สัญญาณบวก! “บก.ลายจุด” แถลงพร้อมยุติม็อบ ตั้งเงื่อนไข “พท.” 10 ข้อ ปกป้อง “ก.ก.” จากการยุบพรรค-ยึดประโยชน์ ปชช.สูงสุด “อดีตบิ๊ก ศรภ.” แนะ “ภท.” อย่าเร่งตัดสินใจร่วมรัฐบาล ระวัง “เพื่อไทย” หลอกใช้เลือกนายกฯ เชื่อยึดโยง “ก้าวไกล”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (3 ส.ค. 66) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ระบุว่า
“พร้อมแถลง
1. การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วไม่ใช่สถานการณ์จำเป็นที่พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะ สว ไม่ยกมือให้ แต่เป็นการเตรียมการและตกลงกันก่อนเลือกตั้ง
2. ไม่ใช่ประเทศรอ 10 เดือนไม่ได้ แต่เพราะโอกาสที่เพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลไม่สามารถรอ 10 เดือน ต้องทำตอนนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีโอกาสเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล
3. การจับมือข้ามขั้ว แม้มีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ แต่ขัดสัญญาประชาคม ผู้ลงคะแนนเสียงถูกทำให้เข้าใจว่าจะไม่เกิดสิ่งนี้ขึ้น เมื่อเพื่อไทยตัดสินใจเช่นนั้น จึงต้องแบกรับความรับผิดชอบทางการเมือง Voter พท จะเป็นคนตอบว่าความรับผิดชอบทางการเมืองที่เพื่อไทยต้องรับผิดชอบคืออะไร และรูปธรรมจะปรากฏชัดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
4. สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การสลายขั้วเหลือง-แดง ที่ขัดแย้งกันเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นการสลายขั้วพรรคการเมืองในอดีตทั้งหมดกลับเข้าสู่การเมืองก่อนยุค พธม ที่ทุกพรรคการเมืองในสมัยนั้น พร้อมที่จะร่วมมือกันเมื่อเงื่อนไขและผลประโยชน์สอดคล้องกัน มีเพียงพรรคก้าวไกลที่เกิดใหม่ และกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมไม่เข้าพวกทางการเมืองในสายตานักการเมืองผู้มีประสบการณ์
5. ประชาชนจะเกิดเอกภาพทางความคิดมากขึ้น โดยไม่ยึดติดกับพรรคการเมืองหรือตัวบุคคล แต่ยึดถือหลักการเป็นสำคัญ ปรากฏการณ์รัฐบาลข้ามขั้วนั้นบอกกับประชาชน ว่า จงเชื่อมั่นในหลักการ และพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในหลักการจะมีประชาชนยืนอยู่ข้างหลัง ส่วนพรรคการเมืองที่ละทิ้งหลักการ ผนังทองแดง และกำแพงเหล็กจะเปลี่ยนเป็นสังกะสีผุๆ พึ่งพิงได้ไม่มากนัก
6. เพื่อไทย ยังไม่ได้มีสถานะเป็นศัตรู เพราะเขาเชื่อว่า เขายังจะได้รับโอกาสจากการทำงานหนักและสร้างผลงานอันประจักษ์ เขายังอยากผูกมิตรกับประชาชน ในขณะที่ประชาชนที่เคยคาดหวังจะถอยห่างและตะโกนด่าทอจนเพื่อไทย คิดว่า ประชาชนเหล่านั้นแสดงตัวเป็นศัตรูกับตน แต่แท้จริงแล้วพวกเขาผิดหวังและโกรธที่ถูกเพื่อไทยหลอกลวง หากเพื่อไทยหวดกลับหรือตอบโต้คุณจะไม่มีทางชนะใจคนเหล่านี้กลับมาได้จากวิธีคิดเรื่องการสร้างผลงาน โอกาสที่เพื่อไทยจะขยายความนิยมนั้นไม่มีและจะหดแคบลงจนไม่มีสภาพเป็นพรรคขนาดใหญ่
7. การอยู่กับศัตรูของประชาชน จงควบคุมพวกเขา แต่อย่าตกเป็นเครื่องมือของพวกเขาเพื่อทำลายมิตรที่เคยร่วมต่อสู้ และอย่าให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถกลับมาได้อีกครั้ง ให้การเมืองในสภาประกอบด้วยพรรคกลางขวาและพรรคกลางซ้าย และต่อให้การต่อสู้กันในสภาดุเดือดเพียงใด ขอให้ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อย่าให้ใครล้มกระดาน
8. พรรคเพื่อไทยต้องไม่ยุ่งเกี่ยวสนับสนุนหรือเห็นชอบการยุบพรรคก้าวไกล และควรทำหน้าที่ปกป้องในเรื่องนี้ เพราะเพื่อไทยเคยลิ้มรสความอยุติธรรมนี้มาก่อน
9. หากการตัดสินใจในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณ ขอให้ผลประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับประชาชนและพวกคุณได้ประโยชน์นั้นบ้าง ก็แต่น้อย หมายความว่า จงชดเชยและเยียวยาประชาชนจากความรู้สึกผิดหวังเป็นสิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องกระทำอย่างเต็มที่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
10. ขออวยพรให้การตัดสินใจของพวกคุณเป็นสิ่งที่ถูกต้องแม้ประชาชนจำนวนมากจะไม่เห็นด้วย และให้ผลของการกระทำเป็นตัวตัดสินว่าคุณคิดถูกหรือคิดผิด
เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งจากสภาผู้แทนราษฎรสำเร็จแล้ว กิจกรรม #พร้อม จะขอยุติการเคลื่อนไหว และกราบขออภัยคนที่ซักรองเท้าผ้าใบรอเดินบนถนน พบกันใหม่ในคูหาเลือกตั้ง”
ขณะเดียวกัน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ภูมิใจไทยอย่าเร่งตัดสินใจ”
โดยระบุว่า การเมืองวันนี้ เมื่อเพื่อไทย ทิ้งก้าวไกล มารวมกับกลุ่มอนุรักษ์ให้เศรษฐาเป็นนายกฯ โดยระบุว่า ไม่แก้ ม.112 แต่ยังคงนโยบายก้าวไกลในหลายๆ เรื่องไว้ และ ก้าวไกล ก็ยังไม่ยอมรับว่า เป็นพรรคฝ่ายค้าน อีกด้วย จึงน่าสงสัยนักหนา
กรณีนี้ ถ้า ส.ว.ผ่านให้ พรรคเพื่อไทยเป็น นายกฯ เพื่อไทยก็จะติดปีก ได้คุมทุกอย่าง ทั้ง (1) ประธานสภา (2) นายกฯ (3) ตำแหน่ง รมต.สำคัญๆ กว่า 10 ตำแหน่ง และ (4) เสียงสนับสนุนจากก้าวไกลอีก จึงเท่ากับ “พรรคอนุรักษ์ ถูกดองทำอะไรไม่ได้เลย”
นอกจากนั้น ถ้าเกิดขัดแย้งกัน เรื่องนโยบาย กับ เพื่อไทย ในเรื่องออก พ.ร.บ.ต่างๆ ถึงไปโหวตกันในสภา ฝ่ายอนุรักษ์ก็จะแพ้ เพราะเพื่อไทย มีก้าวไกลคอยหนุนอยู่ในสภา แต่ถ้าเกิดความขัดแย้งมากขึ้น เพื่อไทยอาจปรับ ครม.เอา ก้าวไกล เข้ามาแทนก็ได้ เพราะ “เพื่อไทยได้เป็น นายกฯไปเสียแล้ว ไม่ต้องง้อ ส.ว.”
การที่เพื่อไทยยังมีลักษณะ คล้ายกับการปฏิเสธ พรรค 2ลุง อยู่นั้น ยังเป็นการแสดง เยื้อใย ที่ผูกโยง กับ พรรคก้าวไกล อยู่
ดังนั้น พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ไปแยะแล้ว ก็ควรให้หลักประกันแก่พรรคฝ่ายอนุรักษ์บ้าง คือ มอบตำแหน่ง นายกฯให้ไป และพรรคเพื่อไทย ก็เลือกกระทรวงเกรด A ไปแทน มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อหน่อย ใช่ไหมครับ