมั่นคง มีเสถียรภาพ ย่อมเป็นช่วงเวลาของ "โอกาสทอง" ในการสร้างความเจริญได้อย่างรวดเร็ว เหมือนในช่วงที่ผ่านมานี้ ที่ประเทศไทยได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในหลายด้าน อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพลิกโฉมประเทศไทย จาก “ประเทศรับจ้างผลิต” ไปสู่ “ประเทศส่งออกนวัตกรรม” สู่ตลาดโลกในอนาคตอันใกล้ครับ